ผู้ว่าฯ เดินหน้าพัฒนาเมืองนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำ พร้อมขอความร่วมมือทุกภาคส่วนต้องช่วยกันคิด
วันนี้(30 ม.ค.61) ที่ห้องประชุมแกรนด์ชมพูพล โรงแรมเมืองลิกอร์ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นประธานการจัดกิจกรรมแถลงข่าวผู้ว่าฯ พบสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ประจำเดือนมกราคม 2561 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานภาคเอกชน สื่อมวลชนและเครือข่ายประชาสัมพันธ์ เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 120 คน สำหรับประเด็นที่ผู้ว่าราชการจังหวัดได้แถลง รวมทั้งมอบหมายให้หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องชี้แจงต่อสื่อมวลชน อาทิ โครงการบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชนเทศบาลนครศรีธรรมราช โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้แก่ โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช โครงการวังหีบอันเนื่องมาจากพระราชดำริโครงการฝายคลองสังข์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นต้น ความก้าวหน้าการบูรณะพระบรมธาตุเจดีย์ และการนำเสนอวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร เพื่อขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก โครงการพัฒนาการท่องเที่ยวแหลมตะลุมพุก เขาศูนย์ การเชื่อมความสัมพันธ์กับสาธารณรัฐประชาชนจีน โครงการเปลี่ยนท่อเมนประปาเทศบาลนครฯ เป็นต้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในการดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ส่วนใหญ่ได้นำโครงการเก่าที่ได้คิดไว้แล้ว ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ของบ้านเมือง และอดีตผู้ว่าฯที่ได้วางรากฐานไว้ ตนได้นำมาต่อเติม สานงานต่อก่องานใหม่ เพื่อสร้างบ้านเมืองให้เจริญไปข้างหน้า ไม่จมอยู่กับที่ ซึ่งความสำเร็จที่เกิดขึ้นผู้ว่าฯทำคนเดียวไม่ได้ ทุกภาคส่วนต้องช่วยกัน ถึงแม้ว่าการพัฒนาจะมีความเห็นที่แตกต่าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของสังคม แต่ไม่ควรนำไปสู่ความแตกแยก
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในปี 2561 ตั้งใจจะทำเรื่องขยะให้จบ ซึ่งมีขยะตกค้าง 1.5 ล้านตันที่รอการแก้ไขอยู่ ด้านการต่างประเทศ ได้มีการตั้งคณะทำงานจะมีการเชื่อมความสัมพันธ์กับกับเมืองกุ้ยก่าง รวมทั้งการตั้งศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนจังหวัดนครศรีธรรมราช ของมหาวิทยาลัยกวางสี สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นต้น
โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ฝากให้สร้างความเข้าใจในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงคิดให้เมืองนคร เช่นเดียวกับเมืองหาดใหญ่ เช่น โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่ง ครม.ได้อนุมัติงบประมาณ แล้ว 9,580 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการวังหีบอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการฝายคลองสังข์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ยอมรับว่ามีพี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบ แต่ทุกคนต้องได้รับการดูแลที่เหมาะสม เพราะถือว่าเป็นผู้ที่เสียสละต่อคนส่วนใหญ่ แม้ว่าจะทำโครงการพระราชดำริแล้ว ก็ยังจำเป็นต้องทำเรื่องอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วยตามความเหมาะสมของสภาพแต่ละพื้นที่ เช่น ฝายมีชีวิต แหล่งเก็บน้ำแบบรางขนมครก เป็นต้น แต่ถ้าไม่ทำโครงการพระราชดำริ แล้วถามว่ามวลน้ำไหลลงมาเป็น 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร จะเอาไปไว้ที่ไหน เอาตัวเมืองเป็นตัวรับน้ำหรือ หรือจะให้น้ำเบี่ยงซ้ายเบี่ยงขวาอย่างไร นี่คือคำถามที่ต้องช่วยกันคิด ปี 2560 จังหวัดนครศรีธรรมราชมีผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยถึง 38 ศพ นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ขอฝากในเรื่องของการสวมหมวกนิรภัยด้วย เพราะถือเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องดำเนินการขับเคลื่อนด้วย.
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1230675290409139&id=100004000400345