แก๊งค้ายาเหิม!!! ซิ่งแหกด่านตรวจ ตร.ปส.จวนตัวปาระเบิดใส่เพื่อเปิดทางหนีหวังสังหารหมู่
วันที่ 4 เม.ย.61 พล.ต.ต.ทนัย อภิชาตเสนีย์ รอง ผบช.ปส.พล.ต.ต.กิตติ สะเภาทอง ผบก.ปส.4 พ.ต.อ.วัชระ ทิพย์มงคล รอง ผบก.ปส.4 พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ อนันต์โท ผกก.2 บก.ปส.4 พ.ต.ท.พิทยา สองเมือง รอง ผกก.2 บก.ปส.4 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.2 บก.ปส.4 สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.414,เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าแซะ, สภ.บ้านมาบอำมฤต,สภ.ปะทิวและสภ.สลุย จว.ชุมพรได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสุชาติ ดำคำ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 316/2 หมู่ 7 ตำบลบ้านนา อ.เมือง จว.ชุมพรพร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 10 ถุงรวมประมาณ 2,000 เม็ดระเบิดชนิดสังหาร M.61รถยนต์กระบะโตโยต้าสี่ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน ญค 5936 กรุงเทพมหานคร
พล.ต.ต.ทนัย กล่าวว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 08.30 น.วันที่ 3 เมษายน 2561 ในขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่กก.2 บก.ปส.4 สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.414,เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าแซะ,สภ.บ้านมาบอำมฤต,สภ.ปะทิวและสภ.สลุย จว.ชุมพรตั้งด่านตรวจสกัดกั้นการลักลอบขนยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายอยู่ที่บริเวณหน้าด่านตรวจยานพาหนะชุมพรบนถนนเพชรเกษม หมู่ 2 ตำบลหงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จว.ชุมพร พบรถยนต์กระบะโตโยต้าสี่ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน ญค 5936 กรุงเทพมหานคร ต้องสงสัยขับผ่านมาช่องทางขาล่องใต้ จึงได้ส่งสัญญาณเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบแต่คนขับกลับเร่งเครื่องผ่านด่านและเหยียบเหล็กแหลมกับดักที่เจ้าหน้าที่ด่านวางสกัดไว้จนยางล้อหน้าด้านซ้ายระเบิดแต่คนร้ายก็ยังพยามขับหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านและตชด.ได้ขับรถยนต์ไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดจนจนกระทั่งถึงทางแยกยูเทิร์น กลับรถซึ่งห่างจากด่านตรวจจุดเกิดเหตุ 3 กิโลเมตร คนร้ายได้กลับรถไปบนถนนช่องทางขาขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปบนถนนสายอ่างทอง-บ้านร้านตัดผม มุ่งหน้าไปทางชายแดนไทย-เมียนมาซึ่งเป็นตลาดย่านชุมชนหนาแน่น เจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตามไปประมาณ 3 กิโลเมตรซึ่งเป็นย่านชุมชนมีบ้านเรือนปลูกสร้างอยู่ริมถนนจำนวนมาก เมื่อคนร้ายเห็นว่าจวนตัวจึงได้คว้าระเบิดมือออกมาดึงสลักแล้วปาใส่รถของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยระเบิดตกลงกระทบพื้นอย่างแรงแล้วกลิ้งเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถของเจ้าหน้าที่ซึ่งขับตามหลังมา แต่โชคดีระเบิดไม่ทำงานทำเอาชาวบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงตกใจขวัญผวาต้องวิ่งหลบหนีกันจ้าละหวั่น
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตามไปจนถึงทางโค้งอันตรายห่างจากจุดที่คนร้ายปาระเบิดประมาณ 1 กิโลเมตรรถของคนร้ายที่ล้อหน้าด้านซ้ายถูกกับดักจนยางระเบิดแล้ววิ่งบดไปด้วยความเร็วจนเหลือแต่กระทะล้อ ทำให้รถเกิดเสียหลักแหกโค้งพุ่งลงข้างทางชนเข้ากับเสาไฟฟ้าแต่คนร้ายยังไม่ยอมจำนนได้เปิดประตูรถวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าละเมาะแต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมไว้ได้ในที่สุด ทราบชื่อคนร้ายต่อมาคือ นายสุชาติ ดำคำ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 316/2 หมู่ 7 ต.บ้านนา อ.เมือง จว.ชุมพร เจ้าหน้าที่ตรวจค้นในรถพบห่อพลาสติกพันไว้อย่างดีจำนวน 2 ห่อ ภายในมียาบ้าประมาณ 2,000 เม็ด จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบจุดที่นายสุชาติ ปาระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ พบเป็นระเบิดชนิดสังหาร M.61 ซึ่งมีรัศมีการทำลายล้างเป็นวงกว้าง 30 เมตร
พล.ต.ต.ทนัย กล่าวเพิ่มเติมว่าจากการตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุพบว่ากระเดื่องตัวจุดชนวนระเบิดหักออกจากตัวลูกระเบิด เนื่องจากคนร้ายดึงสลักออกแล้วปาใส่รถเจ้าหน้าที่เมื่อระเบิดตกลงกระแทกกับพื้นถนนลาดยางอย่างรุนแรงทำให้กระเดื่องตัวจุดชนวนระเบิดเกิดแตกหักหลุดออกจากตัวลูกระเบิดจึงทำให้ระเบิดไม่สามารถทำงานซึ่งถือว่าโชคดีเป็นอย่างมากที่ทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านในย่านชุมชนดังกล่าวปลอดภัย
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดถนนและกันชาวบ้านออกแล้วให้ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดนำยางล้อรถยนต์มาครอบกระเดื่องตัวจุดชนวนที่มีเชื้อปะทุอยู่ ซึ่งหลุดออกจากตัวลูกระเบิดเพื่อทำลายทิ้ง ท่ามกลางความโล่งใจของชาวบ้านและเจ้าหน้าที่
จากการสอบสวนนายสุชาติให้การรับสารภาพว่า ตนได้เดินทางไปกรุงเทพฯเพื่อไปส่งลูกและภรรยาพี่สาว ขณะเดินทางไปได้แวะกินข้าวที่ปั้มน้ำมัน ปตท.จว.สมุทรสาคร ได้มีชายไม่ทราบชื่อมาชวนคุยและติตต่อว่าจ้างให้ตนนำยาบ้าและไอซ์มาส่งให้ลูกค้าที่ จว.ชุมพร โดยจะให้ค่าจ้างตนจำนวน 5,000 บาทตนจึงได้ตอบตกลงจะนำยาบ้าและไอซ์มาส่งให้ลูกค้าที่ จว.ชุมพร จากนั้นตนได้บอกชายคนดังกล่าวว่าจะต้องเดินทางไปส่งลูกและภรรยาที่กรุงเทพฯก่อนแล้วจะเดินทางกลับชุมพรชายคนดังกล่าวจึงได้นัดให้ตนแวะรับยาบ้าและไอซ์ที่ปั้ม ปตท.ที่เดิมเมื่อตนเดินทางถึงปั้มชายดังกล่าวได้นำถุงพลาสติกสีขาวใส่ยาบ้าและไอซ์พร้อมระเบิดมาให้ตนเมื่อรับของเสร็จตนก็ได้ออกเดินทางกลับชุมพรเพื่อนำยาบ้าและไอซ์มาส่งให้ลูกค้าเมื่อเดินทางถึงชุมพรตนพบด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกเพื่อตรวจค้นตนจึงได้ขับรถหลบหนีเมื่อเห็นจวนตัวตนจึงได้ปาระเบิดใส่รถเจ้าหน้าที่ แล้วขับรถหลบหนีไปด้วยความเร็ว จนไปแหกโค้งชนเสาไฟฟ้าและถูกจับกุมในที่สุด
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า“มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้าและไอซ์)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”และ“พยายามฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฎิบัติหน้าที่”และ “มีอาวุธสงครามชนิด(ระเบิดสังหาร M61)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สลุย จว.ชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและติดตามกลุ่มเครือข่ายของผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป