วันที่ 9 กรกฎาคม 2561 เวลา 11.00 น. ตามนโยบายรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ , พลตำรวจเอก เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ,พลตำรวจโท ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ตำรวจภูธรภาค ๑ ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจโท สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๑ , พลตำรวจตรี สมชาย พัชรอินโต รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๑ , พลตำรวจตรี ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๑ , พลตำรวจตรี อำนาจ จันทร์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจ ภูธรภาค ๑
ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจตรี สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี , พันตำรวจเอก วสันต์ บุญเจริญ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี , พันตำรวจเอก ณัฐพล ศุกระศร รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี , พันตำรวจเอก พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี , พันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ โมรานนท์ ผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี , พันตำรวจเอก อรรณพ นวมนาคะ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง , พันตำรวจโท เมษนนท์ นาขวัญ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ , พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรรัตนา ธิเบศร์ และสถานีตำรวจภูธรบางบัวทอง
ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจตรี สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี , พันตำรวจเอก อภิชาติ วรรณภักดิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี, พันตำรวจเอก โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้กำกับสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี , พันตำรวจเอก สมิทธิ สารอต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคูคต , พันตำรวจเอก ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี
ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ดังนี้
๑. สภ.รัตนาธิเบศร์ จว.นนทบุรี
รายที่ ๑
วันที่ ๓ ก.ค. ๖๑ ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ได้แก่
๑. นายอดุลย์หรือดวง มีปัทมา อายุ ๔๐ ปี
๒. นายประวิท หรือวิท สุกเกษม อายุ ๓๔ ปี
โดยกล่าวหาว่าร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร
พร้อมของกลาง
๑. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้ารุ่นคลิ๊ก ๑๒๕i สีเหลือง-ดำ ทะเบียน ๗กธ-๖๒๑๐ กทม. ( ถูกก่อเหตุมาจาก สน.โคกคราม )
๒. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้ารุ่นคลิ๊ก ๑๒๕i สีเขียว-ดำ ทะเบียน ๗กก-๔๘๗๑ กทม.( ถูกก่อเหตุมาจาก สน.มีนบุรี )
สืบเนื่องจากเมื่อจากเมื่อวันที่ ๑ ก.ค.๖๑ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปจร.ภ.๑ และ ศปจร.ภ.จว.ปทุมธานีจับกุมเครือข่ายโจรกรรมรถข้ามชาติ ด้วยวิธีการลักรถจักรยานยนต์แล้วนำมาแยกชิ้นส่วนบรรจุใส่กล่องส่งพัสดุไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านไว้ได้ โดยได้ร่วมกันทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน ๓ คน คือ
๑. นายอนิรุทธิ์ หรือยู ขันมณี อายุ ๓๕ ปี
๒. นาย KHIN MAUNG WIN (คิน มาว วิน) สัญชาติพม่า อายุ ๓๔ ปี
๓. นายซาฮิด อายุ ๓๘ ปี (บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน)
ฝ่ายสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ร่วมกับสืบสวน ภ.จว.ปทุมธานี และสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ร่วมกันขยายผลผู้ต้องหาทั้ง ๓ คน จนสามารถจับกุมตัวนายอดุลย์ฯและนายประวิท ผู้ก่อเหตุได้พร้อมของกลางดังกล่าว จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง ๒ คน ให้การรับสารภาพว่า ได้ออกตระเวนโจรกรรมรถจักรยานยนต์หลายพื้นที่ที่มีเขตติดต่อกันทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมีพฤติการณ์ในการขับรถยนต์ตระเวนไปตามห้างต่างๆ เพื่อหารถเป้าหมายที่จะทำการโจรกรรม เมื่อพบรถเป้าหมายแล้วจะใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมาทำลายเบ้ากุญแจ และสตาร์ทเครื่องยนต์ขับขี่นำรถมาส่งให้ชุดที่ทำหน้าที่แยกชิ้นส่วนบรรจุลงกล่องเพื่อส่งไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้แจ้งข้อร่วมกันลักทรัพย์และรับของโจร
รายที่ ๒
วันที่ ๘ ก.ค. ๖๑ ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์ ได้แก่
๑. นาย MIN HTET (มินเทะ) อายุ ๓๒ ปี สัญชาติพม่า (หนังสือเดินทางเลขที่ CC ๖๕๘๙๓๔๒ )
๒. นายTHURA (ตูรา) อายุ ๓๑ ปี สัญชาติพม่า (หนังสือเดินทางเลขที่ CC ๖๕๘๙๓๓๙ )
๓. นายSAR DAR (ซาดา) อายุ ๒๑ ปี สัญชาติพม่า (หนังสือเดินทางเลขที่ CC ๖๒๗๔๘๙๗ )
โดยกล่าวหาว่าร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร
พร้อมด้วยของกลาง
๑. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ออนด้า รุ่นคลิ๊ก ๑๒๕ i สี แดง-ดำ ทะเบียน ๗กภ-๖๘๘๐ กทม. ซึ่งสภาพรถถูกถอดแยกชิ้นส่วนไปแล้วบางส่วน จำนวน ๑ คัน ( รถของ จนท.ตำรวจ )
๒. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ออนด้า รุ่นคลิ๊ก ๑๒๕ i สีขาว-ดำ ทะบียน ๗กฌ-๘๖๙๔ กทม. ถูกถอดแยกชิ่นส่วน สภาพรถเหลือเฉพาะโครงรถ (เป็นรถที่ถูกโจรกรรม และแจ้งความร้องทุกข์ สภ.บางแก้ว จว.สมุทรปราการ วันที่ ๖ ก.ค.๖๑)
๓.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ออนด้า รุ่นเวฟ ๑๒๕ i สี แดง-ดำ ทะเบียน ๑กญ-๓๔๘๕ เพชรบูรณ์ สภาพสมบูรณ์ (เป็นรถที่ถูกโจรกรรม และแจ้งความร้องทุกข์ สภ.บางแก้ว จว.สมุทรปราการ วันที่ ๖ก.ค.๖๑)
๔. พบชิ้นส่วน รถจักรยานยนต์ที่ถอดแยกชิ้นส่วน จำนวน หลายรายการ
๕. พบกล่องลังกระดาษขนาดใหญ่ที่ยังไม่บรรจุสิ่งของ จำนวน ๔๗ กล่อง
๖. พบตะกร้าวางสิ่งของหน้ารถจักรยานยนต์ สีดำ จำนวน ๑๐ อัน
๗. พบเครื่องมือช่าง สำหรับถอดชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ จำนวนหนึ่ง
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ๖ ก.ค.๒๕๖๑ เวลาประมาณ ๑๗.๓๐ น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้นำรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น คลิ๊ก สีแดงดำหมายเลขทะเบียน ๗กภ-๖๘๘๐ กทม. ไปจอดไว้ที่ห้างฯโลตัส สาขาติวานนท์ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์บ่อยครั้ง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้เคียง และต่อมาเวลา ๑๘.๓๐ น.ได้มีคนร้ายได้มาลักรถคันดังกล่าวและขับออกจากห้างฯโลตัส เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถจักรยานยนต์ติดตามไป จนทราบว่าคนร้ายได้นำรถที่ก่อเหตุเข้าไปจอด ซุกซ่อนในบ้านบ้านเลขที่ ๔๑๗/๕๗ซอยวชิรธรรมสาธิต ๒๙ แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม.บ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว มีรั้วหนาแน่น และเป็นช่วงเวลากลางคืน จึงได้จัดกำลังเฝ้าบ้านดังกล่าวไว้
ต่อมาวันที่ ๘ ก.ค.๒๕๖๑ เวลาประมาณ ๐๖.๐๐ น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ประสานเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยรักษาความสงบเขตบางนาและเขตพระโขนง ร่วมกันเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ ๔๑๗/๕๗ เมื่อเข้าไปในบ้านดังกล่าวพบผู้ต้องหาทั้ง ๓ คนพร้อมของกลางดังกล่าว จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง ๓ คน ให้การรับว่า ได้มาพักอาศัยที่บ้านดังกล่าวนายประมาณ ๑๒ วัน โดยมีนายจ้าง ( ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง ) เช่าไว้ให้พักอาศัย และไว้สำหรับใช้เป็นสถานที่ถอดชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ ที่โจรกรรมมาและบรรจุใส่กล่อง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง ๓ คน มีหน้าที่ถอดแยกชิ้นส่วน และบรรจุใส่กล่อง จากนั้นจะมีคนไทยขับรถยนต์กระบะ แบบติดหลังคาโครงเหล็กทึบ มารับ และจะได้ค่าจ้างคันละ ๑,๐๐๐ บาท โดยได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์และรับของโจร
๒. ภ.จว.ปทุมธานี
ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์ คือ นายวัชรินทร์ หรือมืด คูณผล อายุ ๔๑ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๕๐ ม.๑๘ ต.โดด อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ โดยกล่าวหาว่ามีเครื่องวิทยุคมนาคมไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ลักทรัพย์หรือรับของโจร
พร้อมด้วยของกลาง
เครื่องวิทยุคมนาคม ยี่ห้อโมโตโรล่า สีดำ รุ่น Radius GP๓๐๐ จำนวน ๑ เครื่อง และได้ตรวจยึด
๑. รถจักรยานยนต์ หมายเลขตัวรถ MLHJF๓๕๐๔K๕๕๕๖๖๕๒ หมายเลขเครื่องยนต์ JF๓๕E-๐๑๕๖๖๕๒ ถูกแยกชิ้นส่วนบรรจุในกล่องกระดาษจำนวน ๒ กล่อง (แจ้งหายที่ สน.ทองหล่อ)
๒. รถจักรยานยนต์ หมายเลขตัวรถ MLHJF๓๕๑๕H๕๓๓๑๓๕๒ หมายเลขเครื่องยนต์ JF๓๕E-๓๐๓๑๓๕๒ ถูกแยกชิ้นส่วนบรรจุในกล่องกระดาษจำนวน ๒ กล่อง (แจ้งหายที่ สน.ลาดพร้าว)
๓. รถจักรยานยนต์ หมายเลขตัวรถ MLHJA๑๔๐๙J๕๗๒๑๔๕๓ หมายเลขเครื่องยนต์ JA๑๔๐E-๐๗๒๑๔๕๓ ถูกแยกชิ้นส่วนบรรจุในกล่องกระดาษจำนวน ๒ กล่อง (แจ้งหายที่ สน.ลาดกระบัง)
๔. รถจักรยานยนต์ หมายเลขตัวรถ MLHJF๓๕๐๗H๕๕๑๑๘๓๐ หมายเลขเครื่องยนต์ JF๓๕E-๐๑๑๑๘๓๐ ถูกแยกชิ้นส่วนบรรจุในกล่องกระดาษจำนวน ๒ กล่อง (แจ้งหายที่ สภ.บางพลี)
๕. รถจักรยานยนต์ หมายเลขตัวรถ MLHJA๑๔๐๐H๕๔๐๐๔๙๒ หมายเลขเครื่องยนต์ JA๑๔๐E-๐๔๐๐๔๙๒ (แจ้งหายที่ สน.บางเขน)
๖. รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออิซูซุ คันหมายเลขทะเบียน ถธ-๘๕๖๖ กรุงเทพมหานคร จำนวน ๑ คัน
๗.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง จำนวน ๑ เครื่อง
๘.ใบรับส่งสินค้า จำนวน ๓ ใบ
๙.บัตรเอทีเอ็ม ธนาคารกสิกรไทย ของนายวัชรินทร์ คูณผล จำนวน ๑ ใ
สืบเนื่องจากเมื่อจากเมื่อวันที่ ๑ ก.ค.๖๑ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปจร.ภ.๑ และ ศปจร.ภ.จว.ปทุมธานีจับกุมเครือข่ายโจรกรรมรถข้ามชาติ ด้วยวิธีการลักรถจักรยานยนต์แล้วนำมาแยกชิ้นส่วนบรรจุใส่กล่องส่งพัสดุไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านไว้ได้ โดยได้ร่วมกันทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน ๓ คน คือ
๑. นายอนิรุทธิ์ หรือยู ขันมณี อายุ ๓๕ ปี
๒. นาย KHIN MAUNG WIN (คิน มาว วิน) สัญชาติพม่า อายุ ๓๔ ปี
๓. นายซาฮิด อายุ ๓๘ ปี (บุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน)
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้อีก ๒ คน คือ
๑.นายอดุลย์ มีปัทมา อายุ ๔๐ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๗๐ ม.๑๓ ต.โคกสะอาด อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ
๒. นายประวิท สุกเกษม อายุ ๓๔ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๙๓ ม.๑๒ ต.ทะเลบก อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ถูกลักมา จำนวน ๒ คัน โดย๒ คนดังกล่าว มีหน้าที่ตระเวนโจรกรรมรถจักรยานยนต์หลายพื้นที่ที่มีเขตติดต่อกันทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมีพฤติการณ์ในการขับรถยนต์ตระเวนไปตามห้างต่างๆ เพื่อหารถเป้าหมายที่จะทำการโจรกรรม เมื่อพบรถเป้าหมายแล้วจะใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมาทำลายเบ้ากุญแจ และขับขี่นำรถมาส่งให้ชุดที่ทำหน้าที่แยกชิ้นส่วนบรรจุลงกล่อง และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้อีก ๑ คน คือ
นายวัชรินทร์ หรือมืด คูณผล อายุ ๔๑ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๕๐ ม.๑๘ ต.โดด อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ โดยกล่าวหาว่ามีเครื่องวิทยุคมนาคมไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ลักทรัพย์หรือรับของโจร พร้อมด้วยของกลาง จากการจับกุมผู้ต้องหาที่ได้ลักรถจักรยานยนต์ เพื่อนำมาแยกชิ้นส่วนบรรจุในกล่องพัสดุแล้วส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านนั้น จากการขยายผลจนทราบว่า หลังจากที่ได้นำรถจักรยานยนต์บรรจุกล่องแล้วจะมีนายวัชรินทร์ฯ ทำหน้าที่มารับพัสดุ แล้วไปส่งให้กับบริษัทขนส่งเอกชน เพื่อส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมของนายวัชรินทร์ฯ จนกระทั่งทราบว่า ในวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๖๑ นายวัชรินทร์ฯจะนำกล่องที่บรรจุรถจักรยานยนต์ ไปส่งให้กับบริษัทขนส่ง จึงติดตามจับกุมตัวนายวัชรินทร์ฯ ไว้ได้พร้อมด้วยของกลางดังกล่าว และสามารถตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ถูกบรรจุลงกล่องแล้วจำนวน ๕ คัน จากการสอบถามผู้ต้องหารับว่านายวัชรินทร์ฯรับว่ามีหน้าที่นำกล่องไปส่งให้กับบริษัทขนส่งเอกชน โดยปลายทางคือแม่สอดทุกครั้ง โดยได้ส่งสินค้าให้กับกลุ่มดังกล่าวมาตั้งแต่ปี ๒๕๖๐ โดยจะส่งทุกๆ ๒-๓ วัน จากการสืบสวนสอบสวนขยายผล ทำให้ทราบว่า นายวัชรินทร์ฯ มีส่วนเกี่ยวข้องในการโจรกรรมรถจักรยานยนต์หลายพื้นที่ที่มีเขตติดต่อกันทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจนกับสมาชิกในกลุ่ม โดยสร้างความเสียหายให้กับประชาชนทั่วไป
๓. สภ.บางบัวทอง จว.นนทุบรี
ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาคดีโจรกรรมรถจักรยานยนต์ คือ นายวัชรชัย หรือกอล์ฟ รัตนศิริ อายุ ๒๙ ปี อยู่บ้านเลขที่ ๑๐ หมู่ ๓ ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ ๓๒๗ /๒๕๖๑ ลง ๑๙ มิ.ย.๖๑ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม , มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๑ (ยาไอซ์)ไว้ในความครอบครอง ทั้งหมดจะดำเนินคดีต่อไป