เดอะโอ๋ !!! ลงพื้นที่ กาญจนบุรี ยกระดับการบริการประชาชนของสถานีตำรวจภูธร.เมืองกาญจนบุรี ตามนโยบายของ ผบ.ตร
วันที่ 25 กันยายน 2566 ทีสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี จว.กาญจนบุรี พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เดินทางลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีเพื่อตรวจเยี่ยมพร้อมขับเคลื่อนการยกระดับการบริการประชาชนของสถานีตำรวจ ตามนโยบายของ ผบ.ตร.ณ.สถานีตำรวจภูธร.เมืองกาญจนบุรี ตำรวจภูธรจังหวัด.กาญจนบุรี พร้อมมอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคจำพวกถุงบำรุงขวัญ 20 ถุง น้ำดื่ม 20 แพ็ค ข้าวสารถุงละ 5 ก.ก. 20 ถุง กาแฟกระป๋อง 1 ถาด กาแฟเบอร์ดี้ชนิดซอง 4 ห่อ เครื่องดื่มเกลือแร่สปอนเซอร์ 1 ลัง ปลากระป๋อง 1 ลัง รองเท้าแตะแบบผู้ชาย 40 คู่ รองเท้าแตะแบบผู้หญิง 30 คู่ รองเท้าแตะแบบเด็ก 20 คู่ พัดลม 16 นิ้ว 3 ตัว เพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี จากนั้นเป็นประธานในการประชุมมอบนโยบายการบริหารราชการให้แก่ข้าราชการตำรวจในสังกัด สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี โดยมี พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี นายภาณุรุจ ชูสินภานุมาศ ประธาน กต.ตร.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมคณะ กต.ตร.สภ.เมืองกาญจนบุรี และข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี รอรับการตรวจและเข้าร่วมการประชุม
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวในที่ประชุมโดยได้กำชับแนวทางในการปฏิบัติ 1.นำนโยบายรัฐบาล วิสัยทัศน์ ผบ.ตร. “เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน” วิสัยทัศน์ตำรวจภูธรภาค 7 “ภักดีองค์ราชันมุ่งมั่นสร้างศรัทธา พัฒนาเป็นมืออาชีพ บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม นำสมัย เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา” และวิสัยทัศน์ ผบช.ภ.7 “ทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน” ไปปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรม 2.ต้องทำงานกันเป็นทีม ยึดมั่นในระเบียบวินัย บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน และดำรงตนอย่างมีเกียรติ 3.การทำงานต้องประกอบด้วย ” หลักการทำงาน 4443 ” 3.1 “4 เกาะ” เกาะติดพื้นที่ เกาะติดประชาชน/มวลชน/และชุมชน เกาะติดคนร้ายหรือเกาะติดศัตรูของประชาชน และเกาะติดผู้ใต้บังคับบัญชาหรือเกาะติดลูกน้อง 3.2 “4 ยก” ยกระดับองค์ความรู้ ยกระดับวิธีคิด ยกระดับวิธีการทำงาน และ ยกระดับการใช้ดุลพินิจ 3.3 “4 ทำ” ทำงาน ทำดี ทำบุญ และมีภาวะผู้นำ 3.4 “3 S” Smart Smile Strong 4.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติ และพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชา ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ คำสั่ง แบบแผนธรรมเนียมของทางราชการอย่างสม่ำเสมอโดยใกล้ชิด และสร้างขวัญกำลังใจ ความสามัคคี ภาพลักษณ์ของตำรวจให้ดีขึ้น และสร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชนเพื่อให้ยอมรับว่าข้าราชการตำรวจเป็นมิตรที่ดีของประชาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริงตามคำสั่งกรมตำรวจ ที่ 1212/2537 ลง 1 ต.ค. 2537 เรื่อง มาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ 5.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ตรวจสอบควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การกระทำความผิดใด ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ห้ามมิให้เรียกรับผลประโยชน์ การจับกุมในลักษณะกลั่นแกล้ง มีส่วนพัวพันกับการกระทำความผิด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการทางวินัย คดีอาญาและปกครองอย่างถึงที่สุด 6.กำชับให้มีการฝึกทบทวนทางยุทธวิธีทั้งฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวนเป็นประจำสม่ำเสมอ ให้เกิดความคุ้นชินเมื่อต้องปฏิบัติ
เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียแก่เพื่อนพี่น้องข้าราชการตำรวจ 7.ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ เป็นภารกิจเร่งด่วนของผบ.ตร. ให้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีรูปแบบต่าง ๆ ให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อ หากพบการกระทำความผิดดำเนินการบังคับใช้กฎหมายให้ถึงที่สุด 8.ปัญหายาเสพติดเป็นภารกิจเร่งด่วนของ ผบ.ตร. มุ่งเน้นใช้วิธีการบำบัดยาเสพติดต่อผู้เสพ เพื่อคืนคนดีสู่สังคมตามนโยบายรัฐบาล โดยปฏิบัติการเชิงรุกซักถามถึงแหล่งที่มาและเครือข่าย เพื่อจัดทำฐานข้อมูลในการติดตามจับกุมและขยายผลต่อไป 9.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นมีความเข้าถึงและใส่ใจในความเป็นอยู่ของผู้ใต้บังคับบัญชาและครอบครัว อย่างใกล้ชิด คอยช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้สิน ความเป็นอยู่ อย่าปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องเคว้งคว้างเผชิญปัญหาเพียงผู้เดียว 10.ให้ผู้บังคับบัญชาเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านงานในหน้าที่ ด้านการใช้ชีวิต การครองตนให้อยู่ในศีลธรรมอันดี 11.กำชับความรักความสามัคคีในหมู่คณะ ทำงานเป็นทีม(Teamworks) เคารพซึ่งกันและกันระหว่างรุ่นพี่ รุ่นน้อง โดยให้ยึดหลักการครองตน ครองคน และครองงาน