วันจันทร์, 25 พฤศจิกายน 2567

ศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธภาพการผลิตสินค้าเกษตรบ้านฮูแตทูวอ

ศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรของบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส

 

โดยแนวคิดของศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรของบ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เน้นให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญประการหนึ่งคือ การมีส่วนร่วมของชุมชน ซึ่งอาศัยการบุกเบิกของปราชญ์ชาวบ้านอย่างนายสมาน ผ่านพรม ที่ได้น้อมนำศาสตร์พระราชามาเป็นแนวทางการทำเกษตร และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ชาวบ้าน จนได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิปิดทองหลังพระ รวมทั้งหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ จนทำให้รอดพ้นจากความอดอยาก หมดหนี้สิน พ้นความยากจน โดยอาศัยหลักการพึ่งพาตนเองในระดับครัวเรือน การพึ่งพากันเองในระดับชุมชน และ การพึ่งพาซึ่งกันและกันในระดับพื้นที่


ล่าสุด จากการลงพื้นที่ของหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เมื่อวันที่ 31 พ.ค.60 ที่ผ่านมา ได้สนับสนุนโรงเรือนปลูกพืชทางการเกษตรให้แก่ศูนย์ โดยผู้บังคับกองพันพัฒนาที่ ๔ เป็นหลักในการจัดสร้าง โดยจัดหาวัสดุและเตรียมการต่างๆ จนพร้อมนำไปประกอบสร้าง ซึ่งชาวบ้านที่มีทั้งไทยพุทธและมุสลิม ต่างร่วมแรงร่วมใจมาช่วยกันจนสำเร็จ ด้วยวงเงินเพียง 30,000 บาทเศษ จากที่ประมาณการไว้ 60,000 บาท ผลจากการที่เจ้าหน้าที่ทหารและชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจกันสร้างขึ้น
ด้านนานสมาน ผ่านพรหม ประธานศูนย์เรียนรู้บ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ได้กล่าวขอบคุณ ฯพณฯท่าน พล เอก อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พ.ท.วิศิษฐ์ ศรีจันทร์ทอง ผู้บังคับกองพันพัฒนาที่ 4 และสำนักงาน คปต.ส่วนหน้าทุกท่าน


โดยเดิมทีนั้นศูนย์เรียนรู้บ้านฮูแตทูวอ มีเนื้อที่ทั้งหมด 11 ไร่ แรกเริ่มเดิมทีนั้นมีเพียง 4 ไร่ ได้จัดสรรปั่นส่วนให้กับสมาชิก 13 คน จากสมาชิก 17 คน และอีก 4 คน ให้เป็นแปลงหลังบ้าน จากที่ดิน 4 ไร่นั้นแบ่งออกเป็นคนละ 200 ตารางเมตร ในช่วงแรกเดือนกรกฏาคม 2559 ดีรับความร่วมมือจากมูลนิธิปิดทองหลังพระมาสนับสนุนเรื่องแหล่งน้ำเพราะการทำเกษตรบนดินทรายนั้นน้ำเป็นปัจจัยเสี่ยงซึ่งเดิมเราใช้น้ำบาดาลในการปลูกพืชแบบผสมผสาน โดยในสมาชิกทั้งหมดปลูกแล้วมีตลาดเกษตรรองรับ ต่อมาปลายปี 2559 ได้รังงบประมาณจากรัฐบาลในการขยายพื้นที่พร้อมทั้งกรรมการหมู่บ้านได้หารือขอขยายพื้นที่พร้อมทำหนังสือไปยังนิคมสหกรณ์บาเจาะขอให้ขยายพื้นที่จาก 4 ไร่ เป็น 7 ไร่ รวมเป็น 11 ไร่ โดยมีสมาชิกใหม่เพิ่มเป็น 30 คน รวมกับสมาชิกเดิม 13 คน รวมเป็น 43 คน และมีการปลูกพืชตามใจชอบและตลาดต้องการเน้นพืชที่ตลาดต้องการ เช่น ปลูกพืชสลัด เลี้ยงสัตว์ แต่พบปัญหาในการปลูกพืชแนวใหม่ด้านภูมิอากาศ สภาพแวดล้อมแปรป่วน จึงมีความคิดถ้าอยากพัฒนาต่อไปเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ดี มุ้งเน้นปลูกพืชปลอดภัยไม่ใช้สารเคมีจึงมีการพูดคุยกับสมาชิกและกรรมหมู่บ้านว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ ถ้าจะสร้างโรงเรือนต้องใช้งบประมาณสูง จนกระทั่ง พลเอกอุดมเดช สีตบุตร ได้มาเยี่ยม พร้อมขอจากท่าน 5 โรง ซึ่งหลังจากที่ท่านได้มาดูที่แล้วท่านให้มาสร้างถึงแม้สถานที่อาจจะไม่สมบูรณ์นัก แต่จะนำพาสมาชิกทุกคนไปสู่ความสำเร็จมีรายได้ลดรายจ่ายอย่างที่ตั้งใจไว้


ด้าน พ.ท.วิศิษฐ์ ศรีจันทร์ทอง ผบ.กองพันพัฒนาที่ 4 กล่าวว่า ตามที่ศูนย์เรียนรู้บ้านฮูแตทูวอ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เกิดขึ้นจากการรวมตัวในชุมชนนำศาสตร์พระราชาน้อมนำตามหลักปีชยาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อความเข้มแข็งของชุมชนทางหน่วยจึงได้มาร่วมสร้างโรงเรือนสำหรับการปลูกแปลงเมล่อนชาวบ้านได้เรียนรู้จนสามารถนำผลิตผลไปจำหน่ายตามความต้องการของท้องตลาดได้รวมถึงปลูกพืชพันธ์ต่างๆซึ่งถือเป็นความเข้มแข็งของชุมชนแห่งนี้ และหากดำเนินการแบบนี้ตลอดไปเชื่อว่าชุมชนแห่งนี้จะเกิดสันติสุขขึ้นอย่างยั่งยืน สิ่งที่ชาวบ้านจะได้รับนั้นคือการประหยัดค่าใช้จ่ายเพิ่มรายได้ให้แก่ครอบครัวพร้อมกับได้สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและเป็นตัวอย่างที่ดีในการเผยแพร่ไปสู่ชุมชนข้างเคียงอีกด้วย.

 

ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ

Loading