นครปฐม แม้ค้าขายเสื้อผ้าตลาดนัดสุดน้อยใจตำรวจไม่เร่งจับคนร้ายขโมยกระเป๋าเงินตนเองในรถยนต์ขณะจอดริมถนนเตรียมลงเสื้อผ้าแผงตลาดทั้งที่มีภาพวงจรปิดและที่อยู่ของคนร้าย
เมื่อเวลา16.00น.วันที่10พค.ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ หลังทราบข่าว นางสาวสุจิตรา บัวเขียว อายุ35ปี แม่ค้าขายเสื้อผ้าตลาดนัดพุทธมณฑลสาย4 ถูกขโมยกระเป๋า ได้นำหลักฐานเช่น ภาพจากกล้องวงจรปิดขณะคนร้ายก่อเหตุและใบแจ้งร้องทุกข์แจ้งความกับตำรวจ พร้อมเดินทางพาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดูในจุดเกิดเหตุพร้อมละบายความน้อยเนื้อตำใจกับตำรวจที่ไม่เร่งรีบติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษ
ทางด้านนางสาวสุจิตรา บัวเขียว ผู้เสียหายได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อเวลา14.00น.วันที่23เมษายน2561 ที่ผ่านมา ตนขับรถยนต์กระบะแบบติดหลังคาไฟเบอร์บรรทุกเสื้อผ้าออกจากบ้านมาจอดริมถนนพุทธมณฑลสาย4 หน้าตลาดนัดปากซอยกระทุ่มล้ม14 หมู่ที่8 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม ตามภาพในคลิปวงจรปิดเทศบาลเมืองกระทุ่มล้มติดไว้ปากซอยบันทึกไว้ได้ ขณะตนเองจอดรถเพื่อเตรียมลงเสื้อผ้าที่แผงตลาดนั้น ตนเองได้เดินออกจากรถไม่ได้ล๊อครถเนื่องจากแผงขายของนั้นอยู่ริมถนน ตนเดินมาดูแผงแล้วย้อนกลับไปที่รถ อีกครั้งปรากฎว่ากระเป๋าแบบคาดเอว1ใบมีเงิน5,000บาท และกระเป๋าแบบสะพายมีเงิน8,000บาทพร้อมเอกสารต่างๆสมุดธนาคารหายไป ตนเองจึงได้ไปแจ้งความกับตำรวจสภ.โพธิ์แก้ว และตนได้ไปขอดูภาพกล้องวงจรปิดจากเทศบาลเมืองกระทุ่มล้ม จึงพบว่ามีรถกระบะทะเบียน ณพ 28 หมวดกรุงเทพมหานครของคนร้ายมาจอดท้ายรถตนก่อนคนร้ายได้เดินไปเปิดประตูเข้าไปขโมยทรัพย์ในรถตนกลับมาขึ้นรถคันดังกล่าวแล้วขับหลบหนีไป อย่างรวดเร็ว
ตนเองจึงได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพคนร้ายได้ขณะก่อเหตุให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกไม่ต้องนำภาพลงเฟชบุ๊คส่วนตัวเดียวคนร้ายรู้ จากนั้นเวลาผ่านไป1อาทิตย์ตนเองได้ไปถามความคืบหน้าของคดี ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่ารู้แล้วคนร้ายเป็นใคร พักอยู่ที่ไหนเดียวจะจับกุมตัวแล้ว เข้าอาทิตย์ที่2ตนไปถามอีกตำรวจบอกติดตามไปแล้วคนร้ายได้ลาออกจากงานที่ทำอยู่ยังติดตามตัวไม่ได้ เข้าอาทิตย์ที่3ตนไปติดตามคดีอีกตำรวจบอกว่าคนร้ายได้เลิกกับภรรยาไปแล้วมีที่พักไม่เป็นหลักแหล่งต้องขอโทษตามไม่ได้จริงๆ จนกระทั่งวันนี้นางสาวสุจิตรา ผู้เสียหายจึงมาร้องผู้สื่อข่าวว่าทำไม่ตำรวจไม่ตามให้ได้สักทีทั้งๆที่ทะเบียนรถก็มี รู้ทั้งที่อยู่เจ้าของรถทำไมตำรวจไม่ตาม ตนไม่เสียดายหรอกเงินทองที่เสียไปแต่ตนเอวกลัวคนร้ายคนนี้จะไปก่อเหตุกับคนอื่นอีกด้วย
