รพ.นราธิวาส วางมาตรการเข้ม หลัง 2 วัยรุ่นบุกแทงคู่อริดับคาห้องฉุกเฉิน ขณะที่ ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส นำผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดที่ 1 ส่วนจุดเกิดเหตุบุกแทงคู่อริตามคาเตียงห้องฉุกเฉิน ทำแผนพรุ่งนี้เช้าเนื่องจากมีผู้คนพลุกพล่านเกินไป
วันที่ 3 พ.ค.60 จากกรณีที่ 2 วัยรุ่นบุกห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส บุกใช้อาวุธมีดวิ่งเข้าไปจวงแทงคู่อริขณะนอนรักษาตัวอยู่ภายในห้องฉุกเฉินดับคาเตียงภายในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ หลังก่อเหตุทะเลาะวิวาดมาจากภายในงานกาชาดที่ จ.นราธิวาส จัดขึ้นช่วงวันที่ 22 เม.ย.- 1.พ.ค.60 ที่ผ่านมา โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้นายอัสฮา เจ๊ะเลาะ อายุ 30 ปี เสียชีวิต ส่งผลให้ผู้บริหารโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ จ.นราธิวาส ต้องวางมาตรการเข้มเพื่อรักษาความปลอดภัยคนไข้ของโรงพยาบาลฯให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น
ล่าสุดนายแพทย์เจ๊ะ อีดือเระ รองผู้อำนวยการฝ่ายแพทย์โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นทางโรงพยาบาลได้เรียกประชุมบุคลากรของโรงพยาบาลเพื่อวางมาตรการต่างๆขึ้นเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับคนไข้ โดยเฉพาะการดูแลพื้นที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลนราธิวาสฯต้องมีการติดตั้งวงจรปิดเพิ่มขึ้นอีก เพื่อความอุ่นใจของเจ้าหน้าที่ เพิ่มแสงสว่างในจุดอับให้มากขึ้น จัดระเบียบการตรวจใช้บัตรประชาชนสำหรับผู้ที่มาเยี่ยมคนไข้ โดยต้องมีการลงชื่อของคนไข้ที่จะมาเยี่ยมอย่างชัดเจนเพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ อีกทั้งยังจะมีเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เพื่อรักษาความปลอดภัยในเขตพื้นที่ห้องฉุกเฉิน โดยเฉพาะในห้วงที่ทางจังหวัดมีงานใหญ่ๆเช่น งานกาชาด งานของดีเมืองนรา ซึ่งจะมีประชาชนออกมาเที่ยวงาน และอาจจะมีมีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ซึ่งจะมีคนไข้เข้ามาใช้บริการที่โรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องประสานเจ้าหน้าที่มาช่วยในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้มากอีกทางหนึ่ง ส่วนยามรักษาความปลอดภัยรอบบริเวณโรงพยาบาลนั้นคงไม่ต้องมีการเพิ่มแต่อย่างใด แต่ได้กำชับให้ผู้ช่วยยามที่ทำงานอยู่ภายในบริเวณห้องฉุกเฉินช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่อีกแรงหนึ่งด้วย ซึ่งหากมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นก็จะสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้รวดเร็วขึ้น อีกทั้งยังจะเพิ่มปุ่มสัญญาณฉุกเฉินพร้อมประตูเปิดปิดอัตโนมัตเพื่อง่ายต่อการควบคุมหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวในจังหวัดนราธิวาสที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงและญาติผู้ป่วยยังสามารถเฝ้าและดูแลคนไข้อย่างใกล้ชิด โดยไม่ปิดกั้นประชาชนที่เข้ามาใช้บริการในยามวิกาล และยังสามารถเข้า-ออก ด้วยรถยนต์ทุกชนิดได้ตลอดเวลา จึงหวังให้ประชาชนช่วยกันดูแลรักษาโรงพยาบาลแห่งนี้ให้ดีเหมือนที่เคยปฏิบัติมา
ด้าน พ.ต.อ.เจริญ ธรรมขันธ์ ผู้กำกับการตำรวจภูธรเมืองนราธิวาส กล่าวถึงการทำแผนรับสารภาพคนร้ายที่เข้ามอบตัว ในคดีใช้อาวุธมีดแทงคู่อริถึงแก่ความความตาย ภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 เม.ย 60 ที่ผ่านมา โดยในวันนี้จะนำผู้ต้องหา คือ นายอัสรี เซ๊ะ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/7 ซอยรัญตะเสรี เขตเทศบาลเมือง อ.เมือง จ.นราธิวาส ไปทำแผนรับสารภาพในการก่อเหตุ จุดที่ 1 เริ่มตั้งแต่การปล้นทรัพย์ของชาวบ้านบริเวณสี่แยกตากใบ ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส โดยการผู้ต้องหารวบกับเพื่อนที่ยังหลบหนี ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาชนท้ายรถยนต์ของชาวบ้านและเมื่อชาวบ้านจอดรถเดินลงมาดู คนร้ายจึงใช้อาวุธปืนปากกาจี้เพื่อของโทรศัพท์มือถือจากผู้เสียหายพร้อมข่มขู่ด้วยวาจาว่าจะให้หรือไม่ให้ แต่เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมจึงใช้อาวุธปืนปากกาที่พบติดตัวมาจ่อยิงใส่ผู้เสียหาย 1 นัด แต่กระสุนเชี่ยวร่างกายเล็กน้อย ก่อนที่คนร้ายทั้ง 2 คน จะขี้รถจักรยานยนต์พากันหลบหนีเข้าไปในตัวเมือง ส่วนการทำแผนบริเวณลานจอดรถหน้าโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ และทำแผนภายในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาก่อเหตุจวงแทงคู่อริดับคาเตียงคนไข้นั้นจะมีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพใหม่ในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ยังมีผู้คนพลุกพล่านจึงไม่สะดวกในการทำแผน เนื่องจากข่าวดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชนในพื้นที่ จึงต้องมีการวางกำลังเพื่อกั้นชาวบ้านให้ออกห่างจุดทำแผนเพื่อความปลอดภัยของผู้ต้องหาและความรวดเร็วและสะดวกในการทำงานของเจ้าหน้าที่.
ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ