วันเสาร์, 16 พฤศจิกายน 2567

ผวจ.ประจวบ สั่งตามล่าแก๊งค้านำ้มันเถื่อนทับสะแก

26 มี.ค. 2018
32

ผวจ.ประจวบฯสั่งตามล่าแก๊งค้าน้ำมันเถื่อนทับสะแก

วันที่ 26 มีนาคม นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุมกรณีกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านบ้านทุ่งประดู่ หมู่ 2 ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม หลังจากชาวบ้านกลุ่มประมงเรือเล็กได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศชายฝั่ง จากเรือบรรทุกน้ำมันดีเซลลักลอบขนถ่ายน้ำมันเถื่อน ในสวนมะพร้าวร้าง ทำน้ำมันรั่วบริเวณแนวชายหาดทุ่งประดู่ โดยมีนายสมพร ปัจฉิมเพชร ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายจรัญ ศรีชะเอม ประธานกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านบ้านทุ่งประดู่ ผู้ร้องเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริงและเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ที่ห้องประชุมหว้ากอชั้น 2 ศาลากลางจังหวัด

นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เพิ่งทราบปัญหาจากการนำเสนอของสื่อมวลชน เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่มีหน่วยงานใดรายงานให้ทราบ และหลังจากชาวบ้านไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม อ.ทับสะแก เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ที่ผ่านมายอมรับว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำงานล่าช้าถือว่ามีความบกพร่อง ไม่ลงไปตรวจสอบพื้นที่ที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งจุดดังกล่าวห่างจากที่ว่าการอำเภอไม่เกิน 5 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาที

นายพัลลภ กล่าวว่า สำหรับการเชิญผู้ร้องเรียนให้ข้อมูลในที่ประชุม ได้ยืนยันตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ขณะนี้ได้ลงนามแต่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงทางลับโดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบกระบวนการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนไปหาข้อมูลทางลับและรายงานให้ทราบเบื้องต้นภายใน 7 วัน หากพบมีพยานหลักฐานชัดเจนให้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนทันที

“ ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง 2 ทีม ทำการตรวจสอบภาพแวดล้อมบริเวณชายหาด มีคราบน้ำมันซึมลงไปในทราย และผลกระทบจากคราบน้ำมันในทะเล เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ส่วนพฤติกรรมการลักลอบขนน้ำมันเถื่อน หากผลการตรวจสอบทางลับถ้ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด และขณะนี้มีข้อมูลบางส่วนค่อนข้างชัดเจน แต่จะต้องยืนยันจากพยานบุคคลและหลักฐานสำคัญบางประการ ส่วนผู้ร้องเรียนปลัดจังหวัดยืนยันว่าจะมีความปลอดภัยโดยมีเจ้าหน้าที่ดูแล” นายพัลลภ กล่าว และว่า สำหรับเรือเหล็กขนาด 30 ตันกรอสที่จอดซ่อมหลังจากถูกคลื่นพัดเกยหาด ขณะนี้ยังไม่พบเบาะแสเรือดังกล่าวในพื้นที่ แต่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบพิกัดได้จากระบบตรวจสอบของทางราชการ

 

Loading