ยโสธร หลวงปู่บุญมีพระเกจิชื่อดังสายวิปัสสนาละสังขารแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (12 ก.ค 61)หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ เจ้าอาวาสวัดป่าศิลาพร ตำบลหนองหิน อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ได้ละสังขารด้วยอาการสงบจากอาการปลอดติดเชื้อฉับพลัน ที่กุฏิกลางน้ำภายในวัดป่าศิลาพร เมื่อเวลา 00.45 น. ของวันที่ 12 กรกฎาคม 2561 สิริอายุได้ 91 ปี 71 พรรษา โดยก่อนหน้านี้หลวงปู่บุญมีฯได้มีอาการอาพาธมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว และต้องเข้ารับการรักษาจากทีมแพทย์อย่างใกล้ชิดแต่อาการไม่ดีขึ้นหลวงปู่บุญมีฯจึงขอกลับมาพักรักษาตัวเองที่ภายในกุฏิกลางน้ำภายในวัดป่าศิลาพร และอาการทรุดหนักจนละสังขารลงในที่สุดเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ล่าสุดเช้าวันนี้ นายนิกร สุกใส ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ได้เดินทางเข้าไปสักการะกราบไหว้สังขารของหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ ที่ภายในกุฏิกลางน้ำภายในวัดป่าศิลาพร โดยมีพระลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดคอยอำนวยความสะดวกและเตรียมจัดพิธีบำเพ็ญกุศลสรีระสังขารตามประเพณีปฏิบัติอย่างเรียบง่าย เนื่องจากก่อนที่หลวงปู่บุญมีฯท่านจะละสังขารได้มีการสั่งเสียให้กับพระอุปฐากว่าให้จัดพิธีบำเพ็ญ
กุศลสรีระสังขารของตนเองแบบเรียบง่ายโดยให้บำเพ็ญกุศล จำนวน 7 วัน และให้ทำพิธีถวายเพลิงศพทันที
หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ เกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2469 ตรงกับแรม 13 ค่ำ เดือน 12 ปีขาล ณ บ้านหนองแสง ตำบลสิงห์ อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบันเป็น อ.เมือง จ.ยโสธร) อุปสมบท เมื่อวันปวารณาออกพรรษา ตรงกับวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2489 ณ วัดสร่างโศก อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบันคือ วัดศรีธรรมาราม อ. เมือง จ. ยโสธร) โดยมีพระครูพิศาลศีลคุณ (โฮม วิสาโท) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “ปริปุณฺโณ”
“ปริปุณโณ แปลว่า ผู้เปี่ยมด้วยบุญ”
หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ เคยไปจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าหนองโดก (วัดป่าโสตถิผล) จ.สกลนคร และได้เข้ารับการอบรมธรรมกับหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ที่วัดป่าบ้านหนองผือ จนหลวงปู่มั่นละสังขารลงในปีนั้นต่อได้ไปอยู่ศึกษาธรรมกับหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่วัดป่าบ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร จากนั้นจึงติดตามหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน มาสร้างวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี ตั้งแต่พรรษาที่ 11 (ปี พ.ศ. 2500) และอยู่อบรมกรรมฐานกับพระหลวงตามหาบัว เรื่อยมาจนถึงพรรษาที่ ๓๐ (ปี พ.ศ. 2519)
สมัยที่อยู่ที่วัดป่าบ้านตาด หลวงปู่บุญมีฯ ท่านจะมีเมตตาโอบอ้อมอารีกับพระภิกษุรุ่นน้อง คอยให้คำแนะนำเรื่องธรรมวินัย บางครั้งเมื่อหลวงตาท่านดุ และไล่พระที่ทำผิดออกจากวัด หลวงปู่บุญมีฯ ก็จะออกรับแทนพระผู้น้อยขอโอกาสให้กับภิกษุนั้น ๆ ความอนุเคราะห์เหล่านี้ หลวงปู่บุญมี ท่านจึงเปรียบเหมือนพี่ชายใหญ่แห่งวัดป่าบ้านตาด กอปรกับท่านเป็นพระที่มีจริยาวัตรงดงาม ดังคำที่หลวงตามหาบัวเคยกล่าวไว้ “..ท่านเพียร-ท่านบุญมี เรียบร้อยเหมือนกันหมด ไม่มีด่างพร้อย เรียบร้อยในการปฏิบัติธรรมของท่าน ท่านเพียร ท่านบุญมี ท่านปฏิบัติเอาจริงเอาจังเหมือนกัน..”
จากนั้นหลวงปู่บุญมีฯ ได้มาอยู่ปฏิบัติธรรมที่วัดถ้ำยานาโพธิ์ (ภูลังกา) อ.บ้านแพง จ.นครพนม ตั้งแต่พรรษาที่ 32-42 (ปี พ.ศ. 2521 – 2531) จากนั้นท่านจึงมาสร้างวัดป่านาคูณ บ้านนาคูณ ต.บ้านค้อ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี อยู่ตั้งแต่พรรษาที่ 44-68 (ปี พ.ศ. 2533 – 2557) และในพรรษาที่ 69-72 (ปี พ.ศ. 2558 – 2561)หลวงปู่บุญมี ปริปุณฺโณ ได้มาจำพรรษา ณ วัดป่าศิลาพร อ.เมือง จ.ยโสธร สิริอายุ 91 ปี 71 พรรษา และได้มีการสร้างเจดีย์ผู้มีบุญขึ้นภายในวัดป่าศิลาพรแห่งนี้จนแล้วเสร็จเมื่อประมาณปลายปี 2560 ที่ผ่านมา ด้วยงบประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งภายในเจดีย์ผู้มีบุญได้มีการบรรจุอัฐิธาตุของพระเกจิชื่อดังทั่วประเทศเพื่อให้ประชาชนได้ไปสักการะกราบไหว้
เจดีย์ผู้มีบุญ มีความหมายดังนี้ คือ เจดีย์ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุหรือที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ อัฐิธาตุพระสาวก อัฐิธาตุครูบาอาจารย์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้มีบุญทั้งสิ้น รวมถึงพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสร้างองค์เจดีย์ก็ล้วนเป็นผู้มีบุญเช่นกัน จึงได้ชื่อว่า “เจดีย์ผู้มีบุญ”
เจดีย์ผู้มีบุญ ตั้งอยู่วัดป่าศิลาพร บ้านโนนสวาท (หนองหมากแซว) ต.หนองเป็ด อ.เมือง จ.ยโสธร ห่างจาก จังหวัดยโสธร ประมาณ 20 กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อ วันที่2 ธ.ค. 2558 ฉลองเจดีย์ในวันที่ 2 ธ.ค. 2560 ใช้เวลาก่อสร้าง ๒ ปี สิ้นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง ประมาณ 30 ล้านบาท
เจดีย์ผู้มีบุญ เป็นเจดีย์ที่สร้างด้วยหินแกรนิตทั้งองค์ ครึ่งล่างขององค์เจดีย์ เป็นรูปทรงแปดเหลี่ยม ส่วนครึ่งบนเป็นรูปทรงกลม เรียวขึ้นไปจนถึงปลายยอด ความสูงขององค์เจดีย์ วัดจากพื้นชั้นล่างถึงปลายยอด สูง 30.5 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางของฐานเจดีย์ 13.5 เมตร ความกว้างของลานเจดีย์ 35×35 เมตร
ภาพ/ข่าว สมัย คำแก้ว
รายงานจากยโสธร