วันอาทิตย์, 24 พฤศจิกายน 2567

ตร.ปราบปรามยาเสพติดจับเครือข่ายยาบ้า 328,000 เม็ด ไอซ์ 11 กก.

ตำรวจปราบปรามยาเสพติดสกัดจับกุมเครือข่ายค้ายาบ้า พร้อมยึดของกลาง ยาบ้า 328,000 เม็ด ไอซ์ 11 กิโลกรัม ก่อนที่ผู้ต้องหาจะชักปืนยิงสู้กับเจ้าหน้าทีแต่สุดท้ายไม่รอดถูกจับกุมตัวไว้ได้ 1 คน

เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 5 ส.ค.60 พ.ต.อ.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผกก.2 บก.ปส.3 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้ร่วมกันทำการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 1 คน นาย เอ (นามสมมุติ)อายุ 17 ปีพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 164 มัดรวมประมาณ 328,000 เม็ดยาไอซ์จำนวน 11 ก้อนน้ำหนักประมาณ 11 กิโลกรัมรถยนต์กระบะอีซูซุ สีบอร์น ทะเบียน กน 7002 เชียงรายจำนวน 1 คันรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน 1กด 2339 เชียงใหม่ โทรศัพท์มือถือจำนวน 2 เครื่อง

พ.ต.อ.อิทธิพล กล่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนรับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดผ่านเข้ามาในพื้นที่โดยใช้รถยนต์กระบะอีซูซุ สีบอร์น ทะเบียน กน 7002 เชียงรายเป็นพาหนะในการลำเลียงและจะใช้ถนนสายเวียงป่าเป้า-พร้าว ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 73 อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นถนนที่การจราจรไม่พลุกพล่านและไม่ใช้ถนนสายหลักระหว่างจังหวัดเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของด่านตรวจต่างๆ

จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืยสวนวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ที่บริเวณดังกล่าว ก่อนจะพบนาย เอ ขับขี่รถจักรยานยนต์ และมีรถกระบะขับตามหลังมาซึ่งตรงกับที่ได้รับแจ้งจากสายลัง จึงส่งสัญญาณให้จอดเพื่อหยุดตรวจค้นแต่ปรากฏว่าเมื่อถึงจุดที่เจ้าหน้าที่ให้สัญญาณรถทั้ง 2 คัน พยามเร่งเครื่องขับหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงออกไล่ติดตาม ผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนีได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหลบหนีมาตามถนน เวียงป่าเป้า-พร้าว (ถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 1150) ระหว่างหลัก กม.ที่ 73-74 หมู่ 5 ต.บ้านโป่ง อ.เวียงป่าเป้า จว.เชียงราย สุดท้ายเจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับรถทั้ง 2 คันเอาไว้ได้ข้างทาง พร้อมจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ 1 คนส่วนอีกคนที่ใช้ปืนยิงต่อสู้อาศัยความมืดหลบหนีเข้าไปในป่า

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่บริเวณกระบะหลังรถพบของกลางยาเสพติดจำนวนมากจึงได้ทำการตรวจยึดไว้ทั้งหมด

โดยกล่าวหาผู้ต้องหาว่า “ร่วมกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1( ยาบ้าและไอซ์ )ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”และกล่าวหาผู้ต้องหาที่หลบหนีเพิ่มเติมว่า “ต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าได้ปฏิบัติการตามหน้าที่,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรและโดยไม่ได้รับอนุญาต”

นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวียงป่าเป้า ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Loading