ลพบุรี ทะเลาะเรื่องหมาหลานคล่อมร่างน้าสาวจับหัวกระแทกหินตายสยอง
เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 22 มี.ค.61 ร.ต.อ.อภิชาติ โหมกจันทึก รอง สว.(สอบสวน) สภ.ชัยบาดาล อ.ชัยบาดาล ลพบุรี ได้รับแจ้งกจากศูนย์วิทยุ สภ.ชัยบาดาลว่าได้เกิดเหตุฆ่ากันตายที่ท้ายบ้านใหม่สามัคคี หมู่ที่ 4 จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมทั้งได้ประสานแพทย์เวร รพ.ชัยบาดาล เจ้าหน้าที่งานสืบสวน และมูลนิธิพุทธรรมสงเคราะห์พ้งไล้16 รุดเดินทางไปยังจุดทีเกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านยืนมุงดูและจับกลุ่มพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่จำนวนหนึ่ง ท่ี่ริมถนนพบศพนางสาวนรีรัตน์ หันอาสา อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120/1 หมู่ที่ 4 ต.บ้านใหม่สามัคคี อ.ชัยบาดาล ลพบุรี นอนหงายเสียชีวิตในสภาพศพสวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีน้ำเงิน ที่ใบหน้ามีร่องรอยการกระแทกเลือดเกรอะกรังใบหน้าการการชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้นผู้เสียชีวิตน่าจะถูกฆาตกรรม
จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ทราบว่าเมื่อช่วงกลางดึกประมาณ 01.00 น.ได้ยินเสียง น.ส.นรีรัตน์ กับ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี หลานสาวมีบ้านอยู่ใกล้กัน ซึ่งมีลักษณะคล้ายผู้ชายทะเลาะกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ชาวบ้านย่านนี้ได้ยินประจำ จนเสียงเงียบไป คิดว่าคงจะเลิกลากันไปแล้ว ซึ่งตอนเช้าได้มีชาวบ้านไปพบศพของ น.ส.นรีรัตน์ เสียชีวิตหน้าบ้านตนเองจึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
ดังนั้นเมื่อทราบเบาะแสเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปพบกับ น.ส. เอ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงอาการตกใจ จึงได้ควบคุมตัวเพื่อทำการสอบสวน พบว่าตามร่างกายของ น.ส.เอ มีบาดแผลหลายแห่ง จึงได้สอบถามความจริง เมื่อจำนนด้วยหลักฐาน และพยานจึงได้ยอมเปิดปากว่าเป็นคนลงมือทำร้าย น.ส.นรีรัตน์ ซึ่งเป็นน้าสาว จริง แต่ไม่คิดว่าจะเสียชีวิต ซึ่ง น.ส.กล่าวว่าก่อนเกิดเหตุได้ทะเลาะกันเรื่องหมาของน้าที่ชอบเห่า และไล่ตนเมื่อเข้าบ้าน หลังจากที่ทะเลาะกันได้สุกครู่ จึงได้ลงไม้ลงมือกัน ตนเองได้คล่อมร่างน้าสาวแล้วจับศรีษะกระแทกกับหินจนแน่นิ่งไป จากนั้นตนเองจึงได้นำเสื้อผ้าเปื้อนเลือด เปื้อนฝุ่นไปซัก ก่อนที่จะไปทำบาดแผลตัวเองที่โรงพยาบาล จนมาทราบว่าน้าสาวเสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ น.ส.เอ ขอขมากราบศพน้าสาวของตนเองที่ลงมือฆ่า ก่อนที่จะควบคุมตัว น.ส.เอ ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อสวบสวนเพิ่มเติมและดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้นำส่งพิสูจน์ที่ รพ.อีกครั้งก่อนที่จะประสานญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
กฤษณ์ ลพบุรี