วันพฤหัสบดี, 14 พฤศจิกายน 2567

ผบช.ภ.7 เรียกประชุมด่วนติดตามผลความคืบหน้ากรณีมีคลิปวีดีโอเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามพราน ทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาขณะทำการจับกุม

นครปฐม ผบช.ภ.7 เรียกประชุมด่วนติดตามผลความคืบหน้ากรณีมีคลิปวีดีโอเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามพราน ทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาขณะทำการจับกุม

วันนี้ 21 พ.ค.65 เวลา 14.45 น.สภ.สามพราน จว.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เรียกประชุมติดตามผลความคืบหน้ากรณีมีคลิปวีดีโอเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามพราน ทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาขณะทำการจับกุม ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์

โดยมี พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ชูนาค รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.รณภพ พรอรุณ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ คำปาเชื้อ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.สุรชัย สุกใส รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผกก.สภ.สามพราน พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวในที่ประชุมโดยได้สั่งการดังนี้ 1.ให้มีการฝึกทบทวนการฝึกยุทธวิธี เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม ฝ่ายสืบสวน ในการปิดล้อมตรวจค้น การตั้งจุดตรวจจุดสกัด การเข้าจับกุมคนร้าย โดยให้ยกระดับวิธีคิด ยกระดับการทำงาน อย่างสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก 2.กำชับให้เร่งรัดการสอบสวนในคดี ให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา รวดเร็ว ผิดว่าไปตามผิดถูกว่าไปตามถูก เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย 3.เร่งรัดการดำเนินการของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 4.ให้ผู้บังคับบัญชา ควบคุมกำกับดูแลและสั่งการในคดีด้วยตนเอง,

ให้ดำเนินการแจ้งความคืบหน้าทางคดีให้ฝ่ายผู้เสียหายเป็นระยะ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน 5.กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีทุกนาย พึงระมัดระวังการให้ข่าว โดยให้ ผบก.เป็นผู้แถลงสื่อมวลชน และอย่าให้มีการเผยแพร่แนวทางการสืบสวน สอบสวน ที่อยู่ในสำนวนการสอบสวน หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทางคดี ต่อสื่อมวลชนหรือมีภาพไปปรากฏยังสื่อโซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ เพราะจะทำให้ข้อมูลความลับทางคดีหรือเทคนิคในการสืบสวนสอบสวนรั่วไหล ทำให้ทำงานได้ยาก 6.ชี้แจงผู้ใต้บังคับบัญชา ให้พึงระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ โดยให้เป็นบทเรียนในการทำงาน ให้ตั้งชุดถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ศึกษาวิเคราะห์ เพื่อหาแนวทางเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

ให้ตรวจสอบการบังคับบัญชา ตามคำสั่ง ตร.ที่ 1212/2537 ลง 1 ต.ค.2537 เรื่อง มาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ 8.เน้นย้ำให้มีความรักความสามัคคีในองค์กร หมู่คณะ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของตำรวจให้ดีขึ้น และสร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชนเพื่อให้ยอมรับว่าข้าราชการตำรวจเป็นมิตรที่ดีของประชาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง 9.กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่ให้อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ระเบียบและคำสั่ง พึงปฏิบัติหน้าที่ดังเช่นอุดมคติตำรวจที่ว่า “กรุณาปรานีต่อประชาชน อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก” และ “กระทำการด้วยปัญญา รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต” และมีจิตวิญญาณในการปฏิบัติหน้าที่เป็นตำรวจมืออาชีพบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง

Loading