วันอังคาร, 4 กุมภาพันธ์ 2568

กาญจนบุรี – ป.ป.ช. ประจำ จ.กาญจนบุรี ส่งเอกสารแถลงผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2565

กาญจนบุรี – ป.ป.ช. ประจำ จ.กาญจนบุรี ส่งเอกสารแถลงผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2565 เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปรับทราบ พบมีอดีตนายก และข้าราชการระดับท้องถิ่นเพียบ

วันนี้ 3 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ได้ส่งเอกสารแถลงข่าวผลการดำเนินงานสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำเดือน ก.พ.2565 ให้สื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรีได้รับทราบ ข้อมูลการแถลงข่าวมี ดังนี้
1.ผลงานด้านปราบปรามกรทุจริต มีเรื่องที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับไว้ดำเนินการไต่สวนเบื้องต้นและพิจารณามีมติแล้วทั้งสิ้น 8 เรื่อง เรื่องแรก เป็นกรณีกล่าวหา (นายเด่นพงษ์ ดาบธรรม) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลพังตรุ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี กับพวก ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินขององค์การบริหารส่วนตำบลพังตรุ รวม 3 ข้อกล่าวหา โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 163/2564 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ได้พิจารณาและมีมติว่าการกระทำของ (นางพรทิมา หรือจิดาภา สิริอธิพร) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลพังตรุ มีมูลความผิดฐานกระทำการฝ้าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และการกระทำของ (นายชนก ธนะรัตน์) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลพังตรุ (นายธนกร หรือเกียรติศักดิ์ หอมหวน) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนโยธา องค์การบริหารส่วนตำบลพังตรุ (นางภัชราภรณ์ รอดหลง) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนการคลัง องค์การบริหารส่วนตำบลพังตรุ และ (นางธนันญ์ภร หรือกรรณิกา จุนทการ) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการ องค์การบริหารส่วนตำบลพังตรุ

มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี และนโยบายของรัฐบาล โดยเสียหายแก่ราชการตามประกาศคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดกาญจนบุรี เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ลงวันที่ 22 มกราคม 2565 ข้อ 6 วรรคหนึ่ง ให้ส่งสำนวนการไต่สวนและเอกสารหลักฐาน พร้อมความเห็นไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน (นางพรทิมา หรือจิดาภา สิริอธิพร) เพื่อพิจารณาโทษตามฐานความผิดที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติ

และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัยกับ (นายชนก ธนะรัตน์ นายธนกร หรือเกียรติศักดิ์ หอมหวน นางภัชราภรณ์ รอดหลง และนางธนันญ์กร หรือกรรณิกา จุนทการ) โดยไม่ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนอีก ส่วน (นายเด่นพงษ์ ดาบธรรม) ให้เพิกถอนมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่มีมติให้ไต่สวนและให้จำหน่ายคดีออกจากสาระบบ เนื่องจากเสียชีวิต

เรื่องที่เหลืออีก 7 เรื่อง เป็นกรณีกล่าวหา (นายวรยุทธ คุ้มสิน) ปลัดเทศบาลตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อพลอยจังหวัดกาญจนบุรี กับพวก ออกเอกสารการเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท. 5) โดยมิชอบ และนำไปหลอกลวงขายหรือใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินรวม โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในการประชุมครั้งที่ 171/2564 เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 ได้พิจารณาและมีมติขี้มูลความผิดทางอาญา (นายวรยุทธ คุ้มสิน และนางสาวกัญจนา หนูขาว) เจ้าหน้าที่จัดเก็บรายได้ชำนาญการ เทศบาลตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี

ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสาร หรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ รับรองเป็นหลักฐานว่า ได้มีการแจ้งซึ่งข้อความอันมิได้มีการแจ้ง และรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ และฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 มาตรา 162 (1) (2) และ (4) และมาตรา 134 และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ

เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ชี้มูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ

และฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ มติคณะรัฐมนตรี หรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดกาญจนบุรี เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 3 วรรคสาม และข้อ 6 วรรคสอง

และชี้มูลความผิดทางอาญาบุคคลซึ่งมิใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐอีกหลายราย ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสาร หรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ รับรองเป็นหลักฐานว่า ได้มีการแจ้งซึ่งข้อความอันมิได้มีการแจ้ง และรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ

และฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 มาตรา 162 (1) (2) และ (4) ประกอบมาตรา 86 และ มาตรา 134 และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

ทั้งนี้ การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือว่าเป็นที่สุด ผู้ที่ถูกชี้มูลความผิดยังเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

2.ผลงานด้านการตรวจสอบทรัพย์สิน มีการดำเนินการดังนี้ 2.1 ประกาศเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้บริหารท้องถิ่นให้สาธารณชนทั่วไปรับทราบ ณ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาญจนบุรี และประชาสัมพันธ์เรื่องการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินผ่านทางเว็บไซค์ของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาญจนบุรี และสำนักงานประชาสัมพันธ์ประจำจังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 72 ราย 72 บัญชี

2.2 รับยื่นบัญชีใหม่กรณีเข้ารับตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่นซึ่งมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 198 บัญชี
2.3 ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้บริหารท้องถิ่นซึ่งมีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. แล้วเสร็จ ดังนี้ กรณีตรวจสอบปกติ จำนวน 105 บัญชี กรณีตรวจสอบยืนยัน จำนวน 2 เรื่อง รวม 3 บัญชี

3.ผลงานด้านการป้องกันการทุจริต การดำเนินงานโครงการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการคำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาญจนบุรี ได้ดำเนินการจัดตั้งกลุ่มไลน์เพื่อเป็นช่องทางในการกำกับติดตามให้หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 123 หน่วยงาน ดำเนินการลงทะเบียนเข้าร่วมการประเมิน และได้ติดตามให้หน่วยงานทั้ง 123 หน่วยงาน ดำเนินการในขั้นตอนลงทะเบียนและเปิดใช้งานระบบครบถ้วน 100% ภายในกำหนด สำหรับการแถลงผลการดำเนินงานในครั้งต่อไป จะดำเนินการแถลงให้ทราบในเดือนมีนาคม 2565

ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี

Loading