บิ๊กตุ้ย !!! นำทีมสืบสวน ทลายแก๊ง วัยโจ๋ ที่ก่อเหตุโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในพื้นที่จังหวัด นครปฐม
วันนี้ 28 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 13.30 น.ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกุล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม,พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ณัฐพิสิษฐ์ รัตนอุดมพล ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.7,พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.อิทธิพล พรเทวบัญชา ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พายัพ โสธรางกูล ผกก.สภ.นครชัยศรี พ.ต.อ.จิระเดช ชมภูนิตย์ ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ รวม 6 ราย นายธนากร กิตติกรดำรงกุล อายุ 33 ปี นาย อธิปัตย์ อินทร์อยู่ อายุ 32 ปี นายบูม (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นาย เปี๊ยก (นามสมมุติ)อายุ 17 ปี นาย โฟล์ค (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี นาย ไอซ์ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดคืนมาได้จำนวน 4 คัน
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อ
สะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมหรือรับของโจร ”
สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่บริเวณปั้มน้ำมัน ปตท.เคหะร่มเกล้า แขวง คลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร จับกุมผู้ต้องหาลำดับที่ 2 บริเวณ ริมถนน ทล.37กม.ที่ 40 (ขาเข้า) ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ จับกุมผู้ต้องหาที่ 3-6 ที่สภ.นครชัยศรี หมู่ 3 ต.นครชัยศรี อ.นครชัยศรี จว.นครปฐม
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ นายกรัฐมนตรี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจภูธรภาค 7 ในด้านการป้องกันปราบปรามการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่สืบเนื่อง จากในห้วงเดือน มกราคม – กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมาได้มีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุตะเวณลักทรัพย์เป็นรถจักรยานยนต์ของประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครปฐมเป็นจำนวนมากสร้างความความเสียหายและเดือนร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
จึงได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.7 และ ภ.จว.นครปฐมลงพื้นที่ทำการสืบสวนเร่งรัดติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ในพื้นที่จังหวัด นครปฐม มาดำเนินคดีให้ได้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นลดความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวว่า จนกระทั่งเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสืบสวนบก.สส.ภ.7 บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.นครปฐม ชุดสืบสวน สภ.นครชัยศรี พร้อมชุดป้องกันปราบปรามโจรกรรมรถ ได้ทำการสืบสวนสอบสวนติดตามกลุ่มคนร้าย ที่เข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คันในเขตพื้นที่ อ.นครชัยศรี จว.นครปฐม เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2567 จนกระทั่งสามารถรวบรวมวัตถุพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดนครปฐม ออกหมายจับและทำการสืบสวนจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ ได้ จำนวน 1 ราย คือ นายธนากร กิตติ กรดำรงกุล อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นคนร้ายที่เป็นคนขับรถยนต์กระบะลักษณะด้านท้ายเป็นตู้ทึบขับเข้ามารับรถจักรยานยนต์ที่ถูกลักเอามาขึ้นท้ายรถยนต์กระบะขับไปส่งในพื้นที่ จังหวัดเลย
จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนบก.สส.ภ.7 บูรณาการกำลังร่วมกับ กก.สส.ภ.จว.นครปฐม ชุดสืบสวน สภ.นครชัยศรี พร้อมชุดป้องกันปราบปรามโจรกรรมรถ ได้ทำการสืบสวนขยายผลจนสามารถขออนุมัติศาลจังหวัดนครปฐม ออกหมายจับกุมตัวกลุ่มเยาวชนที่ร่วมกันก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ในเขตพื้นที่จังหวัดนครปฐมและพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มอีกจำนวน 5 คน นายอธิปัตย์ อินทร์อยู่ อายุ 32 ปี นาย บูม (นามสมมุติ)อายุ 17 ปี,นาย เปี๊ยก (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี,นายโฟล์ค (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี และนายไอซ์ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุ
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนกลุ่มผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพว่า พวกตนได้ร่วมก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และพื้นที่ใกล้เคียงในห้วงที่ผ่านมา ไปจำนวนหลายคัน โดยพวกตนได้มีการติดต่อกับผู้รับซื้อรถในพื้นที่ จังหวัดเลย จากนั้นกลุ่มพวกตนก็จะออกตระเวนลักทรัพย์ รถจักรยานยนต์ตามที่ผู้รับซื้อสั่งมา ตามหอพัก บ้านเช่า ทางสาธารณะ ที่เจ้าของจอดไว้ โดยไม่ได้มีมาตรการป้องกัน เช่น ไม่ล็อคคอ ไม่มีเครื่องป้องกันรถหาย หรือจอดในที่ที่ไม่มีการเฝ้าระวัง เมื่อได้รถจักรยานยนต์ที่ลักมาตนก็จะติดต่อกลุ่มคนร้ายที่ทำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะลักษณะท้ายมีตู้ทึบมารับรถจักรยานยนต์ที่โจรกรรมมาได้นำไปส่งในพื้นที่จังหวัด เลย ซึ่งก่อเหตุมาจำนวนหลายครั้ง จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวดังกล่าว และสามารถขยายผลดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาได้รวม 15 คดีโดยแบ่งเป็นในพื้น สภ.นครชัยศรีจำนวน 4 คดี,สภ.บางเลนจำนวน 4 คดี,สภ.โพธิ์แก้วจำนวน 4 คดีและสภ.เมืองนครปฐมจำนวน 3 คดี และ สามารถยึดรถจักรยานยนต์ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุ และจอดทิ้งไว้คืนมาได้ จำนวน 4 คัน และจะทำการสืบสวนขยายผลจับกุมไปถึงกลุ่มนายทุนที่ทำหน้าที่รับซื้อรถจักรยานยนต์ ต่อไป
