ผบช.ภ.7 !!! ส่งชุดสืบสวน ทลาย แก๊งลักจักรยานยนต์ รายใหญ่ในพื้นภาค 7 ยกขึ้นกระบะตู้ทึบส่งถึงบ้าน ตรวจยึดของกลางนับสิบคัน

ผบช.ภ.7 !!! ส่งชุดสืบสวน ทลาย แก๊งลักจักรยานยนต์ รายใหญ่ในพื้นภาค 7 ยกขึ้นกระบะตู้ทึบส่งถึงบ้าน ตรวจยึดของกลางนับสิบคัน

วันที่ 15 ตุลาคม 67 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พายัพ โสธรางกูลผกก.สภ.นครชัยศรี พร้อมชุดคลี่คลายคดี แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาในคดีลักรถจักรยานยนต์และซื้อขายในตลาดมืด โดยได้ผู้ต้องหา 3 รายและของกลางหลายรายการ โดยเป็นรูปแบบการหลอกเหยื่อรูปแบบใหม่โดยผ่านแอปพลิเคชั่นในระบบออนไลน์

ตำรวจภูธรภาค 7 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.นครปฐม นำโดย พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม,พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม,พ.ต.อ.อิทธิพล พรเทวบัญชา ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พายัพ โสธรางกูล ผกก.สภ.นครชัยศรี,พ.ต.ท.อิสรภาพ แก้วชลคราม รอง ผกก.ป.สภ.นครชัยศรี,พ.ต.ท.คเชนทร์ นิยมทอง รอง ผกก.สส.สภ.นครชัยศรี พร้อมชุดป้องกันปราบปรามโจรกรรมรถ และชุดสืบสวน สภ.นครชัยศรี ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ รวม 3 คน นายธณัต หรือ ทอป อายุ 33 ปี นางสาวพรรณราย หรือ นุช อายุ 29 ปี นายพลกฤษณ์ หรือ ต้อม อายุ 34 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์กระบะตู้ทึบ หมายเลขทะเบียน บว 3013 กำแพงเพชร จำนวน 1 คัน

โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมหรือรับของโจร”
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวว่าเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 21.30 น.ได้มีกลุ่มคนร้ายออกก่อเหตุตระเวนลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ของประชาชน ที่บริเวณด้านหน้าบริษัท บูโอโน่ ต.ไทยาวาส อ.นครชัยศรี จว.นครปฐม จำนวน 2 คัน สร้างความเดือนร้อนและความเสียหายให้กับพ่อแม่ พี่น้อง ประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครปฐมและพื้นที่ใกล้เคียงทางตำรวจภูธรภาค 7 จึงได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนบก.สส.ภ.7 ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นครปฐม และชุดสืบสวน สภ.นครชัยศรี ร่วมบูรณาการกำลังลงพื้นที่ เร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม มาดำเนินคดีให้จงได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นครปฐม พร้อมชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งสืบทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่มาก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ในเขตพื้นที่ อ.นครชัยศรี ดังกล่าว จึงรวบรวมวัตถุพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ และสืบสวนจับกุมคนร้ายที่ร่วมกันลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ได้ จำนวน 1 ราย คือ นายธณัต หรือ ทอป อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นคนร้ายที่เป็นคนขับรถยนต์ขนส่งกระบะด้านท้ายมีตู้ทึบของบริษัทขนส่งเอกชนรายนึง มารับรถจักรยานยนต์ที่ถูกลักเอามาขึ้นท้ายรถยนต์กระบะ ขับไปส่งในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 กล่าวต่อว่า จากนั้นได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกก.สส.ภ.จว.นครปฐม และชุดสืบสวน สภ.นครชัยศรี ทำการสืบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการในการกระทำความผิด จนสามารถจับกุม ผู้ที่ร่วมก่อเหตุได้อีกจำนวน 2 คน คือ นางสาวพรรณราย หรือ นุช อายุ 29 ปี และ นายพลกฤษณ์ หรือ ต้อม อายุ 34 ปี ซึ่งมีพฤติการณ์ในการก่อเหตุคือก่อนเกิดเหตุ น.ส.พรรณราย ได้ติดต่อกับ นายพลกฤษณ์ ผู้รับซื้อรถจักรยานยนต์ โดยการเปิดเพจรับซื้อรถจักรยานยนต์ผ่านทาง เฟสบุค โดยมีการประกาศรับซื้อรถจักรยานยนต์ ที่มีเล่มคู่มือการจดทะเบียน และไม่มีเล่มคู่มือจดทะเบียน จากนั้นน.ส.พรรณราย ได้ออกตระเวนหารถจักรยานยนต์ เป้าหมายพร้อมถ่ายรูปส่งไปให้ นายพลกฤษณ์ เพื่อทำการปลอมแปลงเอกสารคู่มือการจดทะเบียน ขึ้นมาและส่งให้กับ น.ส.พรรณราย ใช้แสดงกับผู้ที่รับจ้างขนส่ง เมื่อถึงวันเวลานัดหมาย นายพลกฤษณ์ ได้ทำการว่าจ้างรถกระบะตู้ทึบผ่านทางแอปพลิเคชั่น ของบริษัทขนส่งเอกชนรายนึง ให้มารับรถจักรยานยนต์บริเวณที่เกิดเหตุ โดยมี น.ส.พรรณราย ได้ออกมาชี้เป้าหมายรถจักรยานยนต์ที่จะลักเอาไป โดยในวันที่เกิดเหตุ ได้มีนายธณัต หรือ ทอป ขับรถยนต์กระบะตู้ทึบมารับงานขนรถจักรยานยนต์ที่ถูกลักไปส่งให้นายพลกฤษณ์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร โดย น.ส.พรรณราย จะได้รับเงินค่าจ้างจากรถที่ลักเอาไป คันละ 7000 บาท ส่วนนายธณัต จะได้รับเงินค่าจ้างเพิ่มจากเดิมอีก 1,200 บาท และในวันที่ 5 ตุลาคม 2567 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำหมายค้นศาลอาญา เข้าค้นบ้านเลขที่ 133 ถ.ลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นบ้านพักของนายพลกฤษณ์ พบของกลางรถจักรยานยนต์จอดอยู่ภายในบ้านพักหลังดังกล่าวจำนวน 16 คัน ประกอบด้วย 1.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ จำนวน 7 คัน 2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น สกูปี้ ไอ จำนวน 3 คัน 3.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ซีพีเอกซ์ จำนวน 1 คัน 4.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น ซูเมอร์ เอกซ์ จำนวน 1 คัน 5.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น เอกซ์แมก จำนวน 1 คัน 6.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น ฟิน จำนวน 1 คัน 7.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น เลกซี่ จำนวน 1 คัน 8.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ เวสป้า จำนวน 1 คัน
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 เปิดเผยอีกว่า จากการตรวจสอบแล้วรถจักรยานยนต์ดังกล่าวมีเอกสารไม่ครบถ้วน โดยนายพลกฤษณ์ ได้อ้างกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ว่ารับจำนำมาจากบุคคลอื่น และยังพบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสารข้อมูลจดทะเบียน และข้อมูลบัตร ประชาชน ของเจ้าของรถอีกด้วย ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ตรวจยึดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องและยึดรถจักรยานยนต์ 16 คันดังกล่าว มาเพื่อตรวจสอบขยายผลต่อไป ในขณะได้มีผู้เสียหายนำเอกสารมาติดต่อที่ สภ.นครชัยศรี เพื่อรับรถจักรยานยนต์คืนไปแล้ว จำนวน 4 คัน และยังมีผู้เสียหายอยู่ระหว่าง นำเอกสารมาติดต่อขอรับรถจักรยานยนต์ คืน 12 คัน

Loading