กาญจนบุรี – หลังจาก จนท.นำปูนขาว 400 กก.โรยซาก 5 ช้างป่า หลังตกหลุมยุบเสียชีวิต พร้อมเฝ้าระวังป้องกันขโมยลักซาก ชาวบ้านเรียกร้องหน่วยงานี่เกี่ยวข้องเร่งหาทางแก้ไข หวั่นเกิดเหตุซ้ำรอย และชาวบ้านในระแวกนั้นได้พูดถึงช้างทั้ง 5 ตัว
ความคืบหน้ากรณีช้างป่า 5 ตัว ตกหลุมยุบเสียชีวิตเหลือแต่ซากโครงกระดูก เหตุเกิดบริเวณป่าเหมืองสองท่อ พิกัดที่ 47P 477562E 16238442N ท้องที่หมู่ 7 บ้านชะอี้ ตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาพระฤๅษี และป่าเขาบ่อแร่แปลงที่ 1 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากที่ผ่านมา คณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ได้ดำเนินการจดทำบันทึกรายละเอียดการตายของช้างป่า จำนวน 5 ตัว เพื่อไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้ไว้เป็นหลักฐาน ที่ สภ.ทองผาภูมิ ตาม ปจว. ข้อ 2 ลงวันที่ 6 พฤษภาคม 2565 เวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา
หลังจากลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐานแล้วเสร็จ นายประทีป เอกฉันท์ ผอ ศูนย์ป่าไม้กาญจนบุรี นายพิเชษฐ ชัยสวัสดิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู นาย วิวรรธน์ มองเห็นทวีโชค หน เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน (กรมป่าไม้) ร.ต.อ. มานะ สุทธิบุตร รอง สว กก 5 บก ปทศ.นายเชน ศรีเสมอ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 บ้านชะอี้ ต.ชะแล เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ กจ.4 (กรมป่าไม้) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจธิพุเย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ได้ร่วมกันเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พร้อมนำปูนขาว จำนวน 400 กิโลกรัม เข้าไปโรยซากช้างป่าที่ในหลุมยุบกว้างประมาณ 10 เมตร ลึกประมาณ 2-3 เมตร เพื่อฆ่าเชื้อโรค
ทั้งนี้คณะเจ้าหน้าที่จะได้นำปูนขายมาโรยเพิ่มเติม พร้อมกับเฝ้าระวังที่จุดเกิดเหตุเพื่อป้องกันไม่ให้มีใครเข้ามาลักนำซากช้างป่าทั้ง 5 ตัว เพื่อนำไปหาผลประโยชน์ส่วนตัวอีกด้วย
นายพิเชษฐ ชัยสวัสดิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู เปิดเผยว่า จากสภาพของซากช้างป่าที่ตายทั้ง 5 ตัว คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 2-3 เดือน จากซากที่เน่าเปื่อยทำให้ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ หนังและเนื้อบางส่วนหลุดล่อนออกจนมองเห็นแต่โครงกระดูก ซึ่งภายในบ่อที่ช้างป่าเสียชีวิตเป็นโคลนที่มีน้ำขัง และพบร่องรอยการตะเกียกตะกายของช้างเพื่อขึ้นมาบนฝั่ง แต่ก็ไม่สามารถขึ้นมาได้จนหมดแรงทำให้เสียชีวิตดังกล่าว
จากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบของเจ้าหน้าที่ พบว่ามีหลุมยุบตัวอีกจำนวนหลายหลุม ซึ่งแต่ละหลุมมีความลึกประมาณ 2-3 เมตร คณะเจ้าหน้าที่คาดว่าขณะที่ช้างป่าทั้ง 5 ตัว รวมตัวยืนอยู่บนพื้นดิน แล้วอยู่ๆดินก็ยุบลงมาอย่างกะทันหัน ประกอบกีบช่วงเวลาดังกล่าวมีฝนตกลงมาทำให้เกิดมีสภาพเป็นดินโครนและลื่น ทำให้ช้างป่าขึ้นมาไม่ได้ และเสียชีวิตในที่สุด ขณะที่จุดเกิดเหตุนั้นอยู่ห่างไกลจากชุมชนมากถึง 7 กิโลเมตร จึงไม่มีผู้ใดพบเหตุการณ์” นายพิเชษฐ ชัยสวัสดิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู เผย
ด้านนายเชน ศรีเสมอ ผญบ.บ้านชะอี้ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในพื้นที่เกิดเหตุซึ่งเป็นพื้นที่เหมืองแร่เก่า ที่มีพื้นที่กว่า 200 ไร่ เชื่อมต่อระหว่างโรงเรียนบ้านเหมืองสองท่อ – บ้านชะอี้ ซึ่งในอดีตเหมืองดังกล่าว(แคมโก้) ได้ทำการขุดเจาะอุโมงค์เพื่อลำเลียงแร่ตะกั่วออกจากใต้ผืนดิน ซึ่งบางอุโมงค์มีความยาวหลายร้อยเมตรจนถึง 1-2 กม เมื่อเวลาผ่านไปส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของชั้นดิน จนส่งผลให้เกิดหลุมยุบ ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ จำนวนหลายร้อยหลุม จนนำมาสู่โศกนาฎกรรม ช้างป่า 5 เชือก ซึ่งคาดว่าจะเป็นช้างครอบครัวเดียวกันมาเสียชีวิตในครั้งนี้ ซึ่งส่วนตัวรู้สึกหดหู่ที่มาเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้…เสียง เสื้อสีส้ม
ด้านนายเล็ก ทองปัญญา อายุ 56 ปี ชาวบ้านที่ไปพบศพช้างทั้ง 5 ตัว ขณะเดินทางไปหาหน่อไม้ บริเวณป่าซึ่งอยู่ด้านทิศเหนือของหมู่บ้าน และเป็นคนที่มาแจ้งผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าโดยส่วนตัวอยากให้มีการนิมนต์พระสงฆ์ มาทำพิธีให้ช้างทั้ง 5 ตัว เนื่องจากช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง และรู้สึกเสียใจมาก ที่ผ่านมาช้างทั้ง 5 ตัวไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ตนเองและเพื่อนบ้าน แต่อย่างใด เสียง..เสื้อสีดำ
ด้านนายเอกพัฒน์ ก้อนทอง ชาวบ้านอีกคนให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ในห้วงเวลา 1-2 เดือนที่ผ่านมา ตนเองและเพื่อนบ้านที่ทำไร่มันสำปะหลัง และสวนยาง ในบริเวณใกล้ป่าที่พบซากช้างทั้ง 5 ตัว บ่อยครั้ง ที่สำคัญช้างทั้ง 5 ตัวไม่เคยรบกวนหรือทำลายข้าวของ รวมทั้งพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านแต่อย่างใด รู้สึกใจหายที่มารู้ข่าวว่าช้างทั้ง 5 ตัว มาตกบ่อตาย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหามาตรการในการป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอย เพื่อป้องกันช้างป่าที่เหลือในพื้นที่ หรือ ทำการผลักดันช้างออกไปอยู่ในพื้นที่อื่น ที่ปลอดภัยกว่านี้
ปรีชา ไหลวารินทร์ / กาญจนบุรี