ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 !!! ใช้เวลาไม่เกิน 24 ชม.บุกรวบลูกชายอดีตกำนันดังเมืองราชบุรี
วันนี้ 24 พ.ย.65 ที่สภ.เมืองราชบุรี จว.ราชบุรี พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ รอง ผบก. ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.สุพมาส บัวลาด รอง ผบก. ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิจ รอง ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ธานินทร์ ฉัตรเจริญพร รรท.ผกก.สภ.เมืองราชบุรี พ.ต.อ.โชติช่วง ภานุทัต ผกก.สส.ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.วิสุทธิ์ เสือรอด ผกก.(สอบสวน)กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.เชิดพงศ์ ชูกลิ่น นวท.(สบ.4)พฐ.จว.ราชบุรีและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับจำนวน 2 ราย นายอนุเชษฐ์ หรือเจ เอี้ยวสุวรรณอายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดราชบุรีที่ จ.297/2565 ลงวันที่ 23 พ.ย.65 และนาย วรุตม์ หรือเอิร์ท อ้นเพชร อายุ 30 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดราชบุรีที่ จ.298/2565 ลงวันที่ 23 พ.ย.65 พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้นแบบกึ่งอัตโนมัติ บราวนิ่ง สีเงิน หมายเลขทะเบียนปืน กท 4021803 ขนาด 9 มม.พร้อมซองบรรจุกระสุนปืน รถยนต์ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สีดำ คันหมายเลขทะเบียน กฉ 111 ราชบุรี
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า“ ร่วมกันฆ่าผู้อื่น,ร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุผลอันควร ”
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่าเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565เวลาประมาณ 01.30 น.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ รพ.กรุงเทพเมืองราชว่ามีบุคคลถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสมารักษาตัว พ.ต.อ.ธานินทร์ ฉัตรเจริญพร รรท.ผกก.สภ.เมืองราชบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพบนายสมหมาย ศรีสว่าง อายุ 32 ปีถูกยิงด้วยอาวุธปืนได้รับบาดเจ็บสาหัส,นายทินกร แซ่โกว อายุ 37 ปีและนายจรูญ แดงชาติแท้ อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นพยานผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่าตามวันเวลาที่เกิดเหตุ นายทินกร ฯ ได้ขับรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน บม-8834 ราชบุรี มาตามถนนสายราชบุรี-ดำเนินสะดวก โดยขับตามหลังรถเอนกประสงค์ ฟอร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน 111 (จำหมวดอักษรไม่ได้)มาโดยครั้งแรกพยายามจะแซงรถ ฟอร์ดขึ้นไป แต่รถฟอร์ดไม่ยอมให้แซง นายทินกร ซึ่งเป็นคนขับรถจึงได้ชลอความเร็วลง และต่อมาก็พยายามจะแซงรถคันดังกล่าวขึ้นไปอีก เมื่อรถขึ้นเทียบกันก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดก่อนที่รถจะหมุนเพราะคนขับรถตกใจประกอบกับถูกยิงด้วย หลังจากนั้นก็มีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัดกระสุนถูกนายสมหมายได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่รถฟอร์ดคันดังกล่าวจะขับหลบหนีไปต่อมาทางเจ้าหน้าที่ รพ.ได้แจ้งว่านายสมหมาย ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส ได้เสียชีวิตที่รพ.กรุงเทพเมืองราช
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่าทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.3 บก.สส.ภ.7 ลงพื้นที่บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ราชบุรี ชุดสืบสวน สภ.เมืองราชบุรี ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาวัตถุพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อสืบสวนหาตัวคนร้ายจนกระทั่งพบรถต้องสงสัยที่น่าจะใช้ก่อเหตุ จึงรวบรวมพยานหลักฐานเชื่อว่า นาย อนุเชษฐ์ และ นายวรุตม์ เป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว จึงยื่นขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดราชบุรี ซึ่งศาลจังหวัดราชบุรีอนุมัติหมายจับที่ จ.297-298/2565 ลง 23 พ.ย. 65 ข้อหา“ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุผลอันควร”
ต่อมาในวันเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมตัวนาย อนุเชษฐ์ และ นายวรุตม์ ผู้ต้องหาทั้ง 2 รายได้พร้อมของกลาง อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ
ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวนสภ.เมืองราชบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานในคดีให้รอบคอบ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อให้สามารถดำเนินคดีลงโทษผู้กระทำผิดและขยายผลจับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้จนถึงที่สุด ตามคติที่ว่า “ คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์ ” พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ ทำงานโดยยึดหลักกฎหมายและรอบคอบตามหลักยุทธวิธีตำรวจที่ได้ฝึกทบทวนมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวพี่น้องข้าราชการตำรวจ ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ จนสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป