วันพฤหัสบดี, 27 กุมภาพันธ์ 2568

เซียนพระเครื่องเมืองเพชร ร้องกองบังคับการ เอาผิด รอง สวป.จ่อปืนขู่

เซียนพระเครื่องเมืองเพชร ร้องกองบังคับการฯ เอาผิด รอง สวป.จ่อปืนขู่ ยัดข้อหาหมิ่นประมาทเจ้าพนักงาน ด้าน รอง สวป.ที่ถูกกล่าวหายืนยันปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่ได้ชักปืน

เมื่อเวลา 14.00 น วันที่ 26 มกราคม นายอานนท์ อรชร อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ 2 ต.ยางหย่อง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี สมาชิกชมรมพระเครื่อง จ.เพชรบุรี เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.เพชรบุรี เข้าร้องเรียนต่อ พ.ต.อ.อิทธิพัทธ์ อยู่สวัสดิโชติ รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี กรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไร่สะท้อน อ.บ้านลาด ข่มขู่พยายามฆ่า ใช้อำนาจโดยมิชอบจับกุมโดยไม่มีข้อหา กักขังหน่วงเหนี่ยว และยัดเยียดข้อกล่าวหา
นายอานนท์เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ขณะที่ตนขี่รถจักรยานยนต์ Honda Scoopy I สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กก 769 เพชรบุรี เดินทางไปที่ ต.ไร่สะท้อน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เพื่อนำพระเครื่องที่ลูกค้าสั่งไปจำหน่าย ขณะที่จอดรถจักรยานยนต์อยู่บนสะพานหน้าทางเข้าวัดหนองแก ต.ไร่สะท้อน และกำลังกดไลน์โทรศัพท์สอบถามเส้นทางลูกค้า ปรากฏมีรถกระบะอีซูซุดีแม็ก สีขาวตอนครึ่ง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดต่อท้ายจากนั้นได้มีชายทราบชื่อต่อมาคือ ร.ต.อ.ณรงค์ชัย ใช่ทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำแหน่ง รอง สวป. สภ.ไร่สะท้อน แต่งกายลักษณะนอกเครื่องแบบใส่กางเกงยีนส์เสื้อยืด เดินเข้ามาหาพร้อมชักอาวุธปืนแมกกาซีน สีดำ จ่อที่บริเวณลำตัวของตน จากนั้นบอกให้ตนหยุดเมื่อตนสอบถามว่าทำผิดข้อหาใด ร.ต.อ.ณรงค์ชัยกลับไม่ตอบแต่กระชากกระเป๋าสะพาย ซึ่งตนสะพายอยู่ไปรื้อค้นภายในพบเพียงพระเครื่องที่ตนจะนำมาส่งลูกค้า ร.ต.อ.ณรงค์ชัย จึงได้แสดงบัตรว่าตนเองเป็นตำรวจแล้วกล่าวว่าขอตรวจค้นรถจักรยานยนต์ของตน ตนยินยอมให้ตรวจค้นผลปรากฏการตรวจค้นรถจักรยานยนต์ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ร.ต.อ.ณรงค์ชัย ขอตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดตนก็ยินยอมและทำการให้ตรวจในที่เกิดเหตุซึ่งปรากฏว่าไม่พบสารยาเสพติดใดๆ ขณะนั้นเริ่มมีชาวบ้านเข้ามามุงดูและมีลูกค้าที่สั่งพระได้เข้ามาอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เมื่อไม่พบความผิดใดๆ ร.ต.อ.ณรงค์ชัย กล่าวว่า ต้องเอาผิดให้ได้ แล้วได้เดินกลับไปที่รถจักรยานยนต์ของตนอีกครั้งและขอดูสมุดคู่มือจดทะเบียนรถ ซึ่งปรากฏว่าตนไม่ได้นำติดมาด้วย ร.ต.อ.ณรงค์ชัยจึงแจ้งข้อหาไม่มีใบสมุดคู่มือจดทะเบียนรถและจะยึดรถ ตนได้โทรศัพท์โทรหามารดาเพื่อให้นำสมุดคู่มือทะเบียนรถมาให้ ขอให้รออย่ายึดรถแต่ ร.ต.อ.ณรงค์ชัยไม่ยินยอม พร้อมได้โทรศัพท์ไปเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไร่สะท้อน จำนวน 2 นายให้มาที่เกิดเหตุเมื่อเจ้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายมา ร.ต.อ.ณรงค์ชัยได้แจ้งให้จับกุมใส่กุญแจมือตนข้อหาไม่มีสมุดทะเบียนรถ เจ้าที่ตำรวจทั้ง 2 นายกล่าวว่าเป็นคดีเล็กน้อยไม่จำเป็นจะต้องใส่กุญแจมือ แต่ ร.ต.อ.ณรงค์ชัยกลับกล่าวว่าตนเป็นหัวหน้าสั่งลูกน้องต้องทำตามตำรวจทั้ง 2 จึงเข้ามาจับกุม โดยยที่ ร.ต.อ.ณรงค์ชัยเป็นคนนำกุญแจมือมาใส่ที่ข้อมือของตนก่อนพาตัวขึ้นแคปรถกระบะ นำตัวไปโรงพักโดยมีตำรวจขับขี่รถจักรยานยนต์ตนตามไปด้วย


เมื่อถึงโรงพัก ร.ต.อ.ณรงค์ชัยได้พาตนไปที่บริเวณหน้าห้องสืบสวนจากนั้นเดินหายไปประมาณ 1 ชั่วโมง และไม่ได้รับการอนุญาตให้ติดต่อกับผู้ใด ต่อมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทราบชื่อจำนวน 2 นายเข้ามาพยายามไกล่เกลี่ยขอให้ยอมความไม่เอาผิดในกรณีที่ ร.ต.อ.ณรงค์ชัย ใช้อาวุธปืน จ่อจี้ตน แต่ตนไม่ยินยอม ตำรวจทั้ง 2 นาย ไกล่เกลี่ยอยู่หลายครั้ง เมื่อตนยืนกรานไม่ยินยอม จึงมีการตั้งข้อกล่าวหาว่าตนดูหมิ่นและขัดขืนเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ พร้อมจับนำตัวเข้าห้องขัง มีการพูดจาข่มขู่ว่าโทษหนักต้องติดคุก และนำข้อกล่าวหามาให้เซ็นยินยอมสารภาพ ตนกลัวถูกจองจำจึงยินยอมเซ็นสารภาพ ต่อมามารดาตนและเพื่อนบ้านได้เดินทางมา และประกันตัวตนออกในวงเงิน 30,000 บาท ในเวลา 21.00 น.เศษ หลังจากที่ได้รับการประกันตัว ตนได้เดินทางมาที่ ร.พ.ท่ายาง ให้แพทย์ทำการตรวจพิสูจน์บาดแผลและออกใบรับรองแพทย์ในกรณีที่ถูกกุญแจข้อมือบาดเป็นแผลที่ ข้อมือขวา
“ การกระทำดังกล่าวของ ร.ต.อ.ณรงค์ชัย เป็นการกระทำที่ลุแก่อำนาจ ใช้อำนาจโดยมิชอบทำเกินกว่าเหตุและพยายามยัดเยียดข้อกล่าวหาต่างๆให้กับตนโดยที่ตนไม่ได้กระทำผิด ที่ผ่านมาตนเป็นผู้บริสุทธิ์ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ตนเชื่อมั่นมาตลอดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติตามกฎหมาย แต่การกระทำดังกล่าว ทำให้ตนรู้สึกหวาดกลัวและเสื่อมศรัทธา ขอให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงและผู้บังคับบัญชาดำเนินคดีกับ ร.ต.อ. ณรงค์ชัย อย่างเด็ดขาดด้วยเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป เบื้องต้นตนได้เดินทางเข้าไปแจ้งความเอาผิดต่อ ร.ต.อ.ณรงค์ชัยที่ สภ.ไร่สะท้อน ในข้อหาพยายามฆ่ากักขังหน่วงเหนี่ยว ไปแล้วและจะแจ้งข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และข้อหาอื่นๆอีกต่อไป
ด้าน ร.ต.อ.ณรงค์ชัย ใช่ทอง เปิดเผยว่า ตนเป็นเจ้าพนักงาน ปส. ในพื้นที่ไร่สะท้อนมีคดียาเสพติดแพร่ระบาด ขณะเกิดเหตุได้พบผู้ต้องหาลักษณะผิดสังเกต จึงเข้าไปขอตรวจสอบ ยืนยันมีการแสดงบัตร แสดงตน และไม่ได้ชักอาวุธปืน แต่ผู้ต้องหาไม่ยินยอมให้ความร่วมมือ มือตรวจสอบไม่พบยาเสพติด ไม่พบสารเสพติดในตัว จึงตรวจสอบรถพบว่าไม่มีเอกสารสมุดทะเบียนจึงแจ้งความและยึดรถ ยืนยันดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่มีการชักอาวุธปืนและไม่มีการให้ใครไปไกล่เกลี่ย ยินดีให้ตรวจสอบ
เบื้องต้นพ.ต.อ.อิทธิพัทธ์ อยู่สวัสดิโชติ รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.ณรงค์ชัย ใช่ทอง มาช่วยราชการที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี และจะได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิด หากพบผิดจริงจะเป็นความผิดวินัยร้ายแรงโทษสูงสุดให้ออกจากราชการ อย่างไรก็ตามจะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย


กสิพล ศิริลาภ
เพชรบุรี

Loading