วันนี้คณะผู้บริหารนำโดย นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ และผศ.ดร.อรทัย ก๊กผล รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และพนักงานสถาบันพระปกเกล้ากว่า 170 คนเดินทางมาจัดกิจกรรมพัฒนาบุคลากรประจำปี 2561 เพื่อพัฒนาสมรรถนะของบุคลากร และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยจะมีการจัดอบรมทางวิชาการ พร้อมทั้งทำสาธารณประโยชน์ให้แก่ชุมชน เพื่อเป็นการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมอันเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำงานของพนักงานของสถาบันพระปกเกล้า
สำหรับในปีนี้ สถาบันพระปกเกล้าเลือกพื้นที่อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเสริมสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมการเรียนรู้สู่ชุมชนด้านสิ่งแวดล้อม จากอุทยานแห่งชาติกุยบุรี โดยในเวลา 14.30 น. คณะผู้บริหาร และพนักงานสถาบันพระปกเกล้าได้เข้ารับฟังการบรรยายจากนางสาวกีรติ มอทิพย์ นักวิชาการเผยแพร่ ทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายจัดการท่องเที่ยวและนันทนาการ บรรยายสรุปเกี่ยวกับสภาพพื้นที่และความสำคัญของอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ในฐานะที่เป็นป่าพื้นที่แหล่งต้นน้ำที่สำคัญของแม่น้ำกุยบุรี และแม่น้ำปราณบุรี การเข้าศึกษาเยี่ยมชมพื้นที่อุทยานในวันนี้ได้รับการต้อนรับอย่างเป็นอย่างดีจากนายธีรพันธ์ นันทกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ นายชาตรี จันทร์วีระชัย นายอำเภอกุยบุรี
อุทยานแห่งชาติกุยบุรีนอกจากความสำคัญในฐานะพื้นที่แหล่งต้นน้ำแล้ว อุทยานแห่งชาติกุยบุรียังมีความพิเศษคือ เป็นพื้นที่ป่าไม้จันทน์หอม ที่ใช้ในการจัดสร้างพระโกศจันทน์ในพระราชพิธีออกพระเมรุถวายพระเพลิงพระบรมศพและพระศพของพระบรมวงศานุวงศ์และเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง อันได้แก่ สมเด็จพระศรี
นครินทราบรมราชชนี, สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์, สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี, สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาปริณายก และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร นับเป็นความภาคภูมิใจต่ออุทยานแห่งชาติ และประชาชนในพื้นที่ รวมถึงชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในงานพระราชพิธีที่สำคัญของชาวไทยเรื่อยมา
หลังจากที่ได้รับฟังการบรรยายคณะผู้บริหารและพนักงานได้ทำกิจกรรมปลูกป่าโดยใช้วิธียิงหนังสติ๊กเมล็ดพันธุ์ไม้ ได้แก่ มะค่า ขี้เหล็ก มะขาม ตะแบก พร้อมทั้งศึกษาธรรมชาติ และสัตว์ป่าโดยมีเจ้าหน้าที่ของอุทยานเป็นผู้นำชม และให้คำแนะนำ
