เจ้าหน้าที่สามฝ่ายจับยาบ้าสองพี่น้องลาหู่คาด่านตรวจผาหงส์
วันที่ 19 กรกฏาคม 2561 เวลา0100 น ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล คสช ให้ปราบปรามยาเสพติดให้หมดโดยการอำนวยการของ พลตำรวจเอก พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค5 พลตำรวจตรี ภาณุเดช บุญเรือง รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค5 พลตำรวจตรีสราวุธ สงวนโกศัย ผู้บังคับตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พันตำรวจเอกมงคล สัมภวะผล รองผู้บังคับตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พันตำรวจเอก ทรงกริช ออนตระไคร้ รองผู้บังคับตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ให้ พตอ. ชลเทพ ใหม่ไชย ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ พันตำรวจโทสำราญ มงคลแก้ว รองผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรไชยปราการ พันตำรวจโท ธนัท เพชรแสนงาม ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน334 พันโท เดชพร บุญยรัตพันธ์ ผู้บังคับกองบังคับการควมคุมที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 4 กองกำลังผาเมือง ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ตั้งด่านถาวรที่บ้านผาหงส์ ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีทหารกองกำลังผาเมือง และตำรวจตระเวนชายแดน334 มาร่วมในการตรวจค้นผู้ต้องสงสัยมียาเสพติด ที่เดินทางออกไปยังต่างจังหวัด ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล คสช ให้มีการร่วมกัน 3 ฝ่าย ทำการตรวจค้นสกัดกั้นยาเสพติด โดยมี พตท.นิกร สุตจริตธรรม สารวัตรอำนวยการสถานีตำรวจภูธรบ้านธิ จังหวัดลำพูน ปฏิบัติราชการสถานีตำรวจภูธรไชยปราการ
หัวหน้าจุดตรวจผาหงส์ รตอ.ชัยยา กันทะวัน รตอ.นิรุท หลิ่งหล้า ดต.สง่า สะอาดล้วน ดต.เชวง เมืองมูล ดต.เฉลา เนตรสกุล สตต.ภาณุพันธ์ จันทวาลย์ สตต.ณัฐพล ยอดเมือง ส่วนตำรวจตระเวนชายแดน334 ดต.จิตติชัย จันทร์เอี่ยม และเจ้าหน้าที่ชุดสุนัขดมกลิ่น ดต.อาคม สุเมธา ทหารกองกำลังผาเมือง จสต.ธงชัย ทนจังหรีด สอ.เอกณรินทร์ ไม้หอม และทหารชุดสุนัขดมกลิ่น พลทหารอาสา ทศพล ภู่ทอง และชุดปฏิบัติการร่วมได้ทำการตั้งด่านตรวจได้ทำการตรวจรถกระบะสีขาวที่ขับมาถึงด่านตรวจ มีอาการพิรุธ จึงเชิญลงรถเพื่อทำการตรวจค้นในรถ และตัวคนขับและคนโดยสารมาด้วยกัน ซึ่งทราบชื่อทั้งสองคนเป็นญาติกัน คนขับชื่อนายชาติ อายุ 26 ปี อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และคนโดยสารมาด้วย นางอภิ อายุ 25 ปี อำเภอฝาง จังหวัด
เชียงใหม่ ซึ่งเป็นญาติกัน ทราบว่าจะไปขึ้นเครื่องบินเข้ากรุงเทพฯ ทางพตท.นิกร สุตจริตธรรม รตอ.ชัยยา กันทะวัน ดต.เฉลา เนตรสกุล ได้ขอทำการตรวจค้นในรถและในตัวของทั้งสองคน พบว่าในตัวของนางสาวอภิญญา อธิปัตยาภิพิชญ์ มียาบ้าซุกซ่อนอยู่ โดยซุกที่หน้าท้องและหลัง โดยจะนำยาบ้ายัดใส่ในสะเตย์รัดทรง ซึ่งเป็นซองพลาสติดจำนวน 120 ถุง มีสีฟ้าจำนวน110 ถุง และถุงสีดำจำนวน 10 ถุง ซึ่งรวมกันได้ทั้งหมดจำนวนประมาณ 26,000 เม็ด โดยทั้งสองยอมรับสารภาพว่าทำมาหลายครั้งทำแบบเดียวกันนี้และนำขึ้นเครื่องบินจากเชียงใหม่ถึงกรุงเทพเพื่อส่งนายทุนโดยจะได้ค่าจ้างครั้งละ 80,000 บาท ต่อครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวขยายผลไปยังบ้านของทั้งสองคน พบวัสดุที่ใช้ในการห่อยาบ้าตกอยู่ในห้องพักที่บ้านทั้งสองคน แต่ไม่ได้สิ่งผิดกฏหมายไดไดเพิ่มเติม จึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไชยปราการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายสำราญ แสงสงค์/จ.เชียงใหม่