จันทบุรี-ผู้บัญชาการทหารเรือ ตรวจเยี่ยมการฝึกสนธิกำลังดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2561 ที่สนามฝึกกองทัพเรือ บ้านจันทเขลม อ.เขาคิชกูฏ จ.จันทบุรี
วันนี้ ( 2 พ.ค.61 ) ที่ สนามฝึกกองทัพเรือหมายเลข 16 บ้านจันทเขลม อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี พลเรือเอก นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะนายทหารระดับสูง ของกองทัพเรือ ได้เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์ การฝึกสนธิกำลังดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริงโดยนายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับและร่วมชมการฝึก ซึ่งการตรวจเยี่ยมการฝึก ของผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะฯ ในวันนี้ นอกจากจะทำให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือได้รับทราบรายละเอียด การปฏิบัติในการฝึก และทราบถึงขีดความสามารถ ตลอดจนความพร้อมในการปฏิบัติการของหน่วยต่างๆ ที่เข้ารับการฝึกแล้ว ยังเป็นแนวทางที่เปิดโอกาสให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ได้ใกล้ชิดผู้บังคับบัญชาขั้นสูง อันจะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพล ที่เข้ารับการฝึก
สำหรับการฝึกการดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริงในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกกองทัพเรือประจำปี 2561 โดยเป็นการฝึกร่วมกันของหน่วยต่างๆ ในกองทัพเรือ ประกอบด้วย กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ กรมรักษาฝั่งที่1 หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง รวมถึงกำลังกองทัพบก ซึ่งจัดจากกองพันทหารม้าที่2 กองพลทหารราบที่2 รักษาพระองค์ จังหวัดปราจีนบุรี ทำการฝึกระหว่างวันที่ 27 เมษายน 2561 ถึงวันที่ 3 พฤษภาคม 2561 เพื่อทดสอบการปฏิบัติทางยุทธวีธีทหารราบยานเกาะ ทดสอบการปฏิบัติการร่วมของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน(นย.)และกองทัพบก (ทบ.)และการปฏิบัติการร่วมของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน(นย.) และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ทดสอบการปฏิบัติการสนับสนุนการช่วยรบและส่งกลับสายแพทย์ ทดสอบความพร้อมของยุทธวิธีทหารนาวิกโยธินในการรบตามแบบ
การจัดกำลังที่เข้าร่วมการฝึกนั้น ในส่วนของกองทัพเรือ ประกอบด้วย รถเกราะล้อยาง BTR -3E1 จำนวน 6 คัน, ยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก AAV จำนวน 4 คัน,รถหุ้มเกราะติดอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถังหนัก : HMMWV จำนวน6 คัน, ปืนใหญ่ขนาด 155 มิลลิเมตร จำนวน4กระบอก ปืนใหญ่ขนาด 105 มิลลิเมตร จำนวน2 กระบอก เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง (ฮ.ลล) แบบ Bell 212 และ EC 645 รวม4 เครื่อง และกำลังกองทัพบก ประกอบด้วย กำลัง 1 กองร้อยทหารราบ พร้อมรถเกราะล้อยางแบบ BTR -3E1 จำนวน 8 คัน และรถถังแบบ OPLOT จำนวน5 คัน โดยได้สมมุติสถานการณ์ให้กอกำลังนาวิกโยธินทำการรบตรึงกำลังบริเวณแนวชายแดน ขอกำลังทางบกจากกองทัพบกเข้าสนับสนุนการเข้าตี รวมทั้งการใช้ปืนใหญ่ของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ยิงสนับสนุนกำลังทางบก
ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์
รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก