เดอะโอ๋ !!! ติวเข้มฝึกทบทวนหน่วยปฏิบัติการพิเศษอินทรี 7 เสริมเขี้ยวเล็บตำรวจภูธรภาค7 พร้อมตอบโต้ทุกสถานณการ์
ภายใต้การอำนวยการ พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วย พลตำรวจตรี บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (สส.)พลตำรวจตรี ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 พันตำรวจเอก เอกรินทร์ อิทธิวัฒนะ รอง ผู้บังคับการกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้ กองกำการรปฏิบัติการพิเศษ(อินทรี7)ดำเนินจัดฝึกทบทวนการตอบโต้สถานการณ์กรณีเหตุ Active Shooter ตามนโยบายของพลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
โดยมี พันตำรวจเอก ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล ผู้กำกับการกองกำการรปฏิบัติการพิเศษ(อินทรี7)กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 พันตำรวจโท จีโบ เกรอต รอง ผู้กำกับการกองกำการรปฏิบัติการพิเศษ(อินทรี7)กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 พันตำรวจตรีวงศกร หลงกุล สารวัตร กองกำการรปฏิบัติการพิเศษ(อินทรี7)กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 นำกำลังพลในหน่วยพร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษอินทรี7 ร่วมบูรณาการฝึกทบทวนการตอบโต้ สถานการณ์ Active Shooter โดยรูปแบบการฝึกทบทวนจะมี 2 ขั้นตอน คือการบรรยายให้ความรู้เรื่อง Active Shooter และฝึกซ้อมการปฏิบัติตามแผนตอบโต้สถานการณ์ Active Shooter แบบเต็มรูปเพื่อให้มีความรู้ ความสามารถและทักษะตามหลักยุทธวิธี อย่างถูกต้องเป็นมาตรฐาน พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ตอบโต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่งการ
พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เปิดเผยว่า กองกำการรปฏิบัติการพิเศษ(อินทรี7)กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 คือหน่วยงานตำรวจที่ได้รับการฝึกฝน ความชำนาญพิเศษในด้านการบุกจู่โจม ปิดล้อมตรวจค้น และจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายจะมีความรู้ ความสามารถในการปฏิบัติการคดีอาชญากรรมร้ายแรงต่างๆ ได้มากกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำโรงพักและมีขีดความสามารถสูงทั้งปฏิบัติการบนภาคพื้นดินและทางอากาศ โดยเริ่มก่อตั้งขึ้นปี พ.ศ.2555 ใช้ชื่อว่า “อินทรี 7” มีนกอินทรีเป็นตราสัญลักษณ์ เพราะนกอินทรีเป็นนกที่มีสายตามองได้ในระยะไกล บินได้สูงที่สุดในโลก ตลอดจนมีกรงเล็บที่แข็งแรงและแหลมคมจับเหยื่อได้อย่างแม่นยำรวดเร็ว สง่างาม น่าเกรงขามต่อผู้พบเห็นโดยมี พันตำรวจเอก ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล ผู้กำกับการกองกำการรปฏิบัติการพิเศษ(อินทรี7)กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 เป็นหัวหน้าหน่วย อินทรี 7 มีกำลังนายตำรวจจำนวน 12 นาย ชั้นประทวนจำนวน 85 นาย ซึ่งผ่านการฝึกอบรม การต่อต้านการก่อการร้ายหลักสูตรสวาท ขั้นชำนาญการ หลักสูตรการปรับพื้นฐานยุทธวิธีตำรวจ ระดับครูฝึก และหลักสูตรยุทธวิธีตำรวจ (จู่โจม) ภารกิจหลักคือ การฝึกทบทวนยุทธวิธี การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ให้พร้อมสำหรับภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ให้การสนับสนุนสถานีตำรวจในการจับคนร้ายที่มีพฤติกรรมรุนแรงหรือใช้อาวุธสงคราม ตั้งจุดตรวจตามแนวชายแดนเพื่อสกัดกั้นขบวนการค้ายาเสพติด ตั้งจุดตรวจในพื้นที่ที่มีความสุ่มเสี่ยงการก่ออาชญากรรมสูงเพื่อตรวจค้นจับกุมผู้ทำผิดกฎหมาย ตลอดจนเป็นผู้ฝึกอบรมหลักสูตรยุทธวิธีต่างๆ ให้แก่สถานีตำรวจในพื้นที่ภูธรภาค 7
พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เปิดเผยอีกว่า จากสถานการณ์อาชญากรรมในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรภาค 7 ในปัจจุบันมีแนวโน้มการเกิดคดีอาชญากรรมสูง มีความรุนแรงและมีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น หลายครั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และ พ่อ แม่ พี่น้องประชาชน ที่ตกเป็นเหยื่อต้องได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จึงได้เล็งเห็นความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะตำรวจผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งหากมีสถานการณ์ความรุนแรง หรือมีอาชญากรรมเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเข้าไปพิสูจน์ทราบ และติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี จึงได้จัดการฝึกอบรมทบทวนการฝึกชุดปฏิบัติการพิเศษ ( อินทรี 7 ) โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขสถานการณ์ที่มีความรุนแรงในพื้นที่รับผิดชอบให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมี พ.ต.อ.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล ผกก.ปพ.กก.สส.ภ.7 และ พ.ต.ท.จีโบ เกรอต รอง ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.7 เป็นผู้ควบคุมและฝึกสอน “การฝึกทั้งหมดเกิดจากการคิดค้นโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลัก มั่นใจมากกับชุดปฏิบัติการพิเศษอินทรี 7 และยอมรับว่าเป็นชุดปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพจริงๆ โดยเฉพาะยุทธวิธีการตั้งด่านตรวจ เป็นยุทธวิธีที่ถูกต้อง ซึ่งได้สั่งการไปยังนายตำรวจที่รับผิดชอบด้านอาชญากรรมและการสืบสวนให้นำชุดปฏิบัติการพิเศษอินทรี 7 นี้ ไปเสริมกำลังในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อความปลอดภัยของประชาชนต่อไป”