วันอาทิตย์, 17 พฤศจิกายน 2567

รองโจ๊ก!!แถลงผลการจับกุมเครือข่าย โอดี แคปปิตอล”

11 ก.ค. 2018
44

รอง โจ๊ก “แถลงผลการจับกุมเครือข่าย!!โอดี แคปปิตอล”จับ 21 ราย มูลค่าเสียหาย 120 ล้านบาท!!

เมื่อเวลา 11.30น. วันที่ 11 กรกฎาคม 2561 ณ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผบช.ก. พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. แถลงผลจับกุมนายชินวัตร น้อยวัน ระดับผู้บริหารและผู้ต้องหาเครือข่าย โอดี แคปปิตอล (OD Capital) รวมจำนวน 21 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 120 ล้านบาท และยังตรวจยึดอาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม. จำนวน 3 กระบอกและอาวุธปืนกลยาวอีก 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมากที่บ้านพักของนายชินวัตรย่านปทุมธานี

ด้วยศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนผู้ได้รับความเสียหาย จาก ผู้ประกอบการ เครือ OD Capital จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ประสานงานกับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบจากการสืบสวนสอบสวนพบว่า OD Capital บริษัทดังกล่าวดำเนินการในลักษณะของบริษัทโฮลดิ้ง หรือ ประกอบการในลักษณะนำเงินไปลงทุนในบริษัทหรือกิจการอื่นๆโดยผู้ประกอบการจะระดมเงินทุนมาจากประชาชนทั่วไป โดยเข้าติดต่อชักชวน หรือมีการโฆษณาเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ว่าเมื่อนำเงินมาลงทุนกับ OD Capital แล้ว จะได้รับผลตอบแทน 10 % ของเงินลงทุน นอกจากนี้หากสามารถชักชวนคนมาร่วมลงทุนได้ จะได้ผลตอบแทนเป็นค่าคอมมิสชั่น เพิ่มเติมอีกจากการตรวจสอบพบว่า OD Capital ไม่ได้มีการจดทะเบียนพานิชยกิจ ในประเทศไทย ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการจาก กลต.และ สคบ.พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ จากศาลโดยศาลอนุมัติหมายจับให้จับกุมตัว นายชินวัตร น้อยวัน กับพวก รวม 32 คน ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2561 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผอ.ศปอส.ตร. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ร่วมบูรณาการกำลังกับเจ้าหน้าที่ ปปง. เข้าปิดล้อมตรวจค้น จำนวน 15 จุดเพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ สามารถจับกุม ผู้ต้องหาได้ จำนวน 22 ราย โดยผู้ต้องหา อีก 8 ราย ยังอยู่ต่างประเทศ อีก 2 รายอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมซึ่งเป็นผู้ต้องหาชาวมาเลเซียได้ติดต่อเข้ามอบตัวอยู่ระหว่างการติดต่อรับตัวเพื่อทำการสอบสวนอยู่ จากการตรวจประวัตินายชินวัตรทราบว่าเคยเป็นแม่ทีมฉ้อโกงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กาแฟออร์กาโน่ โกลด์ ในเครือของ OG Miracle เมื่อปี 2556 อีกด้วย

ในส่วนของพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๗ มาตรา ๔[๔] ผู้ใดโฆษณาหรือประกาศให้ปรากฏต่อประชาชนหรือกระทำด้วยประการใด ๆ ให้ปรากฏแก่บุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไปว่า ในการกู้ยืมเงิน ตนหรือบุคคลใดจะจ่ายหรืออาจจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้ตามพฤติการณ์แห่งการกู้ยืมเงิน ในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ โดยที่ตนรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าตนหรือบุคคลนั้นจะนำเงินจากผู้ให้กู้ยืมเงิน รายนั้นหรือรายอื่นมาจ่ายหมุนเวียนให้แก่ผู้ให้กู้ยืมเงิน หรือโดยที่ตนรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า ตนหรือบุคคลนั้นไม่สามารถประกอบกิจการใด ๆ โดยชอบด้วยกฎหมายที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนพอเพียงที่จะนำมาจ่ายในอัตรานั้นได้ และในการนั้นเป็นเหตุให้ตนหรือบุคคลใดได้กู้ยืมเงินไปผู้นั้นกระทำความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน มาตรา ๑๒ ผู้ใดกระทำความผิดตามมาตรา ๔ หรือมาตรา ๕ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ห้าแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาทตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ จากการบุกกวาดล้างในครั้งนี้ได้ตัวการใหญ่ที่มีทีมงานหลายสายและสามารถจะตรวจสอบและยังมีส่วนที่อยู่ระหว่างติดตามจับกุมชนิดแบบถอนรากถอนโคนไม่ให้เหลือเครือข่ายของแก๊งค์นี้อีก ขอขอบคุณ@สะมะบัติ เอื้อเฟื้อข้อมูลภาพ/ข่าวสาร

Loading