เดอะโอ๋ !!! แถลงรวบนักบินเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ บางเลน – นครปฐม ยึดยาบ้ากว่า 2 แสนเม็ดเงินสดอีก 3 แสน
วันนี้ 27 ก.ย.65 ที่ด้านหน้าอาคารตำรวจภูธรภาค 7 จว.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญ ผบก.ศฝร.ภ.7/ หน.ชปส.ภ.7 พ.ต.อ.สธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ คำปาเชื้อ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ศุภชัย ไตรสมบูรณ์ นวท.(สบ.5) ศพฐ.7 พ.ต.ท.อุทัย สุมาลัย รอง ผกก.ป.สภ.บางเลน รรท.ผกก.สภ.บางเลน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 คน นายเฉลิมวงศ์ หรือ หนึ่ง ตึ๊งสมบูรณ์ อายุ 33 ปีอยู่บ้านเลขที่ 29 ถ.นกเขาเหิร ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จว.นครปฐม และ นายกิตติชัย หรือตี๋ ตรีเพชร อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 ม.11ต.ลำพญา อ.บางเลน จว.นครปฐม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.352/2565 พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 125 มัด รวมยาบ้าจำนวนทั้งสิ้น 250,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือจํานวน 1 เครื่อง เงินสดจำนวน 300,000 บาท รถยนต์กระบะโตโยต้า รีโว่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผอ 4599 นครราชสีมา
โดยกล่าวหาว่า“ร่วมกันจำหน่ายโดยมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ย.65 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันเหตุอยู่ที่บริเวณถนนสาธารณะบางภาษี-ศาลายา ม.10 ต.ลำพญา อ.บางเลน จว.นครปฐม ได้พบรถยนต์กระบะ โตโยต้า รุ่นรีโว่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ผอ 4599 นครราชสีมา ขับผ่านลงสะพานมาก่อนถึงจุดตรวจประมาณ 150 เมตร ได้หยุดรถและเลี้ยวกลับรถบนเชิงสะพานแล้วเร่งเครื่องขับขี่หลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความเร็วอย่างมีพิรุธต้องสงสัย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำจุดตรวจ จึงได้ขับรถติดตามไปอย่างกระชั้นชิด และได้สังเกตเห็นว่าผู้ที่นั่งโดยสารด้านซ้ายข้างคนขับ ได้ลดกระจกลงและได้ทิ้งกล่องพัสดุไปรษณีย์สีน้ำตาล ลงข้างทางตลอดเส้นทางที่หลบหนี จนกระทั่งมาถึงที่บริเวณ ถนนสาธารณะภายในหมู่บ้าน ม.9 ต.นราภิรมย์ อ.บางเลน จว.นครปฐม รถกระบะคันดังกล่าวได้ชะลอความเร็วและนายเฉลิมวงศ์หรือหนึ่ง ตึ๊งสมบูรณ์ ได้เปิดประตูรถและกระโดดลงจากรถพยายามที่วิ่งหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไล่ติดตาม จึงเข้าควบคุมตัว นายเฉลิมวงศ์หรือหนึ่ง ตึ๊งสมบูรณ์ ไว้ได้ส่วนรถยนต์กระบะได้ขับหลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายเฉลิมวงศ์ ไปตรวจสอบบริเวณจุดที่ทิ้งกล่องบรรจุยาบ้าลงระหว่างทางหลบหนี พบกล่องไปรษณีย์ที่ภายในบรรจุยาบ้ากล่อง 50,000 เม็ดจำนวน 5 กล่องรวมประมาณ 250,000 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางไว้ทั้งหมด
จากสอบสวน นายเฉลิมวงศ์ ให้การรับสารภาพว่าผู้ขับขี่รถยนต์คันที่หลบหนีไปคือ นายกิตติชัย หรือตี๋ ตรีเพชร ซึ่งร่วมกับตน ไปรับกล่องไปรษณีย์ที่บรรจุยาบ้าเพื่อนำไปส่งในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.บางเลนดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนขยายผล จนกระทั่งทราบว่านายกิตติชัย หรือตี๋ ตรีเพชร อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 ม.11ต.ลำพญา อ.บางเลน จว.นครปฐม มีส่วนเกี่ยวข้องกับรถยนต์กระบะคันที่ใช้หลบหนีไปและมีพยานหลักฐานว่าตามวันเวลาเกิดเหตุนายกิตติชัย เป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะคันดังกล่าว ไปรับยาบ้าร่วมกับนายเฉลิมวงศ์ จริง
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2565 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงรวบรวมวัตถุพยานหลักฐานต่างๆเพื่อยื่นต่อศาลจังหวัดนครปฐม เพื่อขออนุมัติหมายจับ นายกิตติชัย ตรีเพชร ซึ่งศาลจังหวัดนครปฐมได้อนุมัติหมายจับที่ จ.352/2565 ลงวันที่ 26 กันยายน 2565 ข้อหา“ร่วมกันจำหน่ายโดยมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”
พล.ต.ท.ธนายุตม์ เปิดเผยอีกว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนขยายผลสืบทราบว่านายกิตติชัย ได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่โรงแรมในเขตจังหวัดนครปฐม จึงนำกำลังออกติดตามและสามารถ ติดตามจับกุมนายกิตติชัยพร้อมตรวจยึดเงินสดจำนวน 300,000 บาทเพื่อตรวจสอบเนื่องจากเชื่อว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด
จากการสอบสวนสอบนายกิตติชัย ให้การรับสารภาพว่าตนเป็นผู้ขับขี่รถกระบะคันหลบหนีไป เนื่องจากตนได้ร่วมกับนายเฉลิมวงศ์ ได้ขับรถไปรับยาบ้าแล้วขับมาเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ตนเกรงว่าจะถูกจับกุม จึงได้สั่งให้นายเฉลิมวงศ์ นำยาบ้าจำนวน 5 กล่องโยนทิ้งระหว่างทาง
ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเลน สอบสวนขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องเพื่อจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานในคดีให้รอบคอบ เพื่อให้สามารถดำเนินคดีลงโทษผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้องได้จนถึงที่สุด ตามคติที่ว่า”คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์” ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป
