สุโขทัย Slow love farm ศูนย์เกษตรแนวใหม่พลิกแล้งทำรายได้เต็มพื้นที่
จากปัญหาแล้งซ้ำซาก ถึงขนาดไส้เดือนก็ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ แต่ด้วยความมุ่งมั่นของนายอนุสรณ์ มีบุญ เกษตรกรยุคใหม่ อายุ 29 ปี พลิกฟื้นผืนดิน 12 ไร่ ตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่รู้จักกันดีในนามศาสตร์พระราชา ขุดบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงกบ ปลูกพืชผักสวนครัว เช่นชะอม มะเขือยาว พริก ข่า ตะไคร้ มะนาว ปลูกไม้ผล ไม่ยืนต้น เช่นมะม่วง มะพร้าว มะปราง ขนุน ด้วยการใช้กล้วยน้ำว้าเป็นพี่เลี้ยงคลุมดินให้ความชุ่มชื้น เลี้ยงวัวเนื้อ 10 ตัว เลี้ยงไก่ไข่ 150 ตัว และพยายามเก็บกักน้ำฝนในท้องร่อง ที่ใช้ปลูกไม้ผล 27 ร่อง ทั้งหมดเพื่อให้ครอบครัวสามารถพึ่งพาตนเองให้อยู่รอดในยุคข้าวยาก หมากแพง รวมถึงต้องละทิ้งความฝันในเมืองใหญ่ หลังจากเรียนจบคณะนิเทศศาสตร์ เพราะแม่ซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวล้มป่วยจากการติดเชื้อราในสมอง และตาเริ่มจะมองไม่เห็น และเป็นการตัดสินในกลับมาปักหลักปักฐานที่บ้านเกิด เมื่อ 5 ปีที่แล้ว
นายอนุสรณ์ มีบุญ กล่าวว่า กว่าจะมาเป็น Slow love farm ที่เติบโตมาด้วยหยาดเหงื่อและความรักของครอบครัว อย่างช้าๆ เริ่มจากปลูกเพื่อให้แม่ได้กินของดีไม่มีสารเคมี ค่อยๆขยับมาเป็นรายได้จุนเจือครอบครัว จนเริ่มเป็นที่รู้จักของผู้รักสุขภาพ จึงคิดตอบแทนคุณแผ่นดินด้วยการเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ และสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ได้หันกลับมาอยู่บ้าน อยู่กับพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ด้วยการทำเกษตรผสมผสาน ปลอดภัยจากสารพิษ เน้นหลักลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ จัดระบบการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ให้เหมาะสมกับพื้นที่ เพื่อลดความเสี่ยงในการประกอบอาชีพ แต่ยังคงราคาแบบชาวสวน เพื่อให้ผู้บริโภคเลิกคิดว่าสินค้าเกษตรอินทรีย์ต้องราคาแพง และเปิดตลาดกลางเพื่อนำสินค้าชุมชนเช่นข้าวสินเหล็ก น้ำผึ้งเดือน 5 มาขายทางออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง อีกทั้งยังประเมินการตอบรับจากผู้บริโภคได้ทันที ซึ่งเป็นที่ยอมรับของเพื่อนบ้านและชุมชนแวดล้อม
นายพยุงศักดิ์ สิทธิลภ เกษตรอำเภอบ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย กล่าวว่า ด้วยความทุ่มเทของนายอนุสรณ์ มีบุญ จนเป็นที่รู้จักและได้รับเลือกให้เป็นเกษตรกรดีเด่นสาขาไร่นาสวนผสม จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2560 ได้รับเลือกให้เป็น Young smart farmer เกษตรกรต้นแบบของจังหวัดสุโขทัย ทางเกษตรจังหวัดสุโขทัย จึงสนับสนุนให้เป็นศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าการเกษตร ของอำเภอบ้านด่านลานหอย ซึ่งพร้อมในการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรรายอื่นๆ เพื่อก่อให้เกิดการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกัน ทั้งการผลิต การตลาด ให้เกิดความยั่งยืนด้านอาหาร ทั้งในระดับอำเภอและจังหวัด
