วันอังคาร, 24 ธันวาคม 2567

นครปฐม”” ประภัสร์” อ้อนชาวนครปฐมอย่า “รักพี่เสียดายน้อง” ต้องเลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคเพื่อให้เปลี่ยนรัฐบาลได้จริง เตือนชาวบ้านก่อนจะรับเงินใครให้คิดถึงอนาคตของลูกหลานเราด้วย

นครปฐม230466ประภัสร์” อ้อนชาวนครปฐมอย่า “รักพี่เสียดายน้อง” ต้องเลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคเพื่อให้เปลี่ยนรัฐบาลได้จริง เตือนชาวบ้านก่อนจะรับเงินใครให้คิดถึงอนาคตของลูกหลานเราด้วย

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2566 นายประภัสร์ จงสงวน แกนนำพรรคเพื่อไทยลงพื้นที่ จ.นครปฐม ช่วยนายวินัย วิจิตรโสภณ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 (อ.บางเลน อ.ดอนตูม)จ.นครปฐม หาเสียงที่ตลาดน้ำลำพญาแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอบางเลน โดยมีพ่อค้าแม่ค้ารวมทั้งนักท่องเที่ยวมาพูดคุยทักทายและขอถ่ายรูปด้วยเป็นจำนวนมาก หลายคนยืนยันว่าจะเลือกพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอนเพราะเชื่อมั่นผลงานในอดีตว่าสามารถทำตามนโยบายที่ใช้หาเสียงได้จริง พร้อมทั้งฝากให้ช่วยลดค่าแก๊สค่าไฟรวมทั้งค่าน้ำมันให้ชาวบ้านด้วยหากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลเพราะตอนนี้ชาวบ้านแบกรับภาระกันแทบไม่ไหวแล้ว

นายประภัสร์ยังอ้อนวอนไปยังชาวนครปฐมด้วยว่าอย่ารักพี่เสียดายน้องด้วยการเลือกเพื่อไทยเพียง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แต่ ส.ส.เขตไปเลือกจากพรรคการเมืองอื่นตามกลยุทธ์ของพรรคคู่แข่งที่ขอให้เลือกแบบแบ่งคะแนนกันเพราะต้องไม่ลืมว่า ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์มีเพียง 100 คน ส่วน ส.ส.เขตมีถึง 400 คน ดังนั้นหากอยากได้เพื่อไทยเป็นรัฐบาลก็ต้องเลือกทั้ง ส.ส.เขตและ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์จึงจะสามารถเปลี่ยนรัฐบาลได้เพราะต้องไม่ลืมว่าเขามี 250 สว.คอยยกมือสนับสนุนอยู่ หากยังเลือก ส.ส.เขตจากรัฐบาลเก่าเราก็จะไม่มีโอกาสเปลี่ยนแปลง หากทุกท่านคิดว่า 8 ปีที่ผ่านมาควรถึงจุดที่พอได้แล้วก็ควรให้โอกาสพรรคเพื่อไทยที่เคยสร้างผลงานในอดีตจนเป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะการทำให้คนไทยยืนอยู่ได้ด้วยลำแข้งของตัวเองไม่ต้องคอยพึ่งพาความช่วยเหลือจากรัฐบาลอยู่ตลอดเวลาเหมือนยุคปัจจุบัน

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าผู้สมัครบางคนเริ่มมีการเจรจาต่อรองกับผู้นำท้องถิ่นหรือเริ่มมีกระแสข่าวเรื่องการแจกเงินในบางพื้นที่นั้น นายประภัสร์ตั้งข้อสังเกตุว่าตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาเริ่มมีการใช้เงินเข้ามาเกี่ยวข้องตลอด ตั้งแต่มีการแจกกล้วยในสภาหรือมีการแจกนั่นแจกนี่อยู่ตลอดเวลาจนกลายเป็นเรื่องปกติของพวกเขาทั้งที่การให้เงินเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ดังนั้นควรคิดไว้เสมอว่าเมื่อเขาให้เงินเรามาแสดงว่าต้องการผลประโยชน์ตอบแทนในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งและไม่ได้เอาคืนธรรมดาอาจเป็นการเอาคืนแบบมีดอกเบี้ยด้วย ดังนั้นหากคิดจะรับเงินใครควรคิดถึงอนาคตของลูกหลานเราด้วย

ด้านนายวินัย วิจิตรโสภณ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 กล่าวว่าจากการลงพื้นที่หาเสียงอย่างต่อเนื่องพบว่าชาวบ้านชื่นชอบนโยบายกระเป๋าตังค์ดิจิตัล 1 หมื่นบาทเป็นอย่างมากเพราะสามารถเอาเงินก้อนที่ได้รับไปลงทุนหรือประกอบธุรกิจค้าขายของตัวเองได้เลย ไม่เหมือนกับการแจกเงินเล็กๆน้อย ๆ รายเดือนที่เป็นเพียงการหล่อเลี้ยงชีวิตไปแบบเดือนต่อเดือนเท่านั้นไม่รู้จักจบจักสิ้น ไม่สามารถทำให้พี่น้องประชาชนลืมตาอ้าปากได้ อย่างเช่นใน 1 ครอบครัวมีคนอายุเกิน 16 ปี 5 คน ก็จะได้รับ 5 หมื่นบาทซึ่งสามารถเอาไปลงทุนหรือทำอะไรได้มากมาย จึงอยากให้พี่น้องชาวนครปฐมเลือกตั้งแบบมียุทธศาสตร์เลือกเพื่อไทยให้ได้เกิน 300 เสียงเพื่อสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้จริงอย่าไปรักพี่เสียดายน้อง

ทีมข่าว// จ.นครปฐม

Loading