ด้อมส้มถล่มเมืองมหาชัย ด้านพิธาย้ำชัดหากนั่งแท่นนายกฯ ปัญหาประมงคลี่คลายด้วย 3 ค.
เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.ของวันที่ 27 มิถุนายน 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย พร้อมคณะ ก็ได้เดินทางมาที่ห้องประชุมสหกรณ์พัฒนาการประมงมหาชัย (ตลาดทะเลไทย) ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เพื่อหารือร่วมกับนายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย นายกำจร มงคลตรีลักษณ์ ที่ปรึกษาสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ดร.วิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ที่ปรึกษาสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย,นายมงคล มงคลตรีลักษณ์ นายกสมาคมการประมงสมุทรสาคร, นายกสมาคมการประมงจาก 22 จังหวัด ผู้แทนภาคเอกชน, นายศักดินัย นุ่มหนู ส.ส.พรรคก้าวไกล จังหวัดตราด, ส.ส.พรรคก้าวไกล สมุทรสาคร ทั้ง3 เขต, ตัวแทนพี่น้องชาวประมงทั้ง 22 จังหวัด ที่มาประชุมร่วมกันในการนำเสนอปัญหาข้อเรียกร้องที่ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่ดำเนินการแก้ไข
โดยเฉพาะถ้าหากนายพิธา ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องการให้ผลักดันการแก้ไข พ.ร.ก.ประมง และกฎหมายประมงที่ออกมาบังคับใช้ทำให้พี่น้องชาวประมงต้องทนทุกข์มานานกว่า 8 ปี บางคนสูญเสียรายได้ บางคนสูญเสียอาชีพ และบางคนสูญเสียชีวิต พร้อมกันนี้ที่บริเวณด้านล่างหอประชุม ชาวประมงได้มีการสะท้อนปัญหาของชาวประมงลงบนแผ่นกระดาษแล้วติดที่อวน เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้เห็นว่า อวนผืนนี้คืออวนล้อมปัญหาที่พร้อมจะส่งมอบให้ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไป ได้รับไปพิจารณาแก้ไข อาทิเช่น ปัญหาเรื่องระยะเวลาการทำงาน ปัญหาเรื่องกฎระเบียบที่เข้มงวดและไม่ตรงกับสภาพการจ้างงานที่เป็นจริง ปัญหาแรงงาน ปัญหาค่าแรง ปัญหาขั้นตอนการยื่นขอใช้แรงงาน การซื้อเรือคืน ปัญหาราคาน้ำมัน และปัญหาการปรับเปลี่ยนเครื่องมือทำกิน เป็นต้น
ทั้งนี้หลังจากนายพิธาฯ ได้รับฟังปัญหานานเกือบ 2 ชั่วโมงแล้ว ก็กล่าวว่า ตนเองทราบดีว่า ภาคประมงได้ทนกับปัญหานี้มานานและกระทบเป็นลูกโซ่ไปถึงภาคอุตสาหกรรมต่างๆ และอาชีพอื่นๆ บางคนต้องสูญเสียรายได้ไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งการแก้ปัญหาภาคประมง ต้องทำทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ ไปถึงระดับนานาชาติ และให้ความเชื่อมั่นว่าจะต้องฟื้นฟูอาชีพประมงให้กลับมารุ่งเรืองควบคู่ไปกับการรักษาทรัพยากรทางทะเลให้สมบูรณ์ นอกจากนี้ตนเองยังมั่นใจว่าปัญหาของพี่น้องชาวประมงจะต้องคลี่คลายไปได้อย่างแน่นอน หากตนได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัญหานี้จะลุล่วงสำเร็จขึ้นอยู่กับ 3 ค คือ คนที่มีศักยภาพในการแก้ไขปัญหา โครงสร้างของปัญหาและแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้ตรงกับสภาพความเป็นจริง และ คลังข้อมูลที่ชัดเจน เพื่อนำสู่การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง ถูกที่ และถูกทาง
ขณะที่ทางด้านของนายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย บอกว่า วันนี้เราได้เชิญนายกสมาคมประมงทั้ง 22 จังหวัด มานำเสนอปัญหา โดยจะมี 3 ระยะคือ ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ซึ่งระยะสั้นของเราก็ 90 วัน ต้องทำทันที ยกตัวอย่างเช่น ยกเลิกกฎหมาย ที่มีปัญหา กฎหมายลูก ไม่ว่าประกาศ กรม ประกาศกระทรวง คำสั่งกระทรวง ไอ้พวกนี้ต้องทันที ส่วนระยะกลางก็คือ การเสนอกฎหมาย ในการแก้กฎหมาย อาจจะเป็นออก พรก.ประมง ในการที่เราทำมาแล้วนี่ออกทันที ถ้าออกทันที เศรษฐกิจมันจะฟื้นทันที แล้วในส่วนของภาพรวมกฎหมายต่างๆที่มันมีปัญหา อันนี้เราอยากจะให้คณะทำงานขึ้นมาพิจารณาช่วยกันในการแก้ไขปัญหาต่างๆของพี่น้องชาวประมงทั้งระบบเลยไม่ว่าจะเป็นกฏหมายประมง กฎหมายแรงงาน กฎหมายเจ้าท่า ทุกส่วน เพราะมันมีเกี่ยวพันกันหมดครับ ซึ่งเราคาดหวังว่าถ้ารัฐบาลใหม่ซึ่งมาจากเสียงพี่น้องประชาชนคงจะได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน แต่ถ้ารัฐบาลที่มานี่อาจจะจัดตั้งรัฐบาลยากหน่อยก็ไม่เป็นไรเราก็รอได้ ตรงนี้เราก็ให้กำลังใจรัฐบาลใหม่ที่พยายามจัดตั้งรัฐบาล ความหวังของประชาชนก็รอตรงนี้อยู่ทุกๆคน โดยตนเชื่อว่าทุกอาชีพรอตรงนี้อยู่ ส่วนปัญหาที่จะรีบแก้ปัญหาของชาวประมง อันดับ1 คือ กฎหมายประมงต้องแก้ทันที อันดับ 2 กฎหมายลูก อันดับ3 คือ เยียวยา ฟื้นฟู ส่งเสริม ซึ่งมันจะไปอยู่ในเรื่องของระบบเศรษฐกิจ อาชีพประมงก็จะได้กลับคืนมา ตอนนี้ความมั่นใจของพี่น้องประชาชนในอาชีพประมงไม่มีใครมั่นใจ ทุกคนในที่นี้อยากจะเลิกอาชีพประมงกันหมดแล้วถ้ากฏหมายนี้ยังอยู่ แต่ถ้าเมื่อไรก็ตามถ้ากฏหมายนี้ได้แก้เราก็จะสามารถจะกลับมาทำอาชีพนี้ได้ ความมั่นคงทางด้านอาหารของประเทศชาติจะกลับคืนมา ตอนนี้ต้องบอกก่อนว่า ความมั่นคงทางด้านอาหารโดยเฉพาะอาหารทะเลเราสูญเสียไปแล้ว ตอนนี้เราขาดแคลนอาหารทะเลแล้วในการที่เรือประมงในประเทศไม่สามารถจับสัตว์น้ำมาให้ประชาชนคนไทยบริโภคอย่างเพียงพอ ซึ่ง 8 ปีที่ผ่านมา ที่เรารวบรวมสถิติ ในปีหนึ่งเราสูญเสีย 1 แสน 5 หมื่นล้านบาท หรือโดยรวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านๆ บาท
ทั้งนี้หลังจากที่การประชุมหารือร่วมกับพี่น้องชาวประมงได้เสร็จสิ้นลงแล้ว นายพิธาฯ ได้ขึ้นรถแห่ไปบริเวณวงเวียนน้ำพุ มหาชัย ซึ่งก็เกิดปรากฏการณ์ “ด้อมส้ม ถล่มเมือง” มีประชาชนไม่น้อยกว่า 5000 คน มารอรับนายพิธาฯ กันอย่างล้นหลาม ซึ่งตลอดทางที่ขบวนรถแห่ผ่านนั้น นายพิธาฯ ก็ได้ยิ้มทักทายปราศรัย โบกไม้โบกมือ และทำมือเป็นรูปหัวใจส่งให้กับเหล่าแฟนคลับทั้งหลาย ขณะที่บรรดา FC ก็มีสิ่งของมาคอยมอบให้ด้วย
และเมื่อผ่านพ้นมาแล้ว นายพิธาฯ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่บริเวณริมเขื่อนหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร เพื่อขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาครที่เทคะแนนให้กับพรรคก้าวไกล จนสามารถกวาดที่นั่ง ส.ส.มาได้ทั้ง 3 เขตเลือกตั้งแบบยกจังหวัด พร้อมกันนี้ยังกล่าวอย่างเชื่อมั่นว่า ขอให้พี่น้องทุกคนไม่ต้องกังวลใจ การจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคก้าวไกลและพรรคร่วมฯ จะผ่านพ้นไปด้วยดี ไม่มีอะไรมาขัดขวางได้ ส่วนทางด้านของสมาชิกวุฒิสภาจะโหวตให้โดยไม่ขัดต่อความต้องการในเสียงส่วนมากของพี่น้องประชาชน ซึ่งทางฝ่ายที่ได้คะแนนข้างมาก จะได้จัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน พร้อมกันนี้หากตนเองได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้กับชาวจังหวัดสมุทรสาครได้เป็นผลแน่นอน