กาญจนบุรี – อุทยานแห่งชาติเขาแหลมประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวน้ำตกเกริงกระเวีย เป็นการชั่วคราว เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้ง
วันนี้ 16 มี.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ สมบัติมาศ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ออกประกาศอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เรื่องปิดแหล่งท่องเที่ยวบริเวณน้ำตกเกริงกระเวีย ซึ่งตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ –สังขละบุรี) บริเวณหลักกิโลเมตรที่232 ท้องที่หมู่ที่ 4 ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เริ่มมีผลตั้งแต่ 13 มีนาคม 2566 เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้ง จนส่งผลให้ปริมาณน้ำในน้ำตกเกรีงกระเวีย มีปริมาณลดลง ไม่เพียงพอต่อประกอบกิจกรรมต่างๆของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาใช้บริการและพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจของนักท่องเที่ยว ทั้งนี้เพื่อรักษาสภาพธรรมชาติและระบบนิเวศทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเพื่อไม่ให้กระทบต่อระบบน้ำประปาของประชาชนในพื้นที่บ้าน หมู่ 4 บ้านยางขาว ที่มีจำนวน 200 ครอบครัว ที่ใช้ระบบน้ำประปาภูเขาที่ทำการต่อไปจากน้ำตกไดช่องถ่อง ซึ่งอยู่ด้านล่างของน้ำตกเกริงกระเวีย
โดยจะกลับมาเปิดบริการให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวกลับมาท่องเที่ยวอีกครั้งหลังจากสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ (คาดว่าน่าจะช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาเข้าสู่ฤดูฝนของอำเภอสังขละบุรี) ทั้งนี้นักท่องเที่ยวยังคงสามารถเข้ามาใช้บริการร้านสวัสดิการอุทยานแห่งชาติเขาแหลมและลานจอดรถ รวมทั้งบริการอื่นๆบริเวณน้ำตกเกริงกระเวียได้ตามปกติ
ทั้งนี้ในห้วงเวลาที่ผ่านมาได้เกิดไฟป่าในพื้นที่อุทยานเขาแหลมและพื้นที่ป่าใกล้เคียง จำนวนหลายครั้ง หลายจุด จนส่งผลให้สภาพป่าเกิดการเปลี่ยนแปลง ประกอบกับสภาพอากาศที่เริ่มเข้าสู่ฤดูแล้ง ซึ่งปกติเมื่อเข้าสู่ฤดูแล้งน้ำในลำในน้ำตกเกริงกระเวียจะลดลง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นทุกปี แต่ปีนี้ปริมาณน้ำลดลงไวกว่าทุกปี จึงเป็นที่มาของประกาศฉบับดังกล่าวของอุทยานฯ
ขณะที่ไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอสังขละบุรียังส่งผลให้เกิดปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยมีรายงานคุณภาพอากาศในพื้นที่ล่าสุด (เวลา07.00 น) ดัชนุณภาพอากาศ(AQI) และมลพิษทางอากาศ PM2.5 ในสังขละบุรี อยู่ที่ 186 AQI ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพของทุกคน ขณะที่ค่าPM2.5 วัดค่าได้ 123.2 ไมโครกรัม/ลูกบาตรเมตร จึงมีคำแนะนำให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยภายนอกบ้าน ปิดหน้าต่างเพื่อหลีกเลี่ยงอากาศภายนอกที่สกปรก
ขณะที่นายแพทย์กฤษดา วุธยากร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสังขละบุรี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าปัจจุบันโรงพยาบาลต้องรับมือกับประชาชนที่มาใช้บริการเนื่องจากป่วยด้วยระบบทางเดินหายใจ ซึ่งในแต่ละวันมีจำนวน15-20 ราย ในทุกเพศทุกวัย เนื่องจากเป็นที่ทราบกันว่าขณะนี้ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ประสบปัญหาหมอกควัน จากไฟป่า ซึ่งในกรณีผู้ป่วยที่มีอาการหนังจำเป็นต้องส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จังหวัดกาญจนบุรี ทำให้ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณ
จึงอยากวิงวอนให้ทุกคนหยุดเผาป่า สร้างมลพิษทางอากาศ ในเรื่องการดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ หากเป็นไปได้ให้เลี่ยงการออกนอกเคหะสถานในช่วงที่มีหมอกควัน หากจำเป็นต้องออกให้สวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นควัน หากไม่มีหาผ้าบางๆชุบน้ำปิดจมูกไว้ ก็จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง ส่วนผู้ป่วย เด็กและผู้สูงอายุ ขอให้ผู้ปกครอง ผู้ดูแล หมั่นสังเกตอาการ หากมีอาการแสบจมูก คอ หายใจติดขัด ไม่สะดวกให้รีบนำตัวมาพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที
ซึ่งปัจจุบัน ปัญหาฝุ่นควัน และมลพิษทางอากาศ กำลังเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์ – รายงาน