วันเสาร์, 16 พฤศจิกายน 2567

นครนายก โจรอุกอาจบุกปล้น

นครนายก-โจรอุกอาจบุกปล้นทรัพย์เจ้าของบ้านแล้วยิงทิ้งหมายปิดปากแต่อาการสาหัส


โจรอุกอาจบุกชิงทรัพย์เจ้าของบ้านกลางวันแสกๆได้ทรัพย์สินไปแถมยิงทิ้ง กระสุนฝังในอาการสาหัส
ที่นครนายก อาสากู้ภัยสว่างอริยะธรรมสถานนครนายก ได้เร่งนำตัวผู้ที่ถูกยิงอาการสาหัสส่งโรงพยาบาลนครนายกอย่างเร่งด่วน สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครนายก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเหตุปล้นทรัพย์แล้วมีคนถูกยิงอาการสาหัสนอนร้องขอความช่วยเหลืออยู่ที่บ้านพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยจึงรีบไปในที่เกิดเหตุและรีบนำตัวชายคนดังกล่าวส่งโรงพยาบาลนครนายกโดยด่วนเนื่องจากมีอาการสาหัส โดยบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้าน2ชั้นยกสูงพบหยดเลือดที่ไหลลงมาจากบนบ้านและร่องรอยการต่อสู้ ต่อมาทราบชื่อคนที่ถูกยิงนายวิบูลย์ มากมี อายุ70 ปี อยู่บ้านเลขที่7 หมู่ที่5 ตำบลท่าทราย อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก โดยทางด้านพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.บริเวณลานหน้าบ้าน จำนวน4ปลอกจึงเก็บไว้เป็นหลักฐานนอกจากนี้ยังพบรูกระสุนที่ตัวบ้านอีก2รู หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบถามกับชาวบ้านในระแวกใกล้เคียงที่ได้ยินเสียงปืน โดยชาวบ้านที่ได้ยินเสียงปืนและเสียงร้องขอความช่วยเหลือเล่าว่า ตนเองนั้นนั่งอยู่ที่บ้านพักของตนจู่ๆก็ได้ยินเสียงดังคล้ายปืนขึ้นมา1นัดจากนั้นประมาณ2-3วินาทีก็ได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกันอีก4นัดหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากบ้านหลังดังกล่าว แต่ตนก็ยังไม่กล้าเข้าไปเห็นเพียงแต่มีผู้ชายรูปร่างสูง สวมเสื้อแจ๊คเก็ตแขนยาวสีดำ ขับรถจักรยานยนต์ยี่ฮ้อฮอนด้าเวฟสีแดงดำ ไม่ทราบทะเบียนไม่สวมหมวกกันน๊อคขับออกมาจากบ้านหลังที่เกิดเหตุอย่างไม่รีบร้อนแล้วขับมุ่งหน้าไปทางตำบลท่าช้าง หลังจากนั้นจึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รีบเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ โดยหลังจากที่เข้าตรวจสอบและสอบถามทางญาติของผู้ที่ถูกยิงบอกว่าหลังจากเกิดเหตุสร้อยคอทองคำหนักประมาณ10บาทได้หายไป ส่วนเงินที่จะไปทำบุญงานกฐินนั้นได้หายไปด้วยหรือเปล่ายังไม่รู้เพราะในวันพรุ่งนี้คนที่ถูกยิงเป็นประธานทอดกฐินที่วัดใกล้บ้านอีกด้วย ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามผู้ก่อเหตุจากกล้องวงจรปิดตามแยกต่างๆซึ่งคาดว่าในการลงมือปล้นในครั้งนี้น่าจะเป็นคนที่รู้จักกับคนที่ถูกยิงและรู้ความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาและรู้ว่าคนถูกยิงอยู่บ้านเพียงลำพังจึงน่าจะมีการวางแผนเข้ามาปล้นทรัพย์และหมายยิงให้ตายอย่างโหดเหี้ยมเพราะเกรงจะจำหน้าได้ ล่าสุดอาการยังคงสาหัสอยู่เนื่องจากการสุนฝังในทั้ง4นัดโดยเข้าที่คอด้านซ้ายทะลุปอดและที่ลำตัวกับแขน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งออกติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุดเพราะเป็นเหตุสะเทือนขวัญกับชาวบ้าน

สัมภาษณ์ชาวบ้านที่ได้ยินเสียงปืน

ภาพ/สมบัติ       เนินใหม่
ข่าว/รัชชานนท์ เนินใหม่
นายพรเทพ เขม้นเขตวิทย์
รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก
นาย วิวรรธน์ แพ่งสุภา ผู้อำนวยการ

Loading