วันอาทิตย์, 17 พฤศจิกายน 2567

!!ตร.ภ.1 ทลายแก๊งตระเวนงัดตู้ ATM “

10 ก.ค. 2018
41

ตร.ภ.1ทลายแก๊งตระเวนงัดตู้ ATM

วันนี้ 10 ก.ค.61 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขานรอง ผบ.ตร.พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโตรอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์วุฒิจรัสธำรงค์รอง ผบช.ภ.1พล.ต.ต.สุภธีร์บุญครอง ผบก.สส.ภ.1พล.ต.ต.สมหมาย ประสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยาพล.ต.ต.ชัยน์วัฒน์อรัญวัฒน์ผบก.ภ.จว.ลพบุรีพล.ต.ต.ชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมกลุ่มเครือข่ายแก๊งโจรกรรมลักทรัพย์ตู้เอทีเอ็มผู้ต้องหาจำนวน 4 คน นายบุญญฤทธิ์หรือเจ แก้วมณี อายุ 27 ปีอยู่บ้านเลขที่ 49 ม.4 ต.ท่านั่งอ.โพทะเล จว.พิจิตร นายพณภัทรหรือบอส สุโชคนันท์ อายุ 26 ปีอยู่บ้านเลขที่ 598/15 ม.8 ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น จว.ขอนแก่น นายสมประสงค์ หรือแบล็ค พงก่อสร้างอายุ 21 ปีอยู่บ้านเลขที่ 59/2 ซ.ชานเมือง แขวงดินแดง เขตดินแดง จว.กรุงเทพมหานคร นายธวัชชัยหรือปาร์ม พลายแก้ว อายุ 22 ปีอยู่บ้านเลขที่ 18 ม.7 ต.แม่เลย์ อ.แม่วงก์ จว.นครสวรรค์พร้อมด้วยของกลางเงินสด 300,000 บาท ทองรูปพรรณต่างๆสร้อยคอทองทำจำนวน 4 เส้น สร้อยข้อมือจำนวน 2 เส้น แหวนทองคำพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง รวมน้ำหนักทองคำ 13 บาทมูลค่าประมาณ 350,000 บาท รถยนต์มิสซูบิชิ แลนเซอร์ รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส โทรศัพท์มือถือจำนวน 5 เครื่องรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน มาร์ช ถังแก๊สพร้อมหัวตัดและอุปกรณ์ที่คนร้ายใช้เจาะตู้เอทีเอ็มและอื่นอีกหลายรายการ

พล.ต.ต.ธนายุตม์วุฒิ กล่าวว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 รายได้ร่วมกันตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์และพยายามลักทรัพย์ลักตู้เอทีเอ็มต่อเนื่องในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 1 อาทิ สระบุรี ลพบุรี อยุธยา และปทุมธานีจำนวนกว่า 5 ครั้งตั้งแต่เดือนมิ.ย.61 จำนวน 3 ครั้งและเดือนกรกฎาคม 2 ครั้งโดย เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.61เวลาประมาณ 01.40 น.คนร้ายได้พยายามก่อเหตุลักทรัพย์เงินสดภายในตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทยซึ่งตั้งอยู่ภายในร้านขายยาปอป้อเลขที่ 65/3 ม.4 ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยาโดยคนร้ายได้นำเทปกาวทึบปิดกล้องวงจรปิดของตู้เอทีเอ็มแล้วได้ตัดแม่กุญแจที่ใช้ล็อคประตูเหล็กม้วนในชั้นแรกงัดประตูบานเลื่อนในชั้นที่สองและใช้ความร้อนพยายามตัดประตูนิรภัยของตู้เอทีเอ็มเพื่อหวังจะเอาเงินสดภายในตู้เอทีเอ็มแต่ครั้งนี้คนร้ายลงมือไม่สำเร็จ

เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.61เวลาประมาณ 03.56 น.พยายามก่อเหตุลักทรัพย์เงินสดภายในตู้เอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยสาขาหนองแคซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าร้านเอกภาพหมู่ 8 ต.ห้วยขมิ้น อ.หนองแค จว.สระบุรี โดยนำเทปกาวทึบมาปิดกล้องวงจรปิดของตู้เอทีเอ็มแล้วใช้ความร้อนพยายามตัดประตูนิรภัยของตู้เอทีเอ็มเพื่อหวังจะเอาเงินสดภายในตู้เอทีเอ็มครั้งนี้พบร่องรอยไหม้ทั้งด้านหน้าด้านข้างและด้านหลังตู้เอทีเอ็มแต่ไม่สามารถนำเงินสดออกมาได้

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.61 เวลาประมาณ 00.20 – 01.11 น.ได้ก่อเหตุลักทรัพย์เงินสดภายในตู้เอทีเอ็มธนาคารทหารไทยซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าร้านมินิมาร์ทภายในปั๊มน้ำมันบางจากเลขที่ 29 หมู่ 10 ต.พัฒนานิคม อ.พัฒนานิคมจว.ลพบุรีโดยใช้ความร้อนเป่าตัดบริเวณด้านหลังตู้เอทีเอ็มการลงมือครั้งนี้คนร้ายได้เงินสดภายในตู้เอทีเอ็มไปจำนวน 174,500 บาท

เมื่อวันที่ 3 ก.ค.61 เวลา 03.40 น.ก่อเหตุลักทรัพย์เงินสดภายในตู้เอทีเอ็มซึ่งตั้งอยู่บริเวณหน้าอาคารพาณิชย์เลขที่ 55/17 หมู่ 1 ต.โคกแย้อ.หนองแคจว.สระบุรีครั้งนี้คนร้ายปรับเปลี่ยนวิธีการโดยใช้เชือกคล้องตู้เอทีเอ็มแล้วผูกติดกับรถยนต์กะบะยี่ห้อมิตซูบิชิรุ่นไทตั้นซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพหมายเลขทะเบียนบษ 2266 นครปฐมไว้ได้จากนั้นจึงขับรถดึงกระชากตู้เอทีเอ็มจนล้มแต่ครั้งนี้คนร้ายลงมือไม่สำเร็จ เนื่องจากมีคนผ่านมาพบเห็นเหตุการณ์เสียก่อน

เมื่อวันที่ 6 ก.ค.61 สภ.วังน้อยจว.พระนครศรีอยุธยาได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้รถยนต์กระบะยี่ห้อมิสซุบิชิรุ่นไทตั้นสีบรอนซ์เงินหมายเลขทะเบียนบษ 2266 นครปฐมที่บริเวณถนนคันคลองชลประทานหมู่ที่ 6 ต.ลำไทรอ.วังน้อยจว.พระนครศรีอยุธยาซึ่งเป็นรถคันเดียวกับที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเมื่อวันที่ 3 ก.ค.61 ในพื้นที่ อ.หนองแคจว.สระบุรีครั้งนี้หลังจากคนร้ายก่อเหตุลักเงินสดตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพและธนาคารไทยพาณิชย์ตั้งอยู่ที่หน้าร้านอาหารลุงนวย ม.2 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จว.พระนครศรีอยุธยาโดยใช้วิธีใช้ความร้อนเป่าตัดบริเวณด้านหลังของตู้เอทีเอ็มทั้งสองตู้ปรากฏว่าไม่สามารถงัดเอาเงินสดในตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ออกไปได้แต่สามารถงัดเอากล่องใส่เงินตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพจำนวน 3 กล่องแล้วขับรถหลบหนีจากจุดเกิดเหตุได้ประมาณ 5 กม.แล้วงัดเอาเงินสดจากกล้องใส่เงินได้เงินไป 2,000,000 บาทแต่รถยนต์ของคนร้ายเกิดติดหล่มและเกิดไฟลุกไหม้รถขณะพยายามจะนำรถขึ้นจากหล่มแต่ไม่สำเร็จคนร้ายจึงได้ทิ้งรถแล้วหลบหนีไป
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้บูรณาการร่วมกันออกสืบสวนหาข่าวจนสามารถสืบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 5 ครั้งนี้เป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกันซึ่งมีประวัติเป็นแก๊งลักรถจักรยานยนต์มาก่อนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาออกหมายจับผู้ต้องหารวม 4 คนต่อมาวันที่ 9 ก.ค.61เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ติดตามจับผู้กุมตัวนายบุญญฤทธิ์ได้ในพื้นที่เขตสายไหม นายธวัชชัย จับกุมตัวได้ในเขตพื้นที่อ.พุทธมณฑล จว.นครปฐม นายพณภัทร จับกุมตัวได้ในเขตพื้นที่อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ และนายสมประสงค์จับกุมตัวได้ในเขตพื้นที่อ.ธัญบุรี จว.ปทุมธานี

จากการสอบสวนนายสมประสงค์ให้การรับสารภาพว่าพวกตนได้ศึกษาวิธีการโจรกรรมตู้เอทีเอ็มมาจากโซเชียล และจัดหาสั่งซื้ออุปกรณ์มาจากทางอินเตอร์เน็ตและภายหลังจากก่อเหตุแล้วได้เงินมาก็จะนำเงินมาแบ่งกันและนำไปใช้จ่ายส่วนตัวและจ่ายหนี้สินทายผลพนันฟุตบอล

โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า“ร่วมกันลักทรัพย์และพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปและเพื่อให้พ้นการจับกุม”
จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Loading