เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 2 พย.61 พ.ต.อ.ญาณพงศ์ โสมาภา รอง ผบก.น.9 พ.ต.ท.วิชยานนท์ เอกตาแสง รอง ผกก.ป.สน.แสมดำ พ.ต.ท.ชรัช ม่วงสกุล สวป.สน.แสมดำ ร.ต.อ.อาณัฐิ เอกจีน รอง สวป.สน.แสมดำ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.แสมดำ และสภ.คุระบุรี จ.พังงา ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนางสุภัสสรา หรือหมวย บุญพยนต์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ที่ 8 ต.เกาะตาเลี้ยง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ผู้ต้องหาตามหมายจับรวม 3 คดี ประกอบด้วยศาลอาญาธนบุรี ที่จ.663/2559 ลงวันที่ 26 ต.ค. 2559 ในข้อหาฉ้อโกงและนำข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ ศาลจังหวัดยโสธร ที่ 170/2559 ลงวันที่ 20 ต.ค. 2559 ในข้อหาฉ้อโกง
(เหตุเกิดพื้นที่ สภ.เลิงนกทา) และศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 645/2560 ลงวันที่ 19 ก.ย. 2560 ในข้อหาฉ้อโกง (เหตุเกิดพื้นที่ สภ.คูคต) โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณริมถนนพอแดง ต.ท้ายเมือง อ.ท้ายเมือง จ.พังงา เมื่อเวลา 14.00 น. เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ญาณพงศ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสน.แสมดำว่า ได้ประกอบอาชีพขายอาหารเสริมผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว จากนั้นมีผู้เข้ามาติดต่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายเพื่อนำสินค้าไปเปิดตลาดที่ต่างประเทศซึ่งมีมูลค่ารายได้หลายล้านบาท พร้อมทั้งใช้กลอุบายหลอกให้ผู้เสียหายโอนเป็นค่าเสียภาษีและค่าขนส่งสินค้ารวมทั้งหมด 6 ครั้ง มูลค่าความเสียหาย 120,000 บาท จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลยจึงตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว
พ.ต.อ.ญาณพงศ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหายังก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายอีกหลายรายในพื้นที่สภ.คูคต จ.ปทุมธานี และสภ.เลิงนกทา จ.ยโสธร โดยมีพฤติกรรมใช้แอพพลิเคชั่นไลน์หลอกขายสินค้าประเภทเครื่องสำอางโดยใช้รูปโปรไฟล์เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคมอาทิคุณฟ้ารุ่ง ยุติธรรม อดีตมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี50 และร.ต.อ.รดารัตน์ พันมี เมื่อเหยื่อเกิดหลงเชื่อโอนเงินเพื่อสั่งซื้อสินค้าจะไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย นอกจากนี้จากการตรวจสอบบัญชีที่ผู้ต้องหาหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินไปนั้นเป็นบุคคลเดียวกันทั้งหมดเพียงแค่เปิดหลายบัญชี จนกระทั่งสืบทราบว่าไปแอบหลบซ่อนตัวอยู่ที่จ.พังงา โดยมีพฤติการณ์เป็นร่างทรงคอยหลอกเหยื่อเพื่อหารายได้เพิ่มเติม จึงประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.คุระบุรี จ.พังงา นำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ตามสถานที่ดังกล่าว
ด้านนางสุภัสสรา รับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยก่อนหน้านี้ประกอบอาชีพรับจ้างแต่มีรายได้น้อยไม่พอใช้จึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 58 และย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ ซึ่งในแต่ละวันจะหารายได้จากการหลอกเหยื่อตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาท ส่วนเรื่องร่างทรงนั้นตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวแม้แต่อย่างใดจนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว
CR. @ โอ๋ สมาคมคนข่าว ผู้สื่อข่าว นิวส์รีพอร์ต @ รายงาน