ผบช.สตม.กวาดล้างสกัดเมียนมาใช้วีซ่าปลอมระบาด เตือน!!ระวังนายหน้าหลอกพาติดคุก
พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม. โฆษก สตม.เปิดเผยว่า
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม.ได้รับรายงานทางการข่าว
ว่าในช่วงเดือน มิ.ย.ถึง ก.ค.มีคนสัญชาติเมียนมา ใช้หนังสือเดินทางที่มีวีซ่าไทยปลอมระบาดเข้าเมืองเป็นจำนวนมาก
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.สตม.จึงสั่งการให้ประสานขอข้อมูลรอยตราวีซ่าจากกรมการกงสุล และสถานทูต สถานกงสุลไทยในเมียนมา เพื่อเป็นแบบในการตรวจสอบ และระดมกำลัง จนท.ตม.ทั่วประเทศ เพิ่มมาตรการเข้มในการกวาดล้าง ตามแหล่งที่พัก ชุมชน ที่เกี่ยวข้อง
ผลการปฏิบัติในการเข้าตรวจสอบอย่างต่อเนื่องจริงจัง ตั้งแต่ 1 มิ ย.-22 ก.ค.2561 สามารถจับกุมชาวเมียนมา ที่มีวีซ่าปลอมทั้งสิ้น 97 ราย โดยส่วนใหญ่กว่า 90% ใช้วีซ่าท่องเที่ยว และพื้นที่ที่มีการจับกุมสูงสุดคือพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งมีชายแดนติดกับประเทศเมียนมา โดยเฉพาะ จว.ตาก รองลงมาเป็นพื้นที่ภาคกลาง
นอกจากนั้น พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ฯ ได้สั่งการให้ทุกด่าน ตม.ทั้ง ตามแนวชายแดน และ ด่านท่าอากาศยาน เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยได้สั่งการให้ บก.ตม.ในสังกัด ให้ข้อมูลตัวอย่างวีซ่า ใช้ในการเปรียบเทียบ เพื่อป้องกันการแฝงตัวเข้าประเทศ โดยเฉพาะการฉวยโอกาสในช่วงเร่งรีบที่มีจำนวนผู้เข้ารับการตรวจหนาแน่น ซึ่งขณะนี้ จนท.ตม.ทั่วประเทศ ได้ลง scan พื้นที่ เพื่อเร่งกวาดล้างโดยเร็ว
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2561 ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.จันทร์ชัย แดงประเสริฐ ผกก.ด่าน ตม.ดอนเมือง ว่า สามารถจับกุม น.ส.เคเคียงโอ ใช้วีซ่าไทยในกรุงย่างกุ้งปลอม สอบสวนรับว่า มีนายหน้าใช้ชื่อบริษัท Apple service คอยเสนอทำวีซ่าบริเวณใกล้สถานกงสุลในเมียนมา เสียค่าทำประมาณ 260,000 จ๊าด หรือ 6,000 บาท
ขณะนี้ ทาง สตม.ร่วมกับ ตำรวจหลายหน่วยงาน ได้ประสานการทำงาน ทั้งในและต่างประเทศ ร่วมกัน สืบสวนขยายผล เพื่อทลายขบวนการนี้โดยเร็วต่อไป
พล.ต.ต.อิทธิพลฯ ได้ถือโอกาสนี้ แจ้งเตือนไปยัง พี่น้องชาวเมียนมา ให้ระมัดระวังขบวนการนายหน้า ที่หลอกให้ทำวีซ่าปลอม โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งจะทำให้ตกเป็นผู้ต้องหา ฐานปลอมแปลงเอกสาร มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 269/13 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1- 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท ทันที
รวมถึงผู้ประกอบการ ที่เป็นนายจ้าง ต้องตรวจสอบเอกสารการเดินทาง และประเภทของวีซ่าตามที่กฎหมายกำหนดให้ดี และใช้ให้ถูกประเภท เพราะอาจได้รับผลกระทบไปด้วย