วันนี้ (6 ก.ย.60) เวลาประมาณ 15.00-15.30 น. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1
ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 (สส) พร้อมด้วย พ.ต.อ.จีรเดชน์ เหมจินดา รอง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.พีรพล โชติเสถียร ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี พ.ต.อ.สรัลพัฒน์ ยศสมบัติ
ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหา
“แก๊งโจรกรรมรถจักรยานยนต์ พื้นที่ ภ.จว.ปทุมธานี” จำนวน 2 รายการ ประกอบด้วย
รายการที่ 1 ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว
1.นายภานุพงษ์หรือเป้ บุญช่วย อายุ 35 ปี
2.นายสุธนหรือป๋อง ขุนพิลึก อายุ 32 ปี
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ หรือรับของโจร และร่วมกันปลอมแปลงเอกสารฯ”
พร้อมด้วยของกลาง
1. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ไอ สีดำแดง ทะเบียน 3กศ-6190 กทม. (รถที่ใช้ในการกระทำความผิด)
2.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ไอ สีน้ำเงินดำ (รถของผู้เสียหาย) ซึ่งถูกใช้อุปกรณ์ช่างเปลี่ยนแปลง แก้ไขเลขตัวรถใหม่
3. เหล็กทรงหกเหลี่ยม/สี่เหลี่ยม,แผ่นเหล็กและแท่งเหล็กสำหรับรองตอกเลขตัวรถ,ค้อนหัวทองเหลืองสำหรับตอกเลขตัวถังรถ
4.หมวกกันน็อคแบบครึ่งใบสีดำ มีลายโลโก้ฮอนด้าทั้งสองข้าง
5.เสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาสวมใส่ขณะไปก่อเหตุ
6.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ125 ไม่ติดป้ายทะเบียน ซึ่งถูกเปลี่ยนแปลงเลขตัวรถ
7.ป้ายทะเบียน 6กอ-1400 กทม.
8.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน
9.อุปกรณ์เปลี่ยนสภาพรถจักรยานยนต์ จำนวนหลายรายการ
พฤติการณ์กล่าวคือ
ก่อนเกิดเหตุ สภ.เมืองปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลักรถจักรยานยนต์ที่ห้างเทสโก้โลตัส สาขาปทุมธานี จำนวน 2 คัน จึงได้ดาเนินการสืบสวน จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบว่าทั้งสองเหตุดังกล่าว คนร้ายเป็นชาย จำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ สีดาแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เป็นพาหนะ ได้ใช้อุปกรณ์แทงเบ้ากุญแจรถ ติดเครื่องรถแล้วขับขี่หลบหนีไป จึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว จนกระทั่งพบรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นยานพาหนะที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุจอดอยู่ และพบกลุ่มคนร้าย(ทราบภายหลัง) จำนวน 3 คน นั่งอยู่บริเวณดังกล่าว เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจได้แสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจสอบ หนึ่งในผู้ต้องหาได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าทันที ต่อมาจึงได้สอบถามนายภานุพงษ์ฯ และนายสุธนฯ ยอมรับว่า เป็นผู้ลักรถจักรยานยนต์ดังกล่าวจริง โดยร่วมกับพวกอีก จำนวน 2 คน (หลบหนี) ทำการประทุษร้าย จากนั้นจะใช้อุปกรณ์ช่างได้แก่สิ่วและมอเตอร์หินเจียรทำลาย ตัวอักษรเลขเครื่องและเลขตัวรถจักรยานยนต์ที่ลักมา แล้วตอกตัวอักษรเลขเครื่องและเลขตัวรถใหม่ โดยทำตัวอักษรเลข เครื่องและเลขตัวรถใหม่ให้ตรงกับเลขเครื่องและเลขตัวรถจักรยานยนต์ที่ถูกบริษัทเงินทุนยึดขายทอดตลาด ซึ่งได้ประมูลซื้อมา แล้วจึงนำรถส่งขายให้กับลูกค้าตามแนวชายแดน อำเภอแม่สอด แล้วนำเงินที่ได้มาแบ่งกันในกลุ่ม
หลังเกิดเหตุจึงได้ทำการตรวจสอบขยายผล ร่วมกันทาการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ แผ่นป้ายทะ เบียน และสมุดใบคู่มือจดทะเบียนรถ อีกจำนวน หลายรายการ จากนั้นจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหานำส่ง พงส.สภ.เมืองปทุมธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยผู้ร่วมก่อเหตุอีก 2 คน ที่ยังหลบหนีไป จะได้ทำการขออนุมัติหมายจับต่อศาล และติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายการที่ 2
ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว
นายฐนิพลหรือแพน ปานจะอา อายุ 18 ปี
โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะหรือรับของโจร”
พร้อมด้วยของกลาง
1.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 125 สีน้ำเงิน ทะเบียน ปงฉ – 498 กทม.
2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ คาวาซากิ สีเขียว ทะเบียน ขฉน – 857 ขอนแก่น
3.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นดรีม สีแดง ทะเบียน 5กศ – 7296 กทม.
พฤติการณ์กล่าวคือ
ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ สภ.ปากคลองรังสิต ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลักทรัพย์ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ-125 สีน้ำเงิน ทะเบียน ปงฉ – 498 กทม. และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อคาวาซากิ สีเขียว ทะเบียน ขฉน-857 ขอนแก่น จึงได้ทำการสืบสวน พบว่า มีผู้ลงประกาศขายรถจักรยานยนต์ดังกล่าวในเพจขายดีดอทคอม เจ้าหน้าที่ตารวจชุดจับกุมจึงได้ให้สายลับ ( ขอปิดนาม ) ติดต่อซื้อ- ขาย รถจักรยานยนต์ คันดังกล่าวในราคา 25,000 บาท โดยนัดซื้อ-ขาย และให้นำรถคันดังกล่าวมาส่งมอบให้ตามจุดนัดหมายที่ได้วางแผนไว้ ต่อมาเมื่อถึงเวลานัดหมายได้มี นายฐนิพลหรือแพนฯ ผู้ต้องหา ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเข้ามา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพลง่าเป็นรถคันที่ถูกประทุษร้ายจริง สอบถามนายฐนิพลฯ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลักรถจักรยานยนต์ ทั้ง 2 คัน ดังกล่าวจริง จากนั้นจึงได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ไปทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์อีกจำนวน 3 คัน
เพื่อตรวจสอบ ต่อมาจึงได้ทำการจับกุมตัวนำส่งพงส.สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อดาเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
การปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังสืบสวนตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” อย่างไม่ย่อท้อ จนสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาต่อมา คดีดังกล่าวนี้ถือเป็นคดีที่กระทบกระเทือนต่อความสงบสุขของผู้คนในสังคม ผู้ต้องหาเป็นกลุ่มแก๊งโจรกรรมรถ ที่ตระเวณออกก่อความเดือดร้อนรำคาญ และมุ่งประทุษร้ายต่อทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยมีพฤติการณ์ในการนำไปจำหน่ายอย่างแยบยล ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย การปฏิบัติในครั้งนี้จึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง
ในนามของตำรวจภูธรภาค1 จึงขอชมเชยและขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป
ณ สภ.เมืองปทุมธานี อ.เมือง จ.ปทุมธานี