นครปฐม200466รอง ผบ.ตร.แถลงผลปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดตามโครงการ “เจดีย์พิทักษ์ @7” ครั้งที่ 3รวบแจ็คท่าไม้พร้อมยาบ้า1,228,809เม็ดรวมยอดทรัพย์สิน54,144,661 บาท
เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2566เวลา14.30 น. ที่ตำรวจภูธรภาค7 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการปราบปรามและทำลายเครือข่ายยาเสพติด และยึดทรัพย์เครือข่ายกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ ให้เป็นรูปธรรม และมรประสิทธิภาพสูงสุดเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการเชิงรุกในการปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ขยายผลการจับกุมและยึดทรัพย์สินผู้ค้ายาเสพติด
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีนโยบายให้ทุกหน่วยในสังกัด ดำเนินการปราบปรามทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดทุกระดับ เพิ่มความเข้มในการทำลายเครือข่ายผู้ค้ารายย่อยในระดับชุมชน
ที่มีความใกล้ชิดกันประชาชนอย่างจริงจัง และให้ดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมดำเนินคดีและยึดทรัพย์สินผู้ค้ายาเสพติด ทั้งระดับรายย่อยในชุมชน ผู้ค้ารายกลางและรายใหญ่ที่มีความเชื่อมโยงหลายพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การอำนวยการโดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. /รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส., พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7, พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8และ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9
สำนักงาน ป.ป.ส. โดย นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส., นายธนากร คัยนันท์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส.,นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการ ป.ป.ส.พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. รับผิดชอบงานด้านการปราบปรามยาเสพติด
พล.ต.ท.วรายุทธ สุขวัฒน์ ผทค.พิเศษ ตร. รรท. รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.กฤษณะ สุขสมบูรณ์ ผบก.อก.ภ.7, พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญ ผบก.ศฝร.ภ.7, พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.๗ ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด ภ.7 และ บก.สส.ภ.7 เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ ภ.7 ภายใต้ปฏิบัติการตามโครงการ “เจดีย์พิทักษ์ @7” ครั้งที่ 3
ในพื้นที่ ตำรวจภูธรภาค 7/8/9 ได้มีข้อสั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 7/8/9 และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ร่วมกันสืบสวนจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดยาเสพติดในทุกระดับ โดยให้ชุดสืบสวนของทุกสถานีตำรวจ,ชุดสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดและชุดสืบสวนของตำรวจภูธรภาคและกองบัญชาการปราบปรามยาเสพติดดำเนินการสืบสวนขยายผลการจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ และกำหนดเป้าหมายการปิดล้อมตรวจค้นเพื่อจับกุมและยึดทรัพย์เป้าหมายเครือข่ายผู้ค้าดังกล่าวอย่างจริงจังต่อเนื่อง ในครั้งนี้ได้กำหนดให้ทุกหน่วยร่วมบูรณาการกับสำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นพร้อมกันในวันนี้
ในพื้นที่ 22 จังหวัด 355สถานีตำรวจ โดยมีเป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จำนวน 904 เครือข่าย และเป้าหมายจุดปิดล้อมตรวจค้นทั้งสิ้นจำนวน 1,501 เป้าหมายทั้งนี้ ได้แยกผลการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดในแต่ละพื้นที่ได้ ดังนี้ภ.7 ผลการปิดล้อมตรวจค้น โดยมีเป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จำนวน 414 เครือข่าย และเป้าหมายจุดปิดล้อมตรวจค้นทั้งสิ้น จำนวน 415 เป้าหมาย ผลการจับกุมรายละเอียดดังนี้สามารถจับกุมได้ 280 คดี จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดหรืออาวุธปืนทั้งสิ้น 281 คนศาลอนุมัติออกหมายจับ 5 หมาย จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 16 คนการตรวจยึดของกลาง ได้แก่ยาบ้า 169,584 เม็ดไอซ์ 15.58 กรัมเคตามีน 0.43 กรัมเฮโรอีน 6.13 กรัมอาวุธปืน 36 กระบอกตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ รวมมูลค่าประมาณ 3,454,358 บาททรัพย์ของกลาง 3,040,358 บาททรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องฯ 414,000 บาท
ภ.8 ผลการปิดล้อมตรวจค้น โดยมีเป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จำนวน 193 เครือข่าย และเป้าหมายจุดปิดล้อมตรวจค้นทั้งสิ้น จำนวน 471 เป้าหมาย ผลการจับกุมรายละเอียด ดังนี้สามารถจับกุมได้ 330 คดี จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดหรืออาวุธปืนทั้งสิ้น 337 คนศาลอนุมัติออกหมายจับ 31 หมาย จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 28 คน
การตรวจยึดของกลาง ได้แก่ยาบ้า 72,276 เม็ด
ไอซ์ 138.15 กรัมอาวุธปืน 43 กระบอกตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ รวมมูลค่าประมาณ
12,688,190 บาททรัพย์ของกลาง 2,086,265 บาท
ทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องฯ 10,601,925 บาท
ภ.9 ผลการปิดล้อมตรวจค้น โดยมีเป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จำนวน 291 เครือข่าย และเป้าหมายจุดปิดล้อมตรวจค้นทั้งสิ้น จำนวน 604 เป้าหมาย ผลการจับกุมรายละเอียด ดังนี้สามารถจับกุมได้ 326 คดี จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดหรืออาวุธปืนทั้งสิ้น 334 คนศาลอนุมัติออกหมายจับ 36 หมาย จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 8 คน
การตรวจยึดของกลาง ได้แก่ยาบ้า 977,468 เม็ด
ไอซ์ 8.40 กรัมเฮโรอีน 41.17 กรัมโปรเมตาซีน 10 ขวดอาวุธปืน 21 กระบอกตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ รวมมูลค่าประมาณ 19,877,113 บาททรัพย์ของกลาง 3,107,667 บาททรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องฯ 16,769,446 บาทปส. ผลการปิดล้อมตรวจค้น โดยมีเป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จำนวน 6 เครือข่าย และเป้าหมายจุดปิดล้อมตรวจค้นทั้งสิ้น จำนวน 14 เป้าหมาย ผลการจับกุมรายละเอียด ดังนี้สามารถจับกุมได้ 30 คดี จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดหรืออาวุธปืนทั้งสิ้น 30 คนศาลอนุมัติออกหมายจับ 8 หมาย จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 8 คนการตรวจยึดของกลาง ได้แก่ยาบ้า 9,481 เม็ด
ไอซ์ 0.03 กรัมเฮโรอีน 5 กิโลกรัมอาวุธปืน 5 กระบอกตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ รวมมูลค่าประมาณ 18,125,000 บาททรัพย์ของกลาง 1,065,000 บาททรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องฯ 17,060,000 บาท
สรุปผลการปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ ภ.7-9 และ บช.ปส.ผลการปิดล้อมตรวจค้น โดยมีเป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จำนวน 904 เครือข่าย และเป้าหมายจุดปิดล้อมตรวจค้นทั้งสิ้น จำนวน 1,504 เป้าหมาย ผลการจับกุมรายละเอียด ดังนี้สามารถจับกุมได้ 966 คดี จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดหรืออาวุธปืนทั้งสิ้น 982 คนศาลอนุมัติออกหมายจับ 80 หมาย จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 60 คนการตรวจยึดของกลาง ได้แก่ยาบ้า 1,228,809 เม็ดไอซ์ 162.16 กรัมเคตามีน 0.43 กรัมเฮโรอีน 5.4 กิโลกรัมโปรเมตาซีน 10 ขวดอาวุธปืน 105 กระบอกตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ รวมมูลค่าประมาณ 54,144,661 บาท
ทรัพย์ของกลาง 9,299,290 บาททรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องฯ 44,845,371 บาท
โดยมีเป้าหมายการปิดล้อมตรวจค้น จำนวน 415 เป้าหมายผลการปฏิบัติ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จำนวน 276 ราย เป็นหมายจับ 16 รายของกลางยาบ้า 169,584 เม็ด, ไอซ์ 15.58 กรัม, เฮโรอีน 6.13 กรัมตรวจยึดทรัพย์สิน จำนวน 401 รายการ ประกอบด้วยรถยนต์ จำนวน 4 คันรถจักรยานยนต์ จำนวน 6 คันอาวุธปืน 36 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน 324 นัดโทรศัพท์มือถือ 16 เครื่องอื่นๆ จำนวน 8 รายการมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ ประมาณ 3,454,358 บาท
พฤติการณ์แห่งคดีด้วยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด.ภ.7 ได้ทำการสืบสวนกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ในพื้นที่ ภ.7 และจากการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายอื่น จนทราบว่าในพื้นที่ จ.นครปฐม มี นายธวัชชัยหรือแจ๊ค ศิริวงษ์ มีพฤติการณ์
ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด โดยมีอาวุธปืนพกติดตัวตลอดเวลา และได้ลักลอบนำยาเสพติดมาซุกซ่อนไว้ที่บ้านของแฟนสาว ในพื้นที่ ต.บ้านยาง จ.นครปฐม
จึงได้ลงพื้นที่ทำการตรวจสอบ พบนายธวัชชัยหรือแจ๊คฯ ขับขี่รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า city สีดำ เข้าไปที่บ้านพักในพื้นที่ ต.บ้านยาง อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนปืน ซุกช่อนอยู่ที่บริเวณเอว และพบกุญแจรถจักรยานยนต์อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าข้างขวา ของ
นายธวัชชัยหรือแจ็คฯ และทำการตรวจค้น บ้านพักผลการตรวจคันภายในบ้าน พบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนกลางรายการที่ 3) และเครื่องกระสุนปืน (ของกลางรายการที่ 4) และได้นำกุญแจรถจักรยานยนต์ที่ตรวจพบในกระเป๋ากางเกง ไปทำการตรวจค้นภายในรถจักรยานยนต์ ผลตรวจค้นพบ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 50มัด( รวม 100,000 เม็ด)ภายหลังได้นำไปสู่การขยายผล เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 39/9ต.ชำระ อ.โพธารามมจ.ราชบุรี จนสามารถ ทำการจับกุม นายสิทธิพรหรือหมี ข้างฉาว พร้อมของกลางยาเสพติดจำนวน 30,000เม็ด
แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่าจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า โดยการมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน :นก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง
ของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชน, มีอาวุธปันและเครื่องกระสุนปีนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน
ดำเนินการตรวจยึดทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2564 มาตรา 11/1 (6 ) ของนายธวัชชัยหรือแจ๊ค ศิริวงษ์ จำนวน 9รายการ คือรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ TOYOTA หมายเลขทะเบียน 3ขญ 5933 กรุงเทพ (ราคา 900,000บาท )รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ HONDA หมายเลขทะเบียน กพ 1235 นครปฐม (ราคา 140,000บาท )
รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ YAMAHA หมายเลขทะเบียน 9 กล 8630 กรุงเทพ (ราคา 130,000บาท )
รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ KAWASAKI รุ่น KR 150( ราคา 50,000บาท )สร้อยคอลักษณะคล้ายทองคำ น้ำหนัก 46.6 กรัม (3บาท) จำนวน 1 เส้น ( ราคา 100,000บาท )พระปิดตาหลวงปู่โต๊ะ เลี่ยมกรอบลักษณะคล้ายทอง ( ราคา 8000 บาท )
เงินสด จำนวน 30,000 บาทอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ Sig Sauer รุ่น P๓๖๕ ( ราคา 65,000บาท )อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .38 super ยี่ห้อ colt ( ราคา 95.000บาท )รวมรายการตรวจยึดทรัพย์สินทั้งหมด จำนวน 9 รายการ มูลค่าทรัพย์สินที่ทำการตรวจยึดเป็นเงินจำนวน
1,518 ,000บาท ( หนึ่งล้านห้าแสนหนึ่งหมื่นแปนพันบาทในการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.ปส.ภ.7/ ชุดขยายผล ภ.7จักได้ดำเนินการขยายผลจับกุมบุคคลในเครือข่าย และดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2565มาตรา 11/1 (6) เพื่อทำการตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่อง ของบุคคลในเครือข่ายต่อไป
ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหา ในเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ เครือข่าย แจ๊ค ท่าไม้ นายธวัชชัยหรือแจ๊ค ศิริวงษ์ อายุ 44ปี ที่อยู่ 14 ม.1 ต.ยางม่วง อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรีนายสิทธิพรหรือหมี ช้างฉาว อายุ 36 ปี ที่อยู่ 46หมู่ที่ 4 ต.โคกตะบอง อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรีพร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1(ยาบ้า) จำนวน 5- มัด ( จำนวน 100,000เม็ด )ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1(ยาบ้า) จำนวน 15 มัด ( จำนวน 30,000 เม็ด )รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า xmax สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9มม. ยี่ห้อ Sig Sauer รุ่น P365พร้อมเครื่องกระสุนปืน จำนวน 1 กระบอกอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 38 super ยี่ห้อ colt พร้อมเครื่องกระสุนปืน จำนวน 1 กระบอกเครื่องกระสุนปืนขนาด 38 super และเครื่องกระสุนปืน ขนาด 9มม.จับกุมเมื่อวัน เดือน ปี วันที่ 18เมษายน 2566เวลาประมาณ 18.00น.สถานที่เกิดเหตุ บ้านเลขที่ 49/1ม.6 ต.บ้านยาง อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ต่อเนื่องบ้านเลขที่ 39/9หมู่ 2 ต.ชำแระ
อ.โพธาราม จ.ราชบุรีในครั้งนี้