นครปฐม. เกษตรกรทำนาเดือดร้อนหนักน้ำทำการเกษตรไม่ได้. นำ้เน่าเสียและเหม็นทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเสียหายปลูกข้าวก็ยืนต้นตายเป็นบริเวณกว้าง ลำคลองเต็มไปด้วยผักตบชวาและต้นหญ้าหลายพันตัน
เมื่อวันที่ 13 สค.2560 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หลังทราบข่าวว่า เกษตรกรเดือดร้อนนำ้เน่าเสีย มีกลิ่นเหม็น ซึ่งนำ้ในคลองต้องใช้ในด้านเกษตรและ อุปโภค-บริโภค เกิดกลิ่นเหม็นเน่า เป็นบริเวณกว้างเกษตรกรปลูกข้าวไม่ได้ซึ่งคลองมีความยาวของกว่า 4 กิโลเมตร จนถึงประตูนำ้คลองท่าสาร
จึงเไปพบเกษตร นายสุนทร สิมาเลาเต่า อายุ 61 ปี. บ้านเลขที่ 133 ม.8 ต.ลำเหย อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนเองประกอบอาชีพทนาในพื้นที่ ม.2 และ ม.4 จำนวนกว่า 20 ไร่ ได้รับความเดือดร้อนเรื่องน้ำเน่าและเหม็นมากและก็ไม่สามารถนำน้ำไปทำการเกษตรได้ ดูดนำ้ไปปลูกข้าว ต้นขาวก็ตาย เวลาวานข้าวข้าวก็ตายตนเองจึงต้องปล่อยให้ทีนารกร้างขึ้นแต่หญ้า-ผักตบชวา หลังจากที่มีการทำบ่อกุ้งข้างเคียง ประมาณ 100 กว่าไร่ ได้ทำการเลี้ยงกุ้ง ซึ่งในพื้นที่ ม.2-ม.4 และหมู่ที่10 ประชาชนที่ทำเกษตร-ทำนา-เลี้ยงปลา -กว่า 500 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจสาเหตุจากน้ำเน่าเสียว่าสาเหตุมาจากจุดไหนบ้างเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกร ทำมาหากินกันลำบาก
นายสุนทร ยังกล่าวอีกว่าตั้งแต่มีการทำบ่อกุ้งประมาณ 100 กว่าไร่ ตนเองทำนาไม่ได้มาหลายปีแล้ว จึงได้ปล่อยให้ที่นารกร้าง เกษตรกรที่มีที่ดินอยู่ด้านในก็ทำนาไม่ได้เช่นกัน จึงวอนให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ช่วยลงมาสำรวจพื้นที่นำ้เน่าเหม็น ในลำคลองก็เต็มไปด้วยผักตบชวา ต้นหญ้า ซึ่งได้สั่งเกตุว่าช่วงเวลาฝนตกลงมานำ้จะมาขังอยู่ ในพื้นที่ ม.2 นำ้ไม่ใหลไปพื้นที่ ม.10 ซึ่งเป็นคลองเส้นเดียวกัน จึงไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร นายสุนทรยังยำ้ต่ออีกว่า ตั้งแต่มีการเลี้ยงกุ้ง 100 กว่าไร่เกษตรกรทำนากันไม่ได้เลย ซึ่งได้รับผลกระทบกับเกษตรกรเป็นบริเวณกว้างและเกษตรกรเดือดร้อนกันมาก หว่านข้าว ข้าวก็ไม่โต ถ้าโตได้นิดต้นข้าวก็ยืนต้นตาย แต่หญ้าจะขึ้นแทนต้นข้าวเป็นต้น
และก็มีเกษตรกรอีกรายนายละออง ฉิมวงษ์ อายุ 69 ปี บ้านเลขที่ 58 ม.2 ต.ลำเหย อ.ดอนตูม จ.นครปฐม เป็นเกษตรกรทำสวนมะม่วง มะพร้าว กล้วย และเลี้ยงปลาในร่องสวนบนเนื้อที่ 5ไร่ 2งาน ก็ได้รับความเดือดร้อนเรื่อง น้ำมีกินเหม็นเน่าเสียถ้าใครขับรถผ่านถนนเรียบคลองเส้นนี้ก็จะได้กลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง ก็ได้รับความเดือดร้อนมากเช่นกันนำนำ้ไปรดพืชผักก็ไม่ได้
พร้อมด้วยนายบุญนาค แสงบุรี อายุ 68 ปี บ้านเลขที่8/2 ม.4 ต.ลำเหย อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ก็ประกอบอาชีพเลี้ยงปลา3ไร่ กว่าก็ได้รับปัญหาความเดือดร้อนเรื่องน้ำเน่ามีกลิ่นเหม็นตนเองก็ไม่สามารถดูดน้ำมาที่บ่อปลาได้ซึ่งที่ดินก็อยู่ติดกับบ่อเลี้ยงกุ้งบนเนื้อที่ 100 กว่าไร่ที่ประกอบกิจการเลี้ยงกุ้งมากกว่า4-5ปี ก็จะมีปัญหาเรื่องน้ำมาตลอดในคลองดิน
ตั้งแต่จุดที่มีกลิ่นนำ้เหม็นเน่าจนไปถึงประตูน้ำคลองท่าสาร ความยาวกว่า 4 กิโลเมตรเป็นเขตติดต่อระหว่างเขต ม.10 ต.ลำเหย กับพื้นที่ ม.1 ต.วังน้ำเขียว อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ตลอดเส้นมีผักตบชวาหญ้าขึ้นเต็มคลองส่งน้ำ
ทางด้านนายสมพงษ์. เชียงวรรณา อายุ52ปี บ้านเลขที่126 ม.10 ต.ลำเหย อ.ดอนตูม จ.นครปฐม มีอาชีพทำนา บนเนื้อที่ 15 ไร่ ได้รับผลกระทบจากนำ้เน่าเสียที่มีกลิ่นเหม็น ผักตบชวาแน่นเต็มลำคลอง การทำนาก็ไม่ได้ผลผลิตเท่าที่ควร ซึ่งได้รับความเดือดร้อนกันมากสำหรับเกษตรกร วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงมาช่วยเหลือเกษตรกร และช่วยลอกผักตบชวาออกในคูคลองจำนวนกว่าหลายพันตัน ซึ่งมีเกษตรกร ม.10 ม.2และ ม.4 ได้รับผลกระทบและเดือดร้อน แต่เกษตรกร ม.10 จะหนักสุดเพราะเป็นพื้นที่รับนำ้จากหมู่อื่นๆเพื่อที่จะใหลลงคลองท่าสาร จะเปรียบเทียบกันระหว่างนำ้คลองท่าสารจะมีสายนำ้ที่ใส่มากมองดูแล้วสบายตา เปรียบเสมือนนำ้ 2 สีก็ว่าได้ แต่นำ้ในคลองดินที่เต็มไปด้วยผักตบชวาและหญ้าจำนวนหลายพันตัน กับมีสีดำและมีกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรงอีกด้วย