นครปฐม ข่าวต่อ. เหตุ นักศึกษาถูกแฟนจ่อยิงเสียชีวิต ก่อนจะยิงตัวเอง
จากเหตุการณ์ นายภัคพงษ์ จิตตารมย์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 4 ต.กระเฉด อ.เมือง จ.ระยอง ใช้ปืนขนาด .38 จ่อยิง น.ส.ณัจฉรีญา ทาประจิตร อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน สาขาธุรกิจพาณิชยนาวี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ศูนย์การศึกษาจังหวัดนครปฐม ต.คลองโยง อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เสียชีวิต เหตุเกิดวันที่ 4 มิ.ย.61 เวลา 13.00 น. บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ริมถนนศาลายา – นครชัยศรี หมู่ 5 ต.ศาลายา และได้ใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงใต้คางตัวเอง ได้รับบาดเจ็บสาหัส พลเมืองดีช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลพุทธมณฑล และส่งต่อโรงพยาบาลนครปฐม และเสียชีวิตในเวลา 21.40 น. เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว
ความคืบหน้า วันนี้ ( 5 มิ.ย.61) เวลา 10.00 น. ที่โรงพยาบาลนครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม นายปราโมช และนางกมลวรรณ จิตตารมย์ พ่อและแม่ของนายภัคพงษ์ จิตตารมย์ ได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพลูกชายเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่ วัดสำนักทอง อ.เมือง จ.ระยอง โดยทั้งคู่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า และเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในส่วนตัวยังไมเชื่อว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัวของตน เนื่องจากลูกชายเป็นคนร่าเริง อารมย์ดี แม้แต่กับหลานายตัวเล็กๆ ยังไม่เคยเสียงดังใส่เลย จึงไม่น่าจะทำอะไรรุ่นแรงขนาดนี้ และก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องอุ้มด้วย ที่ผ่านมา ทราบว่าทั้งคู่ก็คบหาดูใจกันมาหลายปี ช่วงหลังรู้ข่าวว่า น้องเขาย้ายไปที่กรุงเทพ ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก วันก่อนเกิดเหตุ ลูกชายต้องไปเข้างานช่วงเย็น ก็ขับรถกระบะออกไป และก็ติดต่อไม่ได้ แม่เข้าใจว่าลูกชายทำงานยุ่ง จึงไม่รับสาย จนอีกวัน ตำรวจโทรมาแจ้งว่า ลูกชายมาก่อเหตุดังกล่าว ทุกคนรู้สึกช็อคกับเรื่องที่เกิดขึ้น
นายปราโมชฯ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อย จึงอยากฝากเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์ กับทุกคน อย่าตัดสินใจอะไรด้วยอารมณ์ชั่ววูบ อาจทำให้เกิดความเสียใจกับหลายคน ถ้าตกลงกันไม่ได้ หรือไม่เข้าใจ ก็เดินถอยห่างออกมาจะดีกว่า ทุกอย่างก็จะดีขึ้น
ส่วนทางด้านครอบครัวของ น.ส.ณัจฉรีญา ทาประจิตร อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน สาขาธุรกิจพาณิชยนาวี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ศูนย์การศึกษาจังหวัดนครปฐม ต.คลองโยง อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม วันนี้ได้เดินทางมาทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณของน้องอุ้ม กลับไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ท่ามกลางความสนใจของผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมา
ผู้สื่อข่าวสอบถามกับชาวบ้านร้านค้าในพื้นที่ หลายคนบอกว่า ถ้ากลางคืนเดินคนเดียวก็รู้สึกกลัวบ้าง แต่กลางวันไม่ใช่ปัญหา วันนี้ครอบครัวของผู้ตายก็มาเชิญดวงวิญญาณน้องเขากลับไปแล้วด้วย ก็ไม่น่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ทางด้านผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างรายหนึ่งเปิดเผยว่า ถนนทางเข้าหมู่บ้านนี้ มีคนผ่านเข้า – ออกตลอด 24 ชม. จึงไม่น่ากลัว ส่วนคนกลัวก็ยังมีอีกทางที่ออกได้