ลพบุรี ตำรวจตามล่าตัวอดีตสามีโหดฆ่ารัดคอสาวลากศพหมกไร่อ้อย
จากกรณี เมื่อเวลา 10.10 น. ของวันที่ 26 ก.พ. 61 พ.ต.ท.รตนดล แหวดกระโทก สารวัตรเวรสอบสวน สภ.หนองม่วง อ.หนองม่วง ลพบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.หนองม่วงว่า มีผู้พบศพภายในป่าอ้อยท้ายหมู่บ้านหนองใหญ่ หมู่ที่ 7 ต.ดงดินแดง พ.ต.ท.รตนดล สารวัตรเวรจึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.สมศักดิ์ หน่องพงษ์ ผกก.สภ.หนองม่วงทราบ รวมถึงผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น พร้อมทั้งได้ประสานแพทย์เวร รพ.หนองม่วง เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ลพบุรี และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดหนองม่วงรุดเดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุ
ที่ป่าอ้อยท้ายหมู่บ้านมีชาวบ้านยืนจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์อยู่จำนวนหนึ่ง เมื่อเดินเข้าไปในป่าอ้อยประมาณ 15 เมตรเจ้าหน้าที่ได้กลิ่นเน่าเหม็นโชยมาอย่างรุนแรง โดยในที่เกิดเหตุพบศพหญิงสาวอายุประมาณ 25-35 ปี ในสภาพนอนหงายโดยผู้ตายสวมเสื้อยืดสีดำ มีรูปดอกไม้ที่ด้านหน้าของเสื้อ กางเกงสีเขียวขาสามส่วน ตามลำตัว ใบหน้า มีหนอนไต่ตามลำตัวยั๊วเยี๊ยะ ที่บริเวณลำคอมีเชือกไนล่อนยาวประมาณ 1 เมตรผูกไว้ จึงได้ทำการชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้นซึ่งยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุของการเสียชีวิตว่าเกิดจากสาเหตุใด หรือเกิดจากการฆาตกรรม ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 วัน
จากการสอบสวน ด.ช.มงคลรัตน์ พุ่มพวง อายุ 13 ปี ผู้ทีพบศพครั้งแรกเล่าว่า เมื่อช่วงสายได้เดินทางกลับมาจากตกปลา ในขณะเดินมาได้กลิ่นเน่าเหม็นอย่างรุนรุนแรง เกิดสงสัยเดินตามกลิ่นเข้าไป จึงได้พบว่ามีคนตายกลางไร่อ้อยดังกล่าวจึงได้รีบวิ่งไปบอกกับนายดำรง พุ่มพวง บิดา ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้สอบถามว่ามีใครเคยเห็นหรือรู้จักผู้เสียชีวิตหรือไม่ และมีใครในพื้นที่แจ้งความคนหายหรือไม่ รวมถึงคนงานตัดอ้อยในพื้นที่ใกล้เคียง โดยชาวบ้านไม่มีใครรู้จักหรือแจ้งความคนหายไว้แต่อย่างใด คาดว่าผู้ตายน่าจะเป็นคนจากที่อื่น โดยคนร้ายลงมือฆ่าและได้นำศพมาซุกซ่อนในป่าอ้อยของชาวบ้าน เพื่ออำพรางคดี ทั้งนี้สารวัตรเวรเจ้าของคดีได้บันทึกสถานที่เกิดเหตุ สอบสวนพยานผู้ที่พบศพในครั้งแรก โดยให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดหนองม่วง นำร่างผู้เสียชีวิตส่งพิสูจน์ที่ศูนย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติศูนย์รังสิต เพื่อขยายผลของการเสียชีวิตว่ามาจากสาเหตุใด และผู้ตายเป็นใคร เพื่อที่จะได้เร่งติดตามตัวคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป (ข่าวเดิม)
ล่าสุดนายมนตรี มะโหฬาร อายุ 52 ปีพี่ชายผู้เสียชีวิตจากจังหวัดสุพรรณบุรี เข้าพบ พ.ต.ท.รตนดล แหวดกระโทก สารวัตรเวรเจ้าของคดี สภ.หนองม่วง อ.หนองม่วง ลพบุรี ยืนยันผู้ตายเป็นน้องสาวชื่อนางธิวาวัน (หรือหมึก) มะโหฬาร อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174 หมู่ที่ 8 ต.ดอนปรู อ.ศรีประจัน จ.สุพรรณบุรี ที่หายตัวไปเมื่อวันที่ 22 ก.พ.61 ที่ผ่านมา โดยนายมนตรีกล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 61เวลา นางธิวาวัน หรือหมึก น้องสาวได้บอกกับญาติ และลูกๆ ว่าจะไปเก็บเงินจากที่เพื่อนยืมที่ นวนคร คลองหลวง ปทุมธานี แล้วจะรีบกลับ โดยเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ยังโทรกลับมาหาลูกสาวว่าดึกเกินไปขอนอนพักที่บ้านเพื่อนที่นวนคร จนเวลา 08.30 น.วันที่ 23 ก.พ. 61 ลูกสาวโทรไปแต่ไม่มีสัญญานตอบรับ
สอดคล้องกับคำให้การของนาย เอ (นามสมมุติ) ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ สามีใหม่ของ นางธิดาวัน ว่านางธิดาวันนั้นเคยมีสามีมาก่อน โดยมีลูกกับอดีตสามีเก่าด้วยกัน 3 คน ได้อย่าร้างมาอยู่กับตนหลายปีแล้วที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เช้าวันที่ 22 ก.พ. ก็บอกกับตนว่าจะไปเก็บเงินที่ นวนคร ปทุมธานี โดยเมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.00น. ยังโทรมาบอกว่าตอนอยู่ที่ นวนครพรุ่งนี้ถึงจะกลับ และหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก
ด้านพ.ต.ท.รตนดล แหวดกระโทก สารวัตรเวร ได้สอบปากคำนายมนตรี พี่ชายและญาติๆ ซึ่งคาดว่านางธิดาวัน หรือหมึก ไม่ได้เดินทางไปที่ นวนคร อย่างที่อ้างกับลูกๆ โดยเดินทางมาที่ อ.หนองม่วง จังหวัดลพบุรี ที่นายชรินทร์ (หรือแก่น) สุนีรักษ์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/2 หมู่ 2 ต.วังน้ำซับ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี อดีตสามีที่มารับจ้างขับรถบรรทุกอ้อย ที่ อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี คาดว่าทั้งคู่ได้นัดพบกัน ณ ที่ใดที่หนึ่ง ก่อนที่จะทะเลาะกัน จากความหึงหวง ก่อนใช้สายเชือกกางเกงขาสั้นแบบ เจเจ รัดคอจนเสียชีวิตก่อนที่จะลากศพเข้าไปซุกซ่อนในไร่อ้อยเพื่ออำพรางคดี
ล่าสุด พ.ต.อ.อุกฤษ ภู่กลั่น รอง.ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ลพบุรี และชุดสืบสวน อ.หนองม่วงได้ประชุม วางแผนในการติดตามตัวนายชรินทร์ หรือแก่น อดีตสามี ที่คาดว่ายังอยู่ในพื้นที่รอยต่อ ลพบุรี-นครสวรรค์ ซึ่งขณะนี้ทราบเบาะแส ซึ่งกำลังออกกติดตามตัวนายชรินทร์ผู้ต้องสงสัยฆ่าอดีตภรรยา มาเพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปต่อไป
กฤษณ์ ลพบุรี