ทหารแถลงผลคืบหน้ายึดอาวุธสงครามและอุปกรณ์ประกอบระเบิดที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส พบอาวุธสงคราม 1 ใน 2 กระบอก ถูกปล้นมาจากค่ายปีเหล็ง อ.เจาะไอร้อง เมื่อ 4 ม.ค.47
ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส พล.ต.สมพล ปานกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส พ.ต.อ.ธวัชชัย ดุกสุกแก้ว รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.อ.จรูญ จตุรงค์ ผบ.ฉก.ทพ.49 พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ ผกก.สภ.ศรีสาคร และนายกริช น้อยผา นายอำเภอศรีสาคร ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้ากรณีผู้ก่อความไม่สงบได้ก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้รับบาดเจ็บ 3 นาย และเสียชีวิตอีก 1 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.60 ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายสนธิกำลังหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 ร่วมกับ หน่วยปฏิบัตการพิเศษร่วมช่วยส่วนรวม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีสาคร นปพ.นราธิวาส และชุดนิติวิทยาศาสตร์ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายต้องสงสัยหลังจากการชี้เบาะแสมาจากผลเมืองดีในพื้นที่ว่าพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่มีการซุกซ่อนอาวุธสงครามและอุปกรณ์การประกอบระเบิดไว้ในพื้นที่ จึงสนธิกำลังเข้าตรวจค้น รวม 3 เป้าหมาย จนสามารถยึดอาวุธสงครามชนาด M.16 จำนวน 2 กระบอก เครื่องกระสุน 16 นัด แมกกาซีนบรรจุกระสุน ขนาด 20 นัด พร้อมกระสุนขนาด 5.56 รวม 19 นัด ถังแก้สขนาด 15 กก.สายไฟ และตาปูเหล็กเส้นตัดสั้นเพื่อใช้เป็นสะเก็ดระเบิดที่ บ.ไอร์บาลูวง ม.2 ต.ซากอ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส
พ.อ.จรูญ จตุรงค์ ผบ.ฉก.ทพ.49 อ.ศรีสาคร กล่าวว่า ผลจากการตรวจสอบของอาวุธปืนสงครามชนิด M.16 ที่ยึดมาได้ จำนวน 2 กระบอก พบว่า อาวุธปืนสงครามชนิด M.16 รุ่น A 1 แบบยาว หมายเลขปืน 745138 เป็นอาวุธปืนที่ถูกคนร้ายปล้นมาจากค่ายพันพัฒนาที่ 4 ค่ายปีเหล็ง อ.เจาะไอร้อง เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 และอาวุธปืนสงคราม M.16 อีก 1 กระบอกถูกนำมาดับแปลงเป็นแบบสั้น โดยขีดลบเลขปีไว้ จึงต้องทำการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งหนึ่งถึงจะรู้ถึงที่มาที่ไปได้อย่างละเอียด ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบวัตถุระเบิด เช่น ถังแก้สปิกนิก ขนาด 15 กก.นั้น เป็นอุปกรณ์ระเบิดที่สามารถนำไปใช้งานได้อยู่ในสภาพพร้อมสมบูรณ์ ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่เตรียมจะนำมาใช้วางดักเจ้าหน้าที่อีกระลอก อีกทั้งอาวุธปืนที่ยึดมาได้ จำนวน 2 กระบอกนั้น คาดว่าจะถูกเตรียมไว้เพื่อนำออกมาใช้งานในพื้นที่ แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ได้รับการแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่าพบมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมผู้ก่อเหตุความไม่สงบนำอาวุธชุดดังกล่าวมาซ่อนไว้เพื่อเตรียมใช้งาน
ด้าน พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ ผกก.สภ.ศรีสาคร กล่าวว่า อาวุธปืนสงครามทั้ง 2 กระบอก และอุปกรณ์การประกองวัตถุระเบิดที่ตรวจยึดมาได้ในครั้งนี้นั้น ได้ส่งหลักฐานทั้งหมดไปยังเจ้าหน้าที่ชุดตรวจพิสูจน์หลักฐาน 10 ทำการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงที่ติดตามหลักฐานต่างๆ เช่น ปลอกกระสุน ในที่เกิดเหตุ รวมถึงตรวจเก็บ DNA ที่ติดตามหลักฐานทั้งเก่าและใหม่ที่ตรวจยึดมาได้ เช่น อาวุธปืน ถังแก้ส กระสุนปืน เหล็กเส้นตัดสั้น เพื่อเชื่อมโยงไปยังผู้ต้องสงสัย และทำการตรวจขยายผลว่า อาวุธปืนทั้ง 2 กระบอก ถูกนำไปใช้ก่อเหตุที่ใดบ้าง เพื่อง่ายต่อการขยายผลไปยังผู้ที่นำอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอก ปรากฏ DNA ตรงกับผู้ต้องสงสัยรายใด
ด้าน พล.ต.สมพล ปานกุล ผบ.ฉก.นราธิวาส กล่าวว่า ขอบอกข่าวไปยังผู้เห็นต่างและครอบครัวที่ยังไม่เข้าใจต่อเจ้าหน้าที่รัฐขอให้ออกมาพูดคุยกันโดยใช้แนวทางที่สามารถพูดคุยกันได้เพื่อสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ หรือหากมีการก่อเหตุความรุนแรงขึ้นก็ขออย่าให้ผู้บริสุทธิ์ต้องมารับเคราะห์แทนเจ้าหน้าที่ โดยแนวทางของ กอ.รมน.ภาค 4 ต้องการให้ผู้เห็นต่างที่มีความขัดแย้งอยู่บ้างนั้นให้ออกมาพบมารายงานตัวเพื่อพูดคุยเพื่อหาแนวทางในการที่จะกลับมาอยู่ในสังคมของตัวเองร่วมต่อสู้ในเรื่องของคดีความที่ตัวเองคิดว่าถูกข้อกล่าวหาเพื่อยืนยันแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเองตามกระบวนการของกฏหมายตามโครงการพาคนกลับบ้าน หรือโดยทางแม่ทัพภาคที่ 4 ยินดีที่จะเป็นธุระมารับตัวด้วยตัวเองเพื่อกลับมาสู่ครอบครัวที่อบอุ่นร่วมกันกลับมาพัฒนาชาติไทย โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านกว่า 10 ปี ไม่มีใครได้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีแต่ศูนย์เสีย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ภาครัฐพยายามทำความเข้าใจและไม่ใช้ความรุนแรงในการตอบโต้ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการก่อเหตุขึ้นเจ้าหน้าที่ต้องบังคับใช้กฏหมายติดตามจับกุมผู้กระทำผิดและรับผลกรรมที่ก่อ จึงขอฝากพี่น้องประชาชนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะให้ที่พักพิงกับผู้ก่อเหตุต้องมีความผิดด้วย ฉะนั้นอยากให้ออกมาพูดคุยกันเพื่อเลี่ยงความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นไม่ว่าเจ้าหน้าที่หรือประชาชนรวมถึงผู้เห็นต่างด้วย ซึ่งทางกองทัพยินดีรับฟังและมาร่วมหาแนวทางที่ถูกต้องเพื่อความสงบสุขของประชาชนในพื้นที่.
ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ จ.นราธิวาส