ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เติมเต็ม ขวัญ กำลังใจ ผู้ใต้บังคับบัญชา

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เติมเต็ม ขวัญ กำลังใจ ผู้ใต้บังคับบัญชา

วันนี้ 19 ธ.ค.65 ที่สภ.สองพี่น้อง จว.สุพรรณบุรี พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อมาตรวจเยี่ยมสถานีตำรวจภูธรสองพี่น้องจังหวัดสุพรรณบุรีที่ทำการมีความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย มีจุดคัดกรองโรค มีหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ ไว้บริการประชาชน มีที่จอดรถสำหรับประชาชนที่มาติดต่อราชการ ไว้เพียงพอพร้อมมอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคจำพวก ข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม จำนวน 20 ถุง มาม่า จำนวน 12 กล่อง น้ำตาล จำนวน 10 กิโลกรัม เครื่องดื่มชูกำลังคาราบาวแดง จำนวน 4 ลัง น้ำดื่มจำนวน 20 แพ็ค หน้ากากอนามัย จำนวน 500 อัน เจลแอลกอฮอล์ จำนวน 5 ลัง ผลไม้กระป๋อง จำนวน 1 ลัง นมจืด จำนวน 2 ลัง น้ำมะพร้าว จำนวน 2 ลัง เชลไดร์ จำนวน 1 ลังรองเท้าแตะผู้ชาย จำนวน 90 คู่ พัดลม 14 นิ้ว จำนวน 3 ตัว เพื่อบำรุงขวัญ กำลังใจ แก่ข้าราชการตำรวจสถานีตำรวจภูธรสองพี่น้อง

จากนั้น พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้เดินเยี่ยมชมห้องเก็บอาวุธปืนของสถานีตำรวจภูธรสองพี่น้อง ซึ่งได้นำนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีการเก็บรักษาและการเบิกใช้อาวุปืนของทางราชการไปเป็นแนวทางในการปรับปรุงห้องเก็บอาวุธปืน ของสถานี (ARMS ROOM) โดยได้จัดทำระบบควบคุมการเบิกจ่ายอาวุธปืนด้วยระบบ QR Code และ ติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) และกล้องตรวจจับความเคลื่อนไหว (AI) เพื่อรักษาความปลอดภัยภายในห้องเก็บรักษาอาวุธปืน สามารถตรวจสอบอาวุธปืนที่ถูกเบิกใช้ผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว แม่นยำ

โดยมี พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ธนากร สุวรรณศรี รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.พีระ อัศวพิบูลย์ผล ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.เกียรติชัย เกิดโชค ผกก.สภ.สองพี่น้องคณะ กต.ตร.สภ.สองพี่น้องและข้าราชการตำรวจ สภ.สองพี่น้อง รอให้การต้อนรับการตรวจและเข้าร่วมการประชุม

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เป็นประธานในการประชุมขับเคลื่อนการบริหารราชการตามนโยบายของ ผบ.ตร. ให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัดสถานีตำรวจภูธรสองพี่น้องโดยได้กำชับให้ปฏิบัติ 1.นำนโยบายรัฐบาล วิสัยทัศน์ ผบ.ตร.”เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน” วิสัยทัศน์ตำรวจภูธรภาค 7 “ภักดีองค์ราชันมุ่งมั่นสร้างศรัทธา พัฒนาเป็นมืออาชีพ บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม นำสมัย เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา” และวิสัยทัศน์ ผบช.ภ.7 “ทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน” ไปปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรม 2.ต้องทำงานกันเป็นทีม ยึดมั่นในระเบียบวินัย บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน และดำรงตนอย่างมีเกียรติ 3. การทำงานต้องประกอบด้วย “หลักการทำงาน 4443 ” 3.1 “4 เกาะ” เกาะติดพื้นที่ เกาะติดประชาชน/มวลชน/และชุมชน เกาะติดคนร้ายหรือเกาะติดศัตรูของประชาชน และเกาะติดผู้ใต้บังคับบัญชาหรือเกาะติดลูกน้อง3.2 “4 ยก” ยกระดับองค์ความรู้ ยกระดับวิธีคิด ยกระดับวิธีการทำงาน และ ยกระดับการใช้ดุลพินิจ 3.3 “4 ทำ” ทำงาน ทำดี ทำบุญ และมีภาวะผู้นำ 3.4 “3 S” Smart Smile Strong

4.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติ และพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชา ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ คำสั่ง แบบแผนธรรมเนียมของทางราชการอย่างสม่ำเสมอโดยใกล้ชิด และสร้างขวัญกำลังใจ ความสามัคคี ภาพลักษณ์ของตำรวจให้ดีขึ้น และสร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชนเพื่อให้ยอมรับว่าข้าราชการตำรวจเป็นมิตรที่ดีของประชาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริงตามคำสั่งกรมตำรวจ ที่ 1212/2537 ลง 1 ต.ค. 2537 เรื่อง มาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ 5.กำชับการให้นำแนวทางยกระดับการให้บริการประชาชนในสถานีตำรวจ ตามนโยบาย ผบ.ตร. มาพัฒนายกระดับการบริการประชาชนในสถานีตำรวจ 6. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ตรวจสอบควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การกระทำความผิดใด ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ห้ามมิให้เรียกรับผลประโยชน์ การจับกุมในลักษณะกลั่นแกล้ง มีส่วนพัวพันกับการกระทำความผิด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการทางวินัย คดีอาญาและปกครองอย่างถึงที่สุด 7.กำชับให้มีการฝึกทบทวนทางยุทธวิธีทั้งฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวนเป็นประจำสม่ำเสมอ ให้เกิดความคุ้นชินเมื่อต้องปฏิบัติ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียแก่เพื่อนพี่น้องข้าราชการตำรวจ 8.กรณีประชาชนร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนรำคาญ จากการแข่งรถในทาง สถานบันเทิงเปิดเพลงเสียงดัง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใส่ใจที่จะแก้ปัญหาการร้องเรียนดังกล่าว อย่าปล่อยปละละเลย จนเกิดการร้องเรียนซ้ำซาก และอย่าให้มีการนำเสนอข่าวว่า “ ตำรวจไม่เป็นที่พึ่งของประชาชน ” 9. ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ เป็นภารกิจเร่งด่วนของ ผบ.ตร. ให้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีรูปแบบต่าง ๆ ให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อ หากพบการกระทำความผิดดำเนินการบังคับใช้กฎหมายให้ถึงที่สุด10.ปัญหายาเสพติดเป็นภารกิจเร่งด่วนของ ผบ.ตร. มุ่งเน้นใช้วิธีการบำบัดยาเสพติดต่อผู้เสพ เพื่อคืนคนดีสู่สังคมตามนโยบายรัฐบาล โดยปฏิบัติการเชิงรุกซักถามถึงแหล่งที่มาและเครือข่าย เพื่อจัดทำฐานข้อมูลในการติดตามจับกุมและขยายผลต่อไป 11.ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสายงาน สำรวจจัดทำข้อมูลบุคคลในพื้นที่ที่มีอาการทางจิต และมีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด พร้อมประสานความร่วมมือหน่วยงานอื่น เฝ้าระวังบุคคลเหล่านี้ มิให้ก่อเหตุอาชญากรรม 12.ให้หัวหน้าสถานีมีการตรวจคลังอาวุธและเรียกตรวจสอบอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่เบิกไปใช้เป็นระยะ เพื่อมิให้เกิดการนำเอาอาวุธปืนหลวง ไปขาย หรือจำนำ หรือตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น ก่อเหตุอาชญากรรม13.เน้นย้ำให้มีความรักความสามัคคีในองค์กร หมู่คณะ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของตำรวจให้ดีขึ้น และสร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชนเพื่อให้ยอมรับว่าข้าราชการตำรวจเป็นมิตรที่ดีของประชาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง





Loading