-เจ้าหน้าที่ตำรวจ เมืองระยอง รวบ ชาวกัมพูชา ที่ตระเวน ลักรถจักรยานยนต์ ในเขต จังหวัดระยอง และส่งขายให้ประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อวันที่ 26 เมื่อวันที่ 2561 มีนาภายใต้การอำนวยการ ของพลตำรวจตรีไพรศูนย์เนียมทรัพ ผบก. จว ระยอง ได้สั่งการให้ทุกสถานีตำรวจในสังกัด เร่งรัด ตามมาตราการป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถในพื้นที่ที่รับผิดชอบ นำโดย พ.ต.อ. ดำรงอ้วนสูงเนิน ผกก. สภ. เมืองระยอง พร้อมชุดปราบปรามโจรกรรมรถยนต์และจักรยานยนต์ สถานีตำรวจภูธรเมืองระยอง เร่งรัดดำเนินการการจับกุม ผู้ที่กระทำผิด ในการก่อเหตุในพื้นที่สภ. เมืองระยอง ซึ่งผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาและของกลางต่างๆ ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ โดยมีของกลาง จำนวน 15 คัน โดยจับกุม โดยจับกุม ผู้ต้องหา ดังนี้ นายหาญนี่หรือยี่อายุ 30 ปี ชาวกัมพูชา นางสาวเนียงหรือจอย อายุ 22 ปี ชาวกัมพูชา นายใหม่อายุ 20 ปีชาวกัมพูชานายโก๊ะอายุ 24 ปีชาวกัมพูชานายริดอายุ 25 ปีชาวกัมพูชา นายเลือดอายุ 29 ปี ชาวกัมพูชา พร้อมของกลางจำนวน 15 คัน โดยได้โจรกรรมจากท้องที่เมืองระยอง 11 คัน ตำบลเพ 1 คัน บางละมุง 3 คัน สืบเนื่องมาจากในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ที่มีการโจรกรรมจักรยานยนต์ของประชาชนที่ จอดไว้ ตามสถานที่ต่างๆ สืบสวนหาข่าว เกี่ยวกับกลุ่ม แก๊งที่ก่อเหตุจนกระทั่งสืบสวนหาข่าวจากกล้องวงจรปิดทราบว่า ผู้ก่อเหตุนั้นเป็นชาวกัมพูชา
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ออกสืบสวน ติดตามจนพบเห็นชาย และหญิงซึ่งมีลักษณะตรงกับภาพถ่าย ที่ได้จากกล้องวงจรปิด เข็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อคาวาซากิรุ่น KSR สีชมพูดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้าไปที่ห้องพักบังกะโลอัศวินตำบลเชิงเนิน จึงได้ติดตามเข้าตรวจสอบ ทำการสอบถามทราบชื่อคือนายหารยี่หรือยี่ สัญชาติกัมพูชา และนางสาวเนียงหรือจอย สัญชาติกัมพูชา จากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมีหมายเลขตัวรถตรงกับรถจักรยานยนต์ของนางสาวณัฐชา มณีวงศ์ ที่ได้รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ พนักงานสอบสวนสภ. เมืองระยอง ว่าได้จอดรถจักรยานยนต์ไว้ที่ลานจอดรถโรงพยาบาลกรุงเทพระยอง แล้วได้หายไป จึงได้ทำการสอบถามผู้ถูกจับทั้งสองยอมรับว่าได้ร่วมกันก่อเหตุลักจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาจริงโดยใช้วิธีเอากุญแจหกเหลี่ยมที่เตรียมมา แทงที่รูกุญแจ แล้วงัดออก แล้วเข็น เพื่อนำมาต่อสายตรงเพื่อขับขี่ไป แล้วผู้ถูกจับทั้งสองยังยอมรับอีกว่าได้ก่อเหตุในลักษณะนี้มาหลายครั้งแล้วและได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ และตรวจยึดรถจักรยานยนต์ผู้ที่ถูกจับทั้งสอง ได้ร่วมกันโจรกรรมมาแล้วนำไปขายให้กับเพื่อนซึ่งเป็นชาวกัมพูชาด้วยกันในราคาคันละ 4000 ถึง 8000 บาท แล้วนำเงินที่ได้มาจากการขายรถจักรยานยนต์ที่โจรกรรมนั้น มาใช้จ่ายร่วมกันจากนันจึงได้นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ภาพ/ข่าว ราชัญ กองทอง
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์
รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก