วันเสาร์, 16 พฤศจิกายน 2567

นายทุนเหิมหนัก !!โค่นไม้ใหญ่ในป่าสงวน

30 มี.ค. 2018
30

นายทุนเหิมหนัก! โค่นไม้ใหญ่ป่าสงวน แม่ทัพภาค 4 สั่งตรวจยึดเฝ้าระวัง มีกลุ่มนายทุนรุกตัดไม้ทำลายป่าเขตป่าไม้ถาวร รอยต่อกับ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา ลอบโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่นับสิบต้น ด้านแม่ทัพภาค 4 สั่งการเร่งเข้าตรวจสอบ พร้อมตั้งเจ้าหน้าที่ร่วมกับคนชุมชนเฝ้าระวังพื้นที่

พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ได้รับรายงานจากชาวบ้านว่าในพื้นที่ บ้านไอร์จูโจ๊ะ ม.7 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส มีกลุ่มบุคคล จากนอกและในพื้นที่หมู่บ้านไอร์จูโจ๊ะ เข้าไปลักลอบตัดต้นไม้ทำเป็นไม้ซุงท่อน ไม้ซีก ไม้เหลี่ยม และไม้แปรรูปไม้ เพื่อการค้าส่งให้กลุ่มนายทุน และมีการลักลอบขนย้ายไปนอกพื้นที่และซุกซ่อนไม้ตามป่าข้างทางและซุกซ่อนตามบ้านเรือนประชาชนให้หมู่บ้าน เพื่อรอการขนย้ายนั้น ภายหลังรับแจ้ง นายสุรพร พร้อมมูล ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส จึงได้มอบหมายให้ นายกริช น้อยผา นายอำเภอศรีสาคร พร้อมด้วย พ.อ.จรูญ จตุรงค์ ผบ.ฉก.ทพ.49 ร.ต.อ.อรุณ กุลกัลยา หัวหน้าชุดปฏิบัติการข่าวหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 ได้สนธิกำลัง ตชด.44 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน ฉก.49 จนท.สำนักบริการพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี, จนท.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 สาขานราธิวาส

โดยเข้าตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตรวจพบร่องรอยรถเข้าไปลักลอบบรรทุกไม้ออกไปก่อนบ้างแล้วบางส่วน คงเหลือไม้ซีกจำนวน 6 ซีก, ไม้ท่อนจำนวน 3 ท่อน และไม้แปรรูปจำนวน3 แผ่น/ชิ้น คณะเจ้าหน้าที่ จึงทำการตรวจยึดและขนย้าย ประกอบด้วย ไม้ซุงท่อนชนิดไม้หลุมพอ ใช้ช้างชักลากมาซุกซ่อนไว้ริมป่า ใช้ใบไม้ปิดอำพรางไว้ จำนวน 3 ท่อน ไม้แปรรูปขนาดใหญ่ ชนิดไม้หลุมพอ ซุกซ่อนไว้ในป่า ใช้ใบไม้ปิดอำพรางไว้ จำนวน 3 แผ่น/ชิ้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจไม้ดังกล่าว ทุกท่อน ทุกชิ้น ทุกแผ่น ไม่พบรอยรูปดวงตราของเจ้าพนักงานป่าไม้ตีประทับแต่อย่างใด เชื่อว่าเป็นไม้ที่ได้มาโดยมิชอบโดยกฎหมาย จึงทำการตรวจยึด มาเก็บรักษาไว้ที่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นธ.1 (กาหลง) เพื่อป้องกันการเสียหายสูญหาย

ต่อมาคณะเจ้าหน้าที่ จึงได้ขยายผลตรวจสอบตรวจค้นพื้นที่ ที่คาดว่ากลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้ทำลายป่า จะนำไม้ท่อนซุง ไม้ซีกไปซุกซ่อนไว้ คณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบพื้นที่ซุกซ่อนไม้อีกจำนวน 2 จุด คือ จุดซุกซ่อนที่ 1 ตรวจพบชนิดไม้หลุมพอผ่าซีก ขนาดใหญ่ จำนวน 4 ท่อน โดยใช้ใบไม้ปิดอำพราง จุดซุกซ่อนที่ 2 ตรวจพบชนิดไม้หลุมพอผ่าซีก ขนาดใหญ่ จำนวน 5 ท่อน และไม้หลุมพอแปรรูป จำนวน 14 แผ่น/ชิ้น โดยใช้ใบไม้ปิดอำพราง ส่วนไม้ซีกที่ยังค้างในป่าจำนวน 14 ท่อน/ซีก และไม้แปรรูปจำนวน 14 แผ่น/ชิ้น ที่ยังคงเหลือยังกองอยู่ในป่า รอการขนย้ายต่อไป

ต่อมาคณะเจ้าหน้าที่ ได้รับแจ้งจากคนให้ข่าวว่า มีโรงรับซื้อยางพาราเป็นที่เก็บและซุกซ่อนไม้แปรรูปขนาดใหญ่จำนวนมาก โดยอำพรางกับเศษยางพารา คณะเจ้าหน้าที่ จึงรายงานให้ พ.อ.จรูญ จตุรงค์ ผบ.ฉก.ทพ.49 เข้าจับกุมในทันที ตรวจพบไม้แปรรูป ไม้ท่อน ขนาด ชนิดต่างๆ จำนวน 2 รายการ คือไม้หลุมพอ แปรรูปขนาดใหญ่ จำนวน 23 ชิ้น/แผ่น ปริมาตร 24.03 ลบ.ม.ค่าภาคหลวง 2,244.80 บาท ค่าเสียหายด้านป่าไม้ 280,600บาท ไม้หลุมพอ เป็นท่อนขนาดยาว 50 ซม.โต 150 ซม. จำนวน 104 ท่อน ปริมาตร 10.94 ลบ.ม.ค่าภาคหลวง 867.2 บาท ค่าเสียหายด้านป่าไม้ 109,300 บาท

พร้อมได้ทำการจับกุมตัว นายกอยา กาแบ อายุ 45 ปี เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย บ้านเลขที่ 107 หมู่ที่ 7 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ซึ่งรับเป็นเจ้าของไม้แปรรูป ไม้ท่อน ดังกล่าว
คณะเจ้าหน้าที่ จึงแจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายกอยา กาแบ ว่ากระทำความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 11 ห้ามมิให้ผู้ใดทำไม้ หรือเจาะ หรือสับ หรือเผา หรือทำอันตรายด้วยประการใดๆ แก่ไม้หวงห้ามโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่, มาตรา 48 ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ห้ามมิให้ผู้ใดแปรรูปไม้ ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ และมีไม้แปรรูปหวงห้ามไว้ในครอบครองหรือมีไม้แปรรูปชนิดอื่นเป็นจำนวนเกินกว่า 0.20 ลูกบาศก์เมตร และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในกฎกระทรวง และ ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 106/2557 เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ เล่มที่ 131 ตอนพิเศษ 143 ราชกิจจานุเบกษา 30 กรกฎาคม 2557 ส่วนนายกอยา กาแบ ผู้ถูกจับกุมได้รับทราบข้อกล่าวหาแล้วรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ขณะจับกุมชุดจับกุมจึงได้มอบหมายให้ นายกิตติพันธุ์ รัตนวงศ์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นธ.1 (กาหลง) เป็นผู้นำตัว นายกอยา กาแบ ผู้ถูกจับ ส่งต่อ พงส.สภ.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนไม้ของกลาง นายกิตติพันธุ์ รัตนวงศ์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นธ.1 (กาหลง) เป็นผู้เฝ้าเก็บรักษามิให้สูญหายเสียหายต่อไป

ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ จ.นราธิวาส

Loading