ตำรวจ สภ.สังขละบุรี รวบต่างด้าวรายวัน
วันนี้ 22 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 16.00 น.ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.บรรจง อมฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม(ปป.)พ.ต.อ.ไพฑูรย์ ศรีวิลัย ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.กิตติณัติ์ ปรีชาวุฒิวงศ์ รอง ผกก.ป.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.ประหยัด ราศี สวป.สภ.สังขละบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรีสายตรวจสะพานรันตีสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ลาดหญ้า เจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี ร่วมกันจับกุมบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 14 ราย (พร้อมผู้ติดตาม 2 คน)
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี ได้รับแจ้งจากสายข่าว ว่าพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยซึ่งมีลักษณะคล้ายกลุ่มบุคคลต่างด้าวหลบซ่อนอยู่ที่บริเวณชายป่ายาง บ้านทีโครง ม.4 ต.ปรังผล อ.สังขละบุรี จว.กาญจนบุรี จึงรีบนำกำลังเข้าตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าว เมื่อทางเจ้าหน้าที่ไปถึงยังจุดที่ได้รับแจ้งพบ น.ส.ชิแงแง่ ไม่มีชื่อสกุล อายุ 26 ปี พร้อมพวกรวม 14 คน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกลุ่มบุคคลที่ได้รับแจ้งสายข่าว จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอตรวจสอบบัตรประจำตัวหรือเอกสารใด ๆ ที่แสดงการอนุญาตให้เข้ามาหรืออยู่ในราชอาณาจักรไทยของบุคคลทั้งหมดพบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงได้และไม่สามารถพูดและเข้าในภาษไทยได้
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวต่อว่า จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1-14 ผ่านล่ามแปลของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้การรับสารภาพว่าพวกตนได้เดินทางมาจากอำเภอพญาตองชู ประเทศเมียนมาเพื่อที่จะมาทำงานที่ประเทศไทย โดยเดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยได้จ่ายเงินค่าจ้างคนละ 20,000 – 30,000 บาทให้กับนายหน้าเพื่อให้นำพาพวกตนเข้าไปทำงานในพื้นที่ชั้นในของประเทศ แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้เสียก่อนสามารถจับกุมได้ที่บริเวณชายป่ายางบ้านทิโคร่ง ม.4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จว.กาญจนบุรี
โดยกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1-14 ว่า”เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย”
ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสังขละบุรี สอบสวนขยายผลถึงกลุ่มผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
