ตำรวจ สภ.รือเสาะ สนธิกำลังกับชุดปราบยาเสพติด ตำรวจภูธร จ.นราธิวาส บุกค้นบ้านยึดอาวุธสงคราม และยาเสพติดพร้อมผู้ต้องหา
จากการสืบทราบข้อมูลและขยายผลจากเจ้าหน้าที่ขุดศูนย์ปราบปรามยาเสพติดกอง 12 ตำรวจภูธร จ.นราธิวาส
พบว่าที่บ้านเลขที่ 202 ม.9 บ้านเจาะกือแยง ต.สามัคคี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นบ้านพักของเครือข่ายค้ายาเสพติดในพื้นที่มีการนำยาเสพติดมาพักไว้ที่บ้านหลังดังกล่าวพร้อมมีอาวุธปืนสงครามซุกซ่อนไว้ จึงประสานมายัง พ.ต.อ.จรัส เส็มสัน ผกก.สภ.รือเสาะ เพื่อขอสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปทำการปิดล้อมและตรวจค้น จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ หน่อแดง สารวัตรสืบสวน – สอบสวน สภ.รือเสาะ จัดกำลังเจ้าหน้าที่สนธิกำลังกับชุดศูนย์ปราบปรามยาเสพติด กอง 12 ตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เดินทางเข้าไปปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายตั้งแต่เช้าตรู่ เจ้าหน้าที่พบตัวนาย อารีเพ็ญ ซีระ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 202 ม.2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของภรรยา โดยมีอาการสั่นอย่างมีพิรุต เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังทำการปิดล้อมบ้านและเข้าขอตรวจค้นภายในบ้านพัก พบอาวุธปืนพบสั่น ขนาด 9 มม.ยี่ห้อบาเร็ตต้า อยู่กับตัว จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง ยาเสพติดชนิดยาบ้า สีส้ม บรรจุไว้ในถุงสีนำเงิน จำนวน 5 ถุง จำนวน 1,090 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในถังขยะสีส้มขนาดกว้าง 1 ฟุต ยาว 2 ฟุต ซ่อนอยู่ภายในครัว พร้อมกับมีอาวุธปืนสงคราม M.16 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุน 14 นัด แม็กกาซีนชนิดสั้น 1 อัน อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก และอาวุธปืนลูกกรดยาวอีก 1 กระบอก รวม 4 กระบอก เงินสดอีกจำนวนหนึ่ง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบีชิ สีบรอนทอง ทะเบียน บท 2592 ปัตตานี 1 คัน รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น ฟีโน่ สีดำ ทะเบียน 1 กฉ 4966 นราธิวาส จึงรวบรวมยึดของกลางไว้เพื่อตรวจสอบที่มาของอาวุธปืนทั้ง 4 กระบอก ดังกล่าว พร้อมนำตัวนายอารีเพ็ญ และของกลางทั้งหมดมอบให้กับ ร.ต.อ.อุทัย พันทอง ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านเจ้าหน้าที่ชุดศูนย์ปราบปรามยาเสพติด กอง 12 ตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า การจับกุมตัวนายอารีเพ็ญ ในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลสำคัญจากผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวมาเมื่อหลายเดือนก่อนให้ขอมูลและซัดทอดว่า นายอารีเพ็ญ ผู้ต้องหาร่วมกับพวกอีกหลายคนมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดในพื้นที่ และยังครอบครองอาวุธปืนสงครามและอื่นๆอีกหลายกระบอกพร้อมมีพฤติกรรมที่อาศัยอยู่ไม่เป็นที่เป็นทางไม่เป็นหลักแหล่ง ซึ่งหลังจากสืบทราบจนแน่ชัดแล้วว่านายอารีเพ็ญ ได้แอบวกกลับมาอยู่ในบ้านพักหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงสนธิกำลังเข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นและจับกุมตัวมาได้ดังกล่าว โดยจะต้องนำอาวุธปืนสงคราม M.16 อาวุธปืนลูกซอง และอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ที่ยึดมาได้ไปตรวจสอบทิศทางปืนเพื่อเก็บเป็นหลักฐานไปเปรียบเทียบกับแฟ้มอาชญากรรมผู้ก่อเหตุความไม่สงบว่า เคยนำอาวุธปืนดังกล่าวไปก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ใดบ้างเพื่อขยายผลเชื่อมโยงกับหลายๆคดีในท้องที่ใดบ้าง.
ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ จ.นราธิวาส