ชาวบ้านใหม่ อ.เมือง จ.นราธิวาส กว่า 100 คน รวมตัวโร่พบนายกฯเล็ก เดือดร้อนหนักได้รับผลกระทบจากบริษัทเอกชนทำการเผาขยะอันตรายใกล้ชุมชน ส่งผลให้เด็ก คนชรา ติดเชื้อเป็นโรคผิวหนัง เป็นหืดหอบ ยายใจลำบาก ต้องทนกลิ่นเหม็นมานานเกือบ 3 ปี ยืนยันจะต่อต้านจนถึงที่สุด
ชาวบ้านในพื้นที่บ้านใหม่ ม.5 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส จำนวนกว่า 100 คน รวมตัวกันมาพบนายอัสมีรี แวเด็ง นายกเทศมนตรีตำบลกะลุวอเหนือ ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อเสนอปัญหาและร้องเรียนไปยังผู้มีหน้าที่รับผิดชอบจากกรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษที่ทางบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งได้ตั้งโรงงานเผาขยะอันตรายใกล้หมู่บ้านทำให้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากกลิ่นเหม็นจากการเผาขยะของโรงงานดังกล่าว พร้อมถือป้ายต่อต้ายการเผาขยะอันตรายและข้อความโจมตีพร้อมยืนยันจะยืนหยัดต่อสู้จนถึงที่สุดเพื่อไม่ให้มีโรงงานเผาขยะอันตรายเกิดขึ้นในหมู่บ้านที่ทำให้เด็กได้รับผลกระทบจากควันดำจากการเผาขยะเกิดอาการติดเชื้อทางโรคผิวหนัง มีอาการผื่นคันตามลำตัว หายใจลำบาก ไอ และเป็นโรคหอบหืด ส่วนคนชราไม่สามารถทนกลิ่นเหม็นได้เกิดอาการทานอาหารไม่ลง นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย จึงวิงวอนผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่รับผิดชอบลงมาดูแลและช่วยเหลืออย่างเร่งด้วน
ด้านนางมารียะห์ อาแว ตัวแทนชาวบ้านบ้านใหม่ ม.5 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบโดยตรงมานานเกือบ 3 ปี โดยเฉพาะทางด้านระบบการหายใจ ผิวหนัง โรคหิดคันตามร่างกาย ด้านสมองแทบจะทุกส่วนของร่างกาย นอนไม่หลับหายใจติดขัด ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุ 2 ขวบ และเด็กอ่อนกระทบหนัก เนื่องจากมีภูมิต้านทานน้อยกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งสาเหตุมาจากควันที่มีการเผาขยะอันตรายใกล้หมู่บ้าน และชาวบ้านไม่ต้องการให้มีโรงงานเผาขยะในละแวกหมู่บ้านอย่างเด็ดขาด โดยในบางครั้งทางโรงงานเผาขยะอันตรายยังแอบมีการเผาในช่วงเวลากลางคืนอีกด้วย และพร้อมที่จะต่อสู้ไม่ถอยพร้อมทั้งให้ชาวบ้านทั้งหมดมาลงชื่อเพื่อคัดค้านในเรื่องเรื่องพร้อมเตรียมส่งไปยังศูนย์ดำรงธรรม และจังหวัดนราธิวาส เพื่อคัดค้าน จึงวิงวอนสื่อช่วยประชาสัมพันธ์ให้ถึงผู้ใหญ่ ช่วยลงมาช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน เนื่องจากได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ด้านนายอัสมีรี แวเด็ง นายกเทศมนตรีตำบลกะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ได้กล่าวถึงแนวทางในการแก้ปัญหาต่อชาวบ้านที่มาพบในวันนี้จนชาวบ้านเข้าใจและพอใจในแนวทางการแก้ปัญหาของเทศบาล พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า วันนี้เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งในฐานะตนเป็นตัวแทนของชาวบ้านและเกี่ยวข้องกับวิธีชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะบ้านใหม่ที่ประสบปัญหาจากการเผาขยะ ซึ่งมีผู้ประกอบการได้มาก่อสร้างโรงงานเกี่ยวกับการกำจัดขยะติดเชื้อในพื้นที่ โดยเมื่อ 10 ปีเศษที่ผ่านมาโรงงานดังกล่าวได้เกิดขึ้น เมื่อครั้งสมัยเทศบาลตำบลกะลุวอเหนือ ยังเป็น อบต.เล็กๆและไม่มีอำนาจหน้าที่ในการออกกฎหมายควบคุม ทำได้เพียงตรวจสอบคอยเป็นหูเป็นตา แต่ ณ ปัจจุบันนั้น ได้ยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลและมีอำนาจหน้าที่ดูแลโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านขยะมูลฝอยที่เป็นพาหนำโรคและทำลายสุขภาพของประชาชน และเมื่อมีปัญหาการร้องเรียนเกิดขึ้น จึงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลทำให้เทศบาลจำเป็นต้องมีกฎหมายจัดการพร้อมเชิญสมาชิกเทศบาลและผู้เกี่ยวข้องมาพูดคุยเพื่อตราเทศบรรญัตในการบังคับใช้ดูแลสุขภาพของประชาชน โดยตั้งคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง พร้อมสั่งระงับสั่งให้ทางโรงงานเผาขยะอันตรายดังกล่าวหยุดกิจการดังกล่าว เมื่อ 1 ปี เศษที่ผ่านมา พร้อมแนะให้ทำการปรับปรุงโรงงานให้ถูกต้องตามกฏหมายและได้มาตรฐาน ซึ้งทางโรงงานก็พยายามปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์
“แต่ ณ วันนี้ทุกคนต้องมีส่วนร่วมระหว่างผู้ประกอบการและประชาชน ในเมื่อผู้ประกอบการยังอยากทำเนินการต่อก็ต้องไปปรับปรุงเตาเผาตามหลักมาตรฐานตามกฏหมายให้ดำเนินการ แต่การเซ็นต์อนุมัติให้ดำเนินการได้หรือไม่นั้น ทางเทศบาลต้องฟังเสียงประชาชนเป็นหลักว่า ประชาชนต้องการสิ่งนี้หรือไม่อย่างไร ต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบถึงผลกระทบ ข้อดี ข้อเสียแต่ ณ วันนี้ ประชาชนในพื้นที่ได้มาแสดงความจำนงแล้วว่า ไม่อยากให้เกิดขึ้น ไม่อยากให้มี และไม่อยากให้เทศบาลอนุญาตให้เกิดโรงงานเผาขยะอันตรายตั้งอยู่ใกล้หมู่บ้าน ซึ่งตนเองก็ยังไม่อนุญาตให้เกิดขึ้น แต่ถ้าทางโรงงานทำถูกต้องตามกฎหมาย ทางเทศบาลก็ต้องเรียนประชาชนมาพูดคุยและชี้แจงให้รับฟังและแสดงความคิดเห็น และถึงจะมีมติได้ว่า จะเอาอย่างไร เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย แต่ถ้าโรงงานยังเพิกเฉย ชาวบ้านต้องเป็นหูสอดส่องดูแลไม่ให้มีการแอบเผานอกเวลาและกระทบชาวบ้านอีก เพื่อเป็นมาตรฐานในการดำเนินการในขั้นต่อไปในอนาคต”
ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ