ลพบุรี ปอร์เช่เสยจักรยานยนต์กลับกลางถนนร่างลอยละลิ่วตาย1สาหัส1
เมื่อเวลา 14.05 น. วันที่ 19 ก.ค.61 ร.ต.อ.นพ จิ๋วแหยม รอง สว.(สอบสวน) สภ.พัฒนานิคม อ.พัฒนานิคม ลพบุรี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.พัฒนานิคมว่าได้เกิดอุบัติเหตุที่ ถนนสายลพบุรีี – วังม่วง ระหว่างซอย 14-15 ต.พัฒนานิคมระหว่างรถยนต์เก๋ง กับรถจักรยานยนต์ ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวน 2 ราย จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.พัฒนานิคม นคร 88 และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดพัฒนานิคม
ที่เกิดเหตุกลางถนนพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อปอร์เช่ สีดำ หมายเลขทะเบียน ขค- 10 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพหน้ารถซ้ายมีร่องรอยการชนไฟหน้าแตก กระจกหน้าแตกเป็นรู และกระจกหลังแตกละเอียด ห่างจากรถเก๋งประมาณ 20 เมตรพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า สีแดง หมายเลขทะเบียน 1กณ-1097 ในสภาพท้ายรถพังยับเยิน เศษชิ้นส่วนอุปกรณ์ของรถกระเด็นกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ ที่กลางถนนพบร่างนายณรงค์ฤทธิ์ ทองกระเปาะ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ที่ 10 ต.แก้งเหนือ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี นอนหายใจรวยริน มีบาดแผลฉกรรจ ได้รับบาดเจ็บสาหัส แพทย์และพยาบาลได้ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้นก่อนรีบนำตัว ส่.รพเป็นการด่วน ใกล้กันพบศพน.ส.สุพัตรา บุญยืน อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 185/1 หมู่ที่ 6 ต.พัฒนานิคม อ.พัฒนานิคม ลพบุรี เสียชีวิตในสภาพคว่ำหน้า เลือดไหลนองพื้น มีบาดแผลฉกรรจ เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 30 นาที
จากการสอบสวน นายเอ (นามสมมุติ) ผู้ที่ขับขี่รถยนต์เก๋งปอร์เช่ ที่ยังตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เล่าว่าตนเองได้ขับรถมาตามถนนเส้นทางดังกล่าว โดยขับตามหลังรถจักรยานยนต์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุจู่ๆ รถจักรยานยนต์ ได้กลับรถแบบกระทันหัน ซึ่งเป็นทางตรงที่ตนเองขับมาด้วยความเร็วสูงไม่สามารถหยุดรถ หรือเบรกได้ทัน รถได้พุ่งชนรถจักรยานยนต์อย่างจัง จนทั้งรถทั้งคนกระเด็นไปคนละทิศละทาง โดยน.ส.สุพัตรา ผู้เสียชีวิตถูกแรงกระแทกที่กระจกด้านหน้า ส่วนนายณรงค์ฤทธิ์ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ร่างลอยกระเด็นตกลงบนกระจกรถด้านหลังจนแตกละเอียด ทั้งนี้ร้อยเวรเจ้าของคดียังไม่ได้สรุปถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ซึ่งต้องรอผลพิสูจน์จากตำรวจพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง โดยได้ควบคุมตัว นายเอ(นามสมมุติ)คนขับรถเก๋งหรู ส่งพนักงานสอบสวน สภ.พัฒนานิคมเพื่อสอบสวนดำเนินคดี ส่วนศพ น.ส.สุพัตรา ได้ส่งพิสูจน์ที่ รพ.อีกครั้ง ่ก่อนที่จะประสานญาตินำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
กฤษณ์ ลพบุรี