วันพุธ, 20 พฤศจิกายน 2567

หนุ่มโรงยางสุดช้ำไปช่วยงานวัดไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง

นครปฐม111166หนุ่มโรงยางสุดช้ำไปช่วยงานวัดไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง

เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2566 เวลา 14.20 น.ที่อำเภอดอนตูมผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ใหญ่นพพร เหล่าปาสี ผญบ.ม.13 ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีไฟไหม้บ้านประชาชนพื้นที่ม.11 ซึ่งเป็นร้อยต่อระหว่างหมู่บ้านติดกัน

ที่เกิดเหตุม.11 ต.ลำเหย มีไฟไหม้อย่างแรงชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงและประชาชนที่มาช่วยงานวัดทุ่งสีหลงที่จะมีงานทอดกฐินวันที่ 12 พ.ย.66 นี้และครูโรงเรียนวัดทุ่งสีหลงและผู้ใหญ่บ้านอนุรักษ์ รุ่งรัตน์พิศาลชัย ม.11 ได้วิ่งออกมาช่วยกันดับไฟไหม้โดยใช้ถังดับเพลิงสารเคมีที่โรงเรียนก็ควบคุมไม่ได้และใช้ต่อแถวส่งต่อกระป๋องตักน้ำจากแหล่งน้ำใกล้เคียงมาช่วยกันดับไฟแต่แสงเพลิงลุกขึ้นแรงและรวดเร็วจากนั้นได้ไปนำเครื่องดูดน้ำจากบ้านผู้ใหญ่สาคร โพธิ์ใต้ ผญบ.ม.1 นำเครื่องมาสูบน้ำช่วยดับแสงเพลิงซึ่งการดับไฟในครั้งนี้เป็นไปอย่างชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจใช้กระป๋องน้ำตักแหล่งน้ำส่งต่อกันมาดับไฟใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้มีกลุ่มควันขึ้นมาบางช่วง

จากนั้นรถน้ำของอบต.ลำเหยมายังจุดเกิดเหตุและใช้น้ำฉีดกลุ่มควันให้ดับลง

จากการตรวจเป็นบ้านเลขที่ 82 ม.11 ทราบชื่อเจ้าของบ้านนายคมกฤต ปลั่งทอง อายุ 45 ปีมีอาชีพทำงานโรงยาง ซึ่งอาศัยอยู่กับแม่และน้องชาย แม่อายุ 70 กว่าปีพร้อมน้องชายเล่าไปช่วยงานที่วัดทุ่งสีหลงและได้ล๊อคบ้านเอาไว้มาทราบอีกครั้งหนึ่งมีชาวบ้านวิ่งมาบอกนายกฤตว่าบ้านถูกไฟไหม้ของใช้ในบ้านไฟไหม้หมดที่นอน ตู้เย็น มอไซร์ 1 คัน หม้อข้าว พัดลม โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องเสื้อผ้า ของใช้ภายในบ้านที่หลับนอนคาดว่าความเสียหายประมาณ 40,0000 บาทซึ่งทำให้ครอบครัวนี้สิ้นเนื้อประดาตัว

หลังจากเพลิงสงบทางด้านนายมงคล โสภาพ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลลำเหยลงพื้นที่ให้กำลังใจพร้อมเงินช่วยเหลือบางส่วนและที่นอนมามอบให้นายกฤต และครบครัวในครั้งนี้และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ดอนตูมพร้อมฝ่ายปกครองอำเภอดอนตูมมายังที่เกิดและตรวจสอบในเบื่องสัณนิฐานว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงวรเนื่องจากแสงไฟเกิดจากปลักไฟ

 

 

Loading