วันอาทิตย์, 17 พฤศจิกายน 2567

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพร้อมผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ บุกตรวจค้น 2 โรงงานย่านบางพลีใหญ่

21 มิ.ย. 2018
31

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และคณะทำงานได้บุกเข้าตรวจค้น 2 โรงงานย่าน ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังชาวบ้านร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากมลพิษ และตรวจพบขยะพิษที่เชื่อมโยงโรงงานที่ฉะเชิงเทรา ก่อนหน้านี้

พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผวจ.สมุทรปราการ นายสุรพล ชามาตย์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท ฟ๋งเหยี่ยน จำกัด เลขที่ 88/27 ม.23 ตามหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรปราการ เลขที่158/61 โดยโรงงานแห่งนี้แจ้งว่าประกอบธุรกิจประเภท กัด-กลึงโลหะ แต่เมื่อเข้าตรวจสอบพบเศษพลาสติกหลายขนาดจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้าได้ถูกร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเกิดมลพิษทางเสียงและกลิ่นไปทั่วบริเวณ จนสร้างความเดือนร้อนและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของชาวบ้านเป็นอย่างมาก โดยโรงงานแบ่งเป็น 2 ส่วนส่วนแรกทำการคัดแยกเศษพลาสติก และอีกส่วนคือเตาหลอมพลาสติก ขณะเดียวกันมีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบมาดูปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจค้นโรงงานด้วย ซึ่งชาวบ้านได้บอกว่าทุกครั้งที่โรงงานเดินเครื่องจักร จะมีกลิ่นเหม็นและฉุนอย่างมาก จนทำให้แสบตาและเวียนหัวจนอาเจียน

โดยที่ผ่านมาทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดได้เข้าตรวจสอบก่อนที่จะมีคำสั่งให้ปรับปรุงเครื่องหลอมพลาสติกให้ได้คุณภาพให้แล้วเสร็จภายใน 31 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่จนถึงปัจจุบันนี้ทางบริษัทยังไม่ได้ดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จ ทางอุตสาหกรรมจะต้องสั่งปิดและสั่งปรับวันละ 5,000 บาท เนื่องจากมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรงงานฯ ม.55 ตามวันที่ไม่ยอมแก้ไขจนกว่าจะแก้ไขปรับปรุงให้แล้วเสร็จ นอกจากนี้ยังพบว่ามีเครื่องจักรที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ติดตั้งด้วย ดังนั้นวันนี้จากการเข้าตรวจสอบทังพบว่า โรงงานแห่งนี้มีความผิดเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.โรงงานอุตสาหกรรมรวมทั้งสิ้น 5 ข้อหา ประกอบด้วย ประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่3 โดยไม่ได้รับอนุญาต ,ต่อเติมโรงงานโดยไม่รับอนุญาต,ขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต,ประกอบกิจการโรงงานในระหว่างที่มีคำสั่งให้หยุดประกอบกิจการและไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานและวิธีการควบคุมการปล่อยของเสีย มลพิษ หรือสิ่งใดๆที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งเกิดจากการประกอบกิจการโรงงาน โดยจะดำเนินคดีทั้งในนามนิติบุคคลและบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของโรงงาน รวมทั้งแจ้งข้อหา แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานขณะเข้าตรวจสอบด้วย

จากนั้นคณะของ รอง ผบ.ตร.ได้เดินทางตรวจสอบ บริษัท โอ จี ไอ ตั้งอยู่ในโครงการจงศิริพาร์คแลนด์ ห่างจากจุดแรกประมาณ 4 กม. พบว่าเป็นโรงงานเก็บเศษพลาสติก ไม่มีเครื่องจักร แต่จากการตรวจสอบเอกสารกลับพบว่า โรงงานแห่งนี้มีการขอโคว์ต้าการนำเข้าเกินกว่ากำลังการทำงานของเครื่องจักรที่จดทะเบียนไว้จำนวนมาก โดยพบขยะอิเลคทรอนิคส์ เช่น วงจรอีเล็กทรอนิกส์ แบตเตอรี่โทรศัพท์ รวมถึงวัตถุอันตราย ที่มีส่วนผสมทางเคมีสามารถติดไฟ และระเบิดได้ ภายในโรงงานแห่งนี้ จึงประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าตรวจสอบและนำไปกำจัดด้วยวิธีที่ปลอดภัยและถูกต้อง ซึ่งเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหากับโรงงาน โอ จี ไอ และทำการขยายผลว่าโรงงานแห่งนี้นำขยะอิเลคทรอนิคส์ไปขายต่อให้โรงงานใดบ้าง เพื่อติดตามดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Loading