วันศุกร์, 15 พฤศจิกายน 2567

สืบสวนภาค 7 !!! ใช้เวลาไม่เกิน 24 ชม.ตามรวบโจรแสบแต่งกายคล้ายบุรุษไปรษณีย์ใช้ ปืนปลอม จี้ร้านทอง

19 มี.ค. 2023
125

เจ๋ง สืบสวนภาค 7 !!! ใช้เวลาไม่เกิน 24 ชม.ตามรวบโจรแสบแต่งกายคล้ายบุรุษไปรษณีย์ใช้ ปืนปลอม จี้ร้านทอง

วันที่ 18 มีนาคม 2566 ที่สภ.สามพราน จว.นครปฐม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผกก.สภ.สามพราน พ.ต.อ.ภาณุทัศ เหลืองสัจจกุล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายธีรพล หรือกอล์ฟ เส็งสมวงศ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 359/40 ถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาพยายามก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองเอ็มโกลด์เยาวราช หมู่ที่ 1 ต.ท่าตลาด อ.สามพราน จว.นครปฐม ตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 175/2566 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2566 พร้อมของกลาง สิ่งเทียมอาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก เสื้อคลุมแขนยาวสีแดงดำ (เสื้อคลุมไปรษณีย์ไทย) จำนวน 1 ตัว เสื้อคลุมแขนยาวสำแดงขาว จำนวน 1 ตัว กางเกงวอร์มสีดำ จำนวน 1 ตัว หมวกนิรภัยสีแดงคาดขาว (หมวกนิรภัยไปรษณีย์ไทย) จำนวน 1 ใบ ถุงมือสีดำ จำนวน 1 คู่ หมวกแก๊ปสีน้ำเงิน จำนวน 1 ใบ แว่นตา จำนวน 1 อัน รถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กย 306 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน

พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม กล่าวว่าเมื่อวันที่ 16 มี.ค.66 เวลา 13.05 น.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามพราน จ.นครปฐม ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายก่อเหตุใช้ปืนจี้ชิงทรัพย์ที่ร้านทอง เยาวราชเอ็มโกลด์ หมู่ที่ 1 ต.ท่าตลาด อ.สามพราน จว.นครปฐม ภายหลังจากที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.7 ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นครปฐม และ ชุดสืบสวน สภ.สามพราน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดพบว่า ก่อนเกิดเหตุนายธีรพล ได้ขับขี่รถยนต์เก๋ง ฮอนด้า ซิตี้ สีดำ โดยใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าเข้าเทศบาลสามพราน วิ่งวนกลับรถอยู่หลายรอบ เมื่อสบโอกาส จึงได้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยโรงเรียนสามพรานวิทยา เพื่อเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ ปรากฏว่าภาพกล้องวงจรปิด ที่อยู่ภายในซอยดังกล่าว สามารถจับภาพ นายธีรพล และบันทึกภาพหมายเลขทะเบียนรถไว้ได้

จากการตรวจสอบภาพย้อนหลังจากกล้องวงจรปิด ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าก่อนเกิดเหตุนายธีรพล ได้เดินมาดูลาดเลาล่วงหน้า เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบพบว่าเป็นนายธีรพล หรือกอล์ฟ เส็งสมวงศ์ อายุ 40 ปี ลักษณะคล้ายคนร้ายที่ก่อเหตุ จึงรวบรวมวัตถุพยานหลักฐานต่างๆยื่นขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 175/2566 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “พยายามในข้อหาชิงทรัพย์ ลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไป

ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสามารถติดตามควบคุมตัว นายธีรพล ได้ที่ห้องพัก คอนโดมิเนียม ย่าน ถนนอิสรภาพ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร และพบพยานหลักฐาน สิ่งของที่ใช้ก่อเหตุนำตัวมา สภ.สามพราน
พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม กล่าวต่อว่า จากการสอบสวน นายธีรพล ให้การรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพรับจ้างเป็นพนักงานประจำที่ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านศาลายา ซึ่งมีความเครียดหนี้สินติดตัวมากกว่า 60,000 บาท ตนจึงตัดสินใจมา ก่อเหตุหวังชิงทองแต่กลับไม่ได้ทองไปแม้แต่เส้นเดียว สำหรับชุดบุรุษไปรษณีย์ที่สวมใส่ปลอมตัวมานั้นตนได้เข้าไปขโมยมาจาก ไปรษณีย์ สามพราน ส่วนหมวกของบุรุษไปรษณีย์ นั้นตนได้ขโมยมาจากไปรษณีย์ที่ กรุงเทพมหานคร

จากการตรวจสอบประวัติ นายธีรพล นั้นมีประวัติเคยต้องโทษในคดีลักทรัพย์ร้านทอง 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 65 ที่ร้านทองฮั่วเซ่งเฮง สาขามังกร สน.จักรวรรดิ และ วันที่ 12 ส.ค. 65 ร้านทองในเขต สน.ประเวศ โดยทั้ง 2 คดี ผุ้ต้องหาทำทีขอดูสร้องทองที่มีลายเดียวกันกับสร้อยทองปลอมที่เตรียมมาและจะสับเปลี่ยนอาศัยในช่วงจังหวะที่เจ้าของร้านเผลอ โดยคดีทั้ง 2 คดีอยู่ระหว่างประกันตัวกับอุทธรณ์
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ พยายามชิงทรัพย์ พยายามลักทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การลักทรัพย์นั้นไป “
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สามพราน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ วางมาตรการป้องกันทรัพย์สินของประชาชน และมีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุเพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ และวางมาตรการในการติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุในพื้นที่อย่างเข้มข้นทุกราย โดยขอให้ประชาชนมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้ดีที่สุด ตามคติที่ว่า”คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์” พร้อมได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่ตามหลักยุทธวิธี เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวพี่น้องตำรวจ
ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่และผู้บังคับบัญชาขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป

Loading