นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเวทีปราศรัยโค้งสุดท้าย ช่วยสรรเพชญ บุญญามณี ผู้สมัครสส.สงขลา เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัยกว่า 14,000 คน แน่นทั้งสวนญี่ปุ่น แหลมสมิหลาสงขลา
เมื่อเวลา 17.00 น.วานนี้ 11 พฤษภาคม 2566 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อมาช่วยปราศรัยหาเสียงโค้งสุดท้าย ให้กับนายสรรเพชญ บุญญามณี ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ โดยเดินทางมาพบกับพี่น้องประชาชน ที่บริเวณศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ สงขลา เขต 1 ถนนนครใน เขตเทศบาลนครสงขลา ชาวสงขลายังคงชื่นชอบในตัวนายอภิสิทธิ์ฯไม่มีเสื่อมคลาย มีการมอบพวงมาลัยและดอกกุหลาบ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมส่งเสียงเชียร์อภิสิทธิ์สู้ๆอยู่ตลอดเวลา
หลังจากนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสรรเพชญ บุญญามณี พร้อมทีมงานพรรคประชาธิปัตย์สงขลา เขต 1 ก็ขึ้นรถแห่เพื่อไปทักทายพี่น้องประชาชนที่มาคอยรอรับบริเวณริมถนนทั้งในชุมชนเตาอิฐและชุมชนวชิรา ถนนทะเลหลวง ซึ่งมีประชาชนชาวสงขลามายืนรอรับอยู่ริมถนนเป็นจำนวนมาก พร้อมได้มอบพวงมาลัยและดอกกุหลาบ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและนายสรรเพชรบุญญามณี ตามเส้นทางที่รถในขบวนวิ่งผ่าน พร้อมเสียงเชียร์ดังกึกก้องอยู่ตลอดเวลา
หลังจากนั้นขบวนแห่ก็เคลื่อนตรงไปยังบริเวณสวนญี่ปุ่น แหลมสมิหลาสงขลา ซึ่งเป็นสถานที่จัดตั้งเวทีปราศรัยโค้งสุดท้าย ของพรรคประชาธิปัตย์ สงขลา เขต 1 โดยมีประชาชนกว่า 14,000 คน มาร่วมฟังการปราศรัยของนายอภิสิทธิ์ฯในช่วงเย็นวันนี้ เต็มพื้นที่สวนญี่ปุ่นแทบไม่มีที่จะเดิน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้กล่าวถึง การทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมาและที่กำลังจะดำเนินการตามนโยบายในการเลือกตั้งในครั้งนี้ ทั้งในเรื่องของนมโรงเรียน ประชาธิปัตย์คิดสมัยท่านชวนเป็นนายก ตั้งแต่ปี 2536 มาถึงวันนี้ ปี 2566 ลูกหลานทุกคนยังได้ดื่มนมโรงเรียน นี่คือนโยบายประชาธิปัตย์ นี่คือสิ่งที่ท่านชวนคิดเมื่อ 30 ปีที่แล้วยังไม่มีใครกล้ายกเลิก ให้ดื่ม 5 วันต่อหนึ่งสัปดาห์ ปีหนึ่งดื่ม 250 วัน รอบนี้ประชาธิปัตย์มาประกาศถ้าได้เป็นแกนนำร่วมรัฐบาลจะให้ลูกหลานพี่น้องดื่มนมตลอดทั้งปีคือ 365 วัน นี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์ทำในเรื่องสร้างคน และด้วยนโยบายของพรรค ทำให้ลูกหลานได้กินอาหารกลางวันอีก และลูกหลานพี่น้องถ้าจะไปเรียนต่อที่กรุงเทพก็ต้องขายนาขายสวน ส่งให้ลูกเรียน มาวันนี้พี่น้องสามารถส่งลูกเรียนจนจบปริญญาไม่ต้องขายนาขายสวน ซึ่งท่านชวนได้ตั้งกองทุน กยศ.ขึ้นมาเพื่อให้ลูกหลานได้ เรียนหนังสือ ซึ่งปัจจุบันมีเด็กที่จบด้วยทุน กยศ.มีเป็นหกล้านคน นี่คือสิ่งที่พรรคทำ สมัยที่ผมเป็นนายก นายจุรินทร์เป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษามีฟรี 5 อย่างคือชุดนักเรียนฟรี กระเป๋าหนังสือฟรี รองเท้าฟรี ทัศนศึกษาฟรี อุปกรณ์การเรียนฟรี ประชาธิปัตย์คิดเพื่อลดค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้อง มาถึงวันนี้ก็ยังใช้ฟรี แต่ถ้าไม่มี นโยบายนี้ทุกคนต้องจ่ายเงินเอง
วันนี้ประชาธิปัตย์คิดต่อ และรอบนี้ถ้าพรรคไปเป็นแกนนำรัฐบาล จะให้ลูกหลานเรียนฟรีถึงปริญญาตรี ในสาขาที่ขาดแคลน นี่คือความหมายสร้างคนของประชาธิปัตย์ คิดเรื่องสร้างคน เมื่อเทียบนโยบายต่อนโยบายว่าพรรคการเมืองเหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์เวลาบอกกับพี่น้อง พูดอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้จะไม่พูด นี่คือประชาธิปัตย์
พี่น้อง อสม. ก็เช่นกัน ได้ค่าตอบแทนในสมัยที่ผมเป็นนายก และเป็นคนแรก ที่ให้ค่าตอบแทนแก่ อสม.เพราะนี่เป็นนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ มาถึงวันนี้ยังไม่มีใครกล้ายกเลิก สำหรับเบี้ยผู้สูงอายุเริ่มตั้งแต่ท่านชวนให้คนละ 200บาทไว้ซื้อหมากซื้อพลู ไข่เป็ด ไข่ไก่แต่ให้เฉพาะคนจน ต่อมาเพิ่มเป็น 300 บาท จนถึงพลเอกสุรยุทธ ให้ 500 แต่ยังให้กับคนจน จึงเป็นที่มาที่ว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นคนคัดเลือกคนจนเอง จนมีข้อครหานินทาเกิดขึ้น นี่คือความไม่เท่าเทียมจนถึงสมัยผมเป็นนายกรัฐมนตรี ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล เราคงบอกว่าใครอายุ 60 ปีขึ้นไปได้ทุกคน นี่ก็เป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์
ประชาธิปัตย์อยู่มา 77 ปี ย่างเข้าปีที่ 78 เปลี่ยนหัวหน้าพรรคมา 8 คน ตั้งแต่นายควง อภัยวงศ์ หม่อมเสนีย์ พ.อ.ถนัด คอมันต์ นายพิชัย รัตกุล นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ นายอภิสิทธิ์ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ และเป็นรัฐมนตรีมาแล้วหลายกระทรวง ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์จึงไม่มีวันตาย ขอให้เชื่อได้ พรรคบางพรรคขอมาเป็นนายกปีกว่าๆเท่านั้น แต่ประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง นี่คือสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำมาแล้ว ซึ่งถ้าวันที่ 14 พฤษภา ที่จะถึงนี้ ถ้าพี่น้องเลือกประชาธิปัตย์เป็นแกนนำรัฐบาล ประชาธิปัตย์มีนโยบายอีกหลายเรื่อง
ก่อนจบการปราศรัย นายอภิสิทธิ์ฯ อ้อนพี่น้องชาวสงขลา เขต 1 ฝากฝังให้เลือกนายสรรเพชญ บุญญามณี พรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสงขลา ในสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้