วันที่ 14 ก.ย.60 พล.ต.ต.ดุษฎี ชูสังกิจ ผบก.ปส.4 พ.ต.อ.วัชระ ทิพย์มงคล รอง ผบก.ปส.4, พ.ต.อ.อานันทพงศ์ เชิดเกียรติกุล รอง ผบก.ปส.4 พ.ต.อ.ยุทธนา พฤกษารุ่งเรือง ผกก.1 บก.ปส.4 พ.อ.ประดิยุทธ กลิ่นศรีสุข ผอ.ศรภ.กอง 12 พ.ต.ท.พิชัย ธนาอัศวพันธ์ รอง ผกก.1 บก.ปส.4 พ.ต.ท.ธิติสรรค์ อุทธนผล รอง ผกก.1 บก.ปส.4 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.1 บก.ปส.4 บช.ปส.สนธิกำลังร่วมกับศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทยได้
ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 3 คน Name KHAMVIENE Surname SONEXAY(เพศหญิง)อายุ 40 ปี(สัญชาติลาว)หนังสือเดินทาง สปป.ลาว เลขที่ PA 0061799 นายชัยพร หรือชัย นักขัต อายุ 51 ปีอยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 1 ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน จว.ชุมพร นายอนุสรณ์ หรือหน่อย ตั้งวันงาน อายุ 56 ปีอยู่บ้านเลขที่ 11/1 ซอยเดชะตุงคะ 4 ถนนเดชะตุงคะ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานครพร้อมด้วยของกลางยาไอซ์จำนวน 2 ก้อนรวมน้ำหนักประมาณ 2,178.3 กรัมโทรศัพท์มือถือจำนวน 6 เครื่อง รถยนต์เก๋งแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า สีแดง–ส้มหมายเลขทะเบียน ทย-8554 กรุงเทพมหานคร
พ.ต.ท.ธิติสรรค์ กล่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มเครือข่ายนายแจ็ค กับพวกมีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด(ไอซ์) จึงได้ให้สายลับพยายามติดต่อล่อซื้อเรื่อยมาจนกระทั่งสายลับแจ้งว่าตนได้ติดต่อกับนายสำฤทธิ์หรือจุ่นและนายชัยพรหรือชัยซึ่งสายลับได้ติดต่อกับนายสำฤทธิ์แจ้งว่า จะขายไอซ์ให้จำนวน 2 กิโลกรัมในราคากิโลกรัมละ 650,000 บาท(รวมเป็นเงินจำนวน 1,300,000 บาท)และได้นัดหมายให้สายลับมาพบที่บริเวณลานจอดรถ ห้างสรรพสินค้าโรบินสันสาขาศรีสมาน ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ร่วมกันวางแผนจับกุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร กอง 12 ศรภ.แบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกเป็น 2 ชุดโดยเจ้าหน้าที่อำพรางตัวไปกับสายลับนำเงินไปให้นายสำฤทธิ์และนายชัยพรดูที่ห้างสรรพสินค้าและเจ้าหน้าที่อำพรางตัวเป็นลูกน้องของสายลับเพื่อรับไอซ์ เมื่อถึงเวลานัดหมายสายลับได้โทรศัพท์หานายชัยพรแจ้งว่ามารออยู่แล้วต่อมานายชัยพรนายอนุสรณ์และหญิงชาวลาว Name KHAMVIENE Surname SONEXAY ได้เดินมาหาสายลับเพื่อไปดูเงินแล้วทั้งหมดได้นั่งรถยนต์แท็กซี่ โตโยต้าสีแดง – ส้ม หมายเลขทะเบียน ทย-8554 กรุงเทพมหานครขับวนเวียนอยู่บริเวณลานจอดรถของห้างและขับไปจอดอยู่บริเวณริมถนนหน้าห้างโดยมี Name KHAMVIENE Surname SONEXAY เดินลงมาจากรถแล้วไปนั่งคอยอยู่ใกล้รถยนต์ของสายลับส่วนนายชัยพรได้ลงจากรถยนต์ยืนอยู่บริเวณใกล้เคียงรถยนต์แท็กซี่ส่วนนายอนุสรณ์นั่งอยู่ภายในรถฝั่งคนขับต่อมา นายสำฤทธิ์อแจ้งว่าให้ไปรับยาไอซ์ที่บริเวณที่ทิ้งขยะข้างสโมสรสวัสดิการทหารอากาศ ถนนเดชะตุงคะแขวงสีกันเขตดอนเมือง จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไปยังจุดที่รับแจ้งพบของกลางดังกล่าววางอยู่จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางไว้
จากนั้นได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าแสดงตัวทำการจับกุมตัว Name KHAMVIENE Surname SONEXAY ส่วนนายชัยพรและนายอนุสรณ์ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารจึงได้วิ่งไปเปิดประตูขึ้นรถที่นายอนุสรณ์ ติดเครื่องรออยู่ขับหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็วแต่เจ้าหน้าที่ได้ขับติดตามไปจนพบรถยนต์เก๋งแท็กซี่คันดังกล่าวได้ไปจอดที่บริเวณริมถนนทางด่วนสายบางปะอิน – ปากเกร็ด ต.สวนพริกไทยอ.เมือง จว.ปทุมธานี นายชัยพรและนายอนุสรณ์ ได้เปิดประตูวิ่งลงจากรถเพื่อหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้วิ่งติดตามจับกุมระหว่างหลบหนีนายชัยพรและนายอนุสรณ์ ได้ปืนข้ามรั้วลวดหนามและได้หกล้มลงทำให้นายชัยพรมีบาดแผลบริเวณศีรษะส่วนนายอนุสรณ์มีบาดแผลบริเวณริมฝีปาก เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการจับกุมไว้ได้ทั้ง 3 คน
จากนั้นได้นำตัวนายชัยพร นายอนุสรณ์และName KHAMVIENE ไปขยายผลตรวจค้นที่บ้านพักของ นายสำฤทธิ์ขณะที่เจ้าหน้าที่จึงได้ให้นำพาไปตรวจสอบที่พักอาศัยดังกล่าวเมื่อไปถึงบริเวณบ้านของนายสำฤทธิ์หรือจุ่น นายอนุสรณ์ได้เกิดอาการช็อกญาติของนายอนุสรณ์แจ้งว่านายอนุสรณ์มีโรคประจำตัวหลายโรคและมีประวัติเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นประจำประกอบกับร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงด้วยจึงได้รีบประสานเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช เพื่อนำตัวไปปฐมพยาบาลเบื้องต้นและต่อมาทางแพทย์ได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ทราบว่าต้องขอเอาตัวไว้ทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลไว้ก่อนและแพทย์ไม่อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล
จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเพื่อเฝ้าดูแลนายอนุสรณ์พร้อมกับแจ้งให้ญาติทราบ
จากการตรวจสอบที่บ้านพักของนายสำฤทธิ์ไม่พบตัวแต่อย่างใดสอบถามบ้านข้างเคียงว่าเห็นนายสำฤทธิ์ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากบ้านเมื่อสักครู่นี้อย่างเร่งรีบก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาถึง
พ.ต.ท.ธิติสรรค์ กล่าวเพื่มเติมว่าจากการสอบสวน นายชัยพรให้การรับสารภาพว่าตนได้รับการติดต่อจากนายสำฤทธิ์หรือจุ่นให้จัดหาไอซ์จำนวน 2 กิโลกรัม ตนเองจึงได้ติดต่อไปยัง Name KHAMVIENE ให้ติดต่อนายหน่อย(ชาวลาว)ที่อยู่ทางฝั่งประเทศลาวจัดหาไอซ์ให้จากนั้นก็ได้นำไอซ์ผ่านเข้ามาทางเรือโดยสารมาขึ้นฝั่งทาง จว.นครพนมและโดยสารรถทัวร์มาและนำยาไอซ์มาให้นายสำฤทธิ์เป็นผู้นำไปวางไว้ที่ทิ้งขยะข้างสโมสรสวัสดิการทหารอากาศ ถ.เดชะตุงคะแขวงสีกัน เขตดอนเมืองส่วนตนกับนายอนุสรณ์และ Name KHAMVIENEฯ ได้ไปอยู่รอรับเงินค่ายาไอซ์ที่ห้างพร้อมกับดูต้นทางจนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน.กลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สินบก.ปส.4 บช.ปส.เพื่อสอบสวนขยายผลออกหมายจับนายสำฤทธิ์ผู้ร่วมขบวนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป